“ปิดทองหลังพระ” สำนวนนี้คุ้นหูคนไทยมาตั้งแต่เกิดแล้ว เพราะตามราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า “ทำความดีโดยไม่เปิดเผย” ซึ่งก็มีหลายคนที่ยึดถือจะทำแบบนี้โดยที่ไม่ได้บอกหรือป่าวประกาศให้โลกต้องรู้ว่า “ฉันทำนะ” ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงว่าคนทำดีทุกคนแล้วโลกต้องรู้คือผิด เพราะแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบุคคล ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม
ซึ่งล่าสุดในไอจีของ “ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ” ที่ใช้ชื่อว่า @krungor ได้ขอแชร์เรื่องราวดีๆ ที่คนไทยบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าบุคคลท่านนี้ทำอะไรเพื่อประเทศไทยไปบ้าง เพียงแต่สิ่งที่บุคคลท่านนี้ทำแต่ไม่ได้เป็นข่าวเสมอไป
“ขอแชร์อะไรนิดนึง ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พระองค์ท่านมักโปรดให้ความช่วยเหลือแบบนี้ตลอด ครั้งหนึ่งสมัยเด็ก 13 คนติดถ้ำ พี่ศิลปินท่านนึง(ไม่ประสงค์ออกนาม) ที่ไปช่วยเหลือที่หน้างานเล่าให้ฟังว่า พระองค์จะส่งคนมาช่วยหน้างานแบบเงียบๆ ไม่ขอให้ทำข่าว คนมาช่วยก็แสนจะสุภาพ มีครั้งนึงที่ต้องการอุปกรณ์ดำน้ำในถ้ำที่หายากต้องสั่งจาก ตปท. ทางทีมไทยโทร.ไปที่ร้าน เจ้าของร้านบอกว่าคิงของยูส่งคนมาซื้อไปให้แล้วเลยทำให้อุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยเด็กได้รวดเร็ว ครั้งเมื่องานถวายพระเพลิง พระองค์ก็สั่งเบาะมาให้ประชาชนนั่งไม่ให้เจ็บถ้าต้องนั่งกันนานๆ ปีก่อนก็ถวายเงินช่วย รพ. หลายพันล้าน ไหนจะเมื่อประมาณสองอาทิตย์ก่อนที่พระองค์ถวายเครื่องช่วยหายใจกับโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าวครึกโครม มีเพียงพวกแพทย์โพสต์กันเองในเพจ ครูเห็นว่าพระองค์ท่านรักประชาชนและคอยดูแลเสมอ ขอกราบในพระมหากรุณาธิคุณและขอพระองค์จงทรงพระเจริญ ข้าพเจ้าจะทำหน้าที่ของพลเมืองให้ดีเท่าที่ความสามารถมี”
#จะไม่ถามว่าแผ่นดินให้อะไรกับเรา
#แต่จะถามว่าเราให้อะไรกับแผ่นดิน
#จำไม่ได้ว่าใครกล่าวไว้
#รู้แต่ว่ากล่าวไว้ได้ดีจริงๆ
และในแต่ละรูปที่โพสต์ประกอบกับแคปชั่นไม่ว่าจะเป็นภาพในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ ทรงพระราชทานหน้ากากอนามัย 2 ล้านชิ้น, Face Shield 30,000 ชิ้น, ชุดป้องกันการติดเชื้อโรค (PPE) 4,000 ชุด รวมไปถึงพระราชทานเครื่องช่วยหายและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนในรูปถัดไปเป็นภาพ “ถุงพระราชทาน” โดยในเนื้อภาพในรูปเล่าให้ฟังว่า “ถุงพระราชทานมาตอนดึกๆ มาแบบเงียบๆ เงียบมาก” หรือจะเป็นบางความรู้สึกของคนที่ได้รับถุงพระราชทาน โดยเป็นข้าราชบริพารมาเคาะประตูหน้าบ้านในตอนดึกๆ พร้อมคำพูดสั้นๆ แต่คนฟังแล้วน้ำตาคลอว่า “ผมนำถุงยังชีพพระราชทานจากในหลวงมาให้” ด้านผู้รับยังเผยพร้อมน้ำตาว่าไม่เคยคิดว่าครอบครัวตนเองจะได้รับความเมตตาจากพระองค์ท่าน