อลหม่านจากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่พอ ล่าสุดวงการบันเทิงก็ต้องเศร้า เมื่อได้รับข่าวร้ายการเสียชีวิตของดารารุ่นใหญ่ "ดวงชีวัน โกมลเสน" หรือ "ไก่" อายุ 64 ปี เจ้าของฉายาบั้นท้ายดินระเบิดแห่งวงการภาพยนตร์ไทย ซึ่งถูกพบว่าเสียชีวิตในโรงแรมที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจ 30 นาทีแต่ไม่ฟื้น ไม่มีอาการตอบสนอง คาดหัวใจวายเฉียบพลัน
สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมและรดน้ำศพจะจัดขึ้นในวันเสาร์ท่ 4 เม.ย. ณ วัดผาสุกมณีจักร (เมืองทองธานี) แจ้งวัฒนะ ศาลา3 เวลา 15.30น. สวดอภิธรรมศพเวลา 17.00 ก่อนทำพิธีฌาปนกิจ เวลา15.00 วันอังคารที่ 7 เมษายน ณ เมรุวัดผาสุกมณีจักร
อย่างไรก็ตาม เพจดาราภาพยนตร์ ได้เผยประวัติ ไก่ ดวงชีวัน นักแสดงสุดเซ็กซี่เจ้าของฉายา "บั้นท้ายดินระเบิด" ของวงการหนังไทย เอาไว้อย่างละเอียด โดยเผยว่าสมัยก่อนเข้าวงการแสดง ไก่ ดวงชีวัน ต้องไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา (ตอนอายุ14ปี) เนื่องจากคุณพ่อเสียชีวิต จนเมื่อเดินทางกลับเมืองไทยได้รับการทาบทามจากนักปั้นมือทองในยุคนั้นคือคุณสมชาย นิลวรรณ ให้เข้าสู่วงการจากเวทีประกวดนางงามในขณะอายุ 20 ปี เป็นสาวนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ และเธอก็ได้ครองตำแหน่ง มิสออด๊าซ โดยการคัดเลือก และ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด มิสเวิลด์ ที่ประเทศอังกฤษ
เมื่อบินกลับมาเธอก็เริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิง พร้อมฉายา หุ่นเซ็กซี่สะโพกดินระเบิด ที่ได้มาตั้งแต่ตอนที่ประกวดนางงามด้วยสัดส่วน 35 22 40 เป็นสาวร่างสูงที่เอวคอดและสะโพกใหญ่
เมื่อประมาณกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่หนังไทยกำลังเฟื่องฟู มีหนังไทยให้ดูกันปีละกว่า 200 เรื่อง หากนึกถึง “เซ็กซี่สตาร์” ที่โด่งดังในอดีต ย่อมต้องนึกถึง ชื่อของ ดวงชีวัน โกมลเสน หรือ ไก่ เป็นนักแสดงสุดเซ็กซี่เจ้าของฉายา บั้นท้ายดินระเบิด ซึ่งเธอกลายเป็นนักแสดงที่เซ็กซี่ที่สุดและฉายาที่ได้รับทำให้บทบาทที่ได้รับส่วนใหญ่จะเป็นนางร้าย และนางรอง แต่ด้วยสัดส่วนที่ถือว่าเขย่าใจเสือป่าให้ได้รับการปลุกใจทำให้เธอสามารถโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้เป็นเวลายาวนานทีเดียว
ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากคือเรื่องใต้ฟ้าสีคราม ที่เธอรับบทเป็นสาวชาวเขา ภาพยนตร์ทำรายได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก และที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากคือบทบาทเลื่อมลายวรรณในภาพยนตร์เรื่องไกรทอง (เวอร์ชั่นคลาสสิค)
ช่วงที่ประสบความสําเร็จในอาชีพนักแสดงนั้นเธอมีคิวถ่ายทำภาพยนตร์ที่รับเล่นถึงวันละ 4 เรื่อง กลางวัน 2 เรื่องกลางคืน 2 เรื่อง โดยมีคุณแม่คอยจัดคิวให้ และมีงานหนักที่สุดก็คือมีงานโชว์ตัวทั้งหมด 20 งาน ภายในคืนเดียวก็เคย (ในอดีตเคยสมรสกับเพื่อนนักแสดงร่วมวงการ รณ ฤทธิชัย : หย่าร้างโดยไม่มีบุตรด้วยกัน )
ต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ยุค35ม.ม เสื่อมลง ชีวิตในวงการบันเทิงของเธอก็จางหายไปด้วย เธอหันมาจับงานเบื้องหลังโดยการเปิดบริษัท ดวงชีวัน ครีเอชั่น จำกัด รับงานออแกไนเซอร์ ผลิตวิดีโอคาราโอเกะ รุ่งเรืองอยู่พักใหญ่สมัยที่สังคมไทยนิยมชมมิวสิกวิดีโอประกอบเพลงจนถึงยุคที่คาราโอเกะหมดความนิยมลงธุรกิจก็ไม่ประสบความสําเร็จ
กลายเป็นคนที่มีหนี้เป็นสินท่วมตัวชนิดว่าเคยทำใจโกนหัวบวชชีเรียกสติ กลับมาและหวนคืนมารับงานแสดงในวงการบันเทิงอีกครั้ง จนชีวิตก็พลิกผัน กลายมาเป็นร่างทรง “เจ้าแม่จามเทวี” หลังจากการขึ้นไปถ่ายละครเรื่อง “ทายาทสววรรค์” ที่ อุทยานล้านนารีสอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในเรื่องเธอรับบทเป็นพระมเหสีของเจ้าผู้ครองนคร
ซึ่งเธอเคยใหญ่สัมภาษณ์ไว้ว่าตอนนั้นได้คิดลองของบอกไปว่า “ถ้าท่านศักดิ์สิทธิ์จริง กลับไปขอให้ไก่มีลูก” ที่เธอพูดทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีทางที่จะมีลูกได้ เพราะเคยตรวจสุขภาพและคุณหมอยืนยันเช่นนี้ แต่กลับมาไม่นานก็มีลูกสาว 1 คน(พิมดารา โกมลเสน : อาชิรญา อมราพิทักษ์ )
จุดเริ่มต้นจึงเกิดขึ้นจากนั้นไม่นาน ดวงชีวันก็กลายเป็นร่างทรงของพระนางจามเทวี โดยไม่ตั้งใจ และเคยเปิดตำหนักทรงอยู่ที่จังหวัดนครปฐมพักใหญ่ก่อนจะเลิกราเพราะปัญหาด้านสุขภาพกับโรคประจำตัวด้านสายตา ความดันโลหิตสูง โรคหอบ
และมาเสียชีวิตในวัย 64 ปี ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันที่ห้องพักของเธอ ซึ่งอยู่ในบริเวณไกล้กัโรงแรมของลูกเขย ที่อำเภอปากช่อง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยไดพยายามช่วยปั๊มหัวใจอยู่ 30 นาทีแต่ไม่สามารถกู้ชีวิตไว้ได้
