นางฟ้าชัดๆ “เบลล่า” วอนอย่าโฟกัสที่ตัวเงิน ควักเงินส่วนตัว 2.5 ล้านช่วยโรงพยาบาล ลั่นเป็นการตอบแทนแผ่นดินเกิด ขอบคุณหมอก้องที่ช่วยจัดการ พร้อมเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้บุคคากรทางการแพทย์ผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ไปให้ได้
นางฟ้าไม่ได้มีแค่บนสวรรค์เท่านั้น แต่นางฟ้าเดินดินอย่างนางเอก “เบลล่า ราณี แคมเปน” ที่ตอนนี้หลายคนยกตำแหน่งนี้ให้ เพราะควักเงินบริจาคช่วยเหลือโรงพยาลต่างๆ ไปจำนวน 2.5 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 5 มูลนิธิ ศิริราชมูลนิธิ, มูลนิธิรามาธิบดี, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียตริ, มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งมี “หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ” เป็นธุระจัดการให้ พร้อมยังวอนว่าอย่างมองที่ตัวเงิน เพราะทุกสิ่งที่ทำก็เพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิด
“ตอนแรกเลยเบลพยายามหาพวกอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย หรือชุดป้องกัน พอหาไปหามาเลยลองปรึกษาหมอก้อง หมอก้องก็อธิบายว่าอุปกรณ์ที่เราจะไปบริจาคให้เขามันจะต้องได้รับการรับรองทางการแพทย์ เราก็ไม่รู้ว่าความหวังดีที่เราอยากจะช่วย จะกลายเป็นไปทำให้คุณหมอหรือเจ้าหน้าที่ไม่ปลอดภัยไหม หรือจะกลายเป็นไม่ได้ใช้หรือเปล่า เลยตัดสินใจว่างั้นบริจาคเป็นเงินแทน เพื่อทางโรงพยาบาลจะได้นำไปใช้ประโยชน์ช่วยเหลือคนได้ตามความต้องการ แต่เราก็อยากที่จะเฉลี่ยๆ ให้แก่หลายๆ ที่ ให้แก่ด่านหน้า อย่าง รพ.ธรรมศาสตร์"
"เบลทราบมาว่ากำลังจะทำโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อรองรับผู้ป่วย และต้องการอุปกรณ์อย่าง เตียงสนาม อุปกรณ์ต่างๆ เบลก็เลยรู้สึกว่าเบลมีเงินส่วนตัวที่พอจะเป็นกำลังที่จะช่วยได้ และอีกอย่างที่ผ่านมาตลอดเบลก็ได้รับแรงสนับสนุนมาจากแฟนๆ ละคร ลูกค้า รวมถึงแผ่นเกิดของเราด้วย ที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ เลยตั้งใจที่อยากจะช่วยให้มากที่สุด"
วอนอย่ามองที่ตัวเงิน ฝากขอบคุณหมอก้องที่จัดการให้ พร้อมส่งกำลังใจให้ทีมแพทย์ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
"เอาจริงๆ เบลไม่ได้มองว่ามันเยอะหรือน้อย แต่เบลคิดว่าสิ่งที่เราทำให้เราเองก็มีกำลังพอ และสิ่งที่เราให้ไป เราอยากให้มันทำประโยชน์ได้จริงๆ เบลคิดแค่นี้ (มีการหาข้อมูลมาก่อนไหมว่าจะให้รพ.ไหน อย่างไร?) เอาตรงๆ เบลเองก็เหมือนประชาชนทั่วไปที่รับข่าวสารต่างๆ แต่เราก็พยายามหาข้อมูลว่าเราจะช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งต้องขอบคุณหมอก้องด้วย"
"คือหมอก้องให้รายละเอียดที่ดีและเป็นข้อมูลกับเบลเยอะมาก และคือเบลทราบจากหมอก้องว่าทางคุณหมอ รวมถึงหมอก้องเอง ทำงานหนักมาก แล้วตอนที่เบลหาข้อมูลก็ได้ทราบว่าตอนนี้มีหมอและเจ้าหน้าที่เริ่มติดเชื้อ จากการที่ผู้ป่วยปกปิดข้อมูล ทำให้เบลรู้สึกว่ามันเริ่มร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เพราะมีบุคลากรต้องถูกกักตัว ทำให้จำนวนคุณหมอและเจ้าหน้าที่น้อยลง คุณหมอและเจ้าหน้าที่คือด่านแรกเลย เบลอยากเป็นหนึ่งในกำลังใจน้อยๆ และเบลก็เชื่อว่าหลายๆ คน คนไทยทั้งประเทศพร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน รวมถึงผู้ป่วยทุกๆ คนด้วย ขอให้หายไวๆ และขอให้แพทย์ทุกคนเข้มแข็ง สุขภาพแข็งแรง"
“เบลก็อยากจะบอกทุกคนว่าช่วงเวลาแบบนี้เราสามารถช่วยกันได้ง่ายๆ แค่อยู่บ้าน หยุดการแพร่เชื้อ เพื่อตัวเราเอง เพื่อคนที่เรารัก และช่วยลดงานหนักของคุณหมอและเจ้าหน้าที่ด้วย”
