"บุ๋ม ปนัดดา "อยู่เฉยๆ ไม่ไหว เปิดองค์กรทำดี รับบริจาคเงินเพื่อซื้อชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน ลั่นขออาสาระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดและหน่วยกู้ภัยตามลำดับความสำคัญที่เหมาะสม โอดตนต้องไปไหว้เจ้าของโรงงานให้ผลิตให้ตน ซึ่งตอนนี้พร้อมกระจายชุดพันกว่าชุดทั่วประเทศไทยแล้ว
เมื่อเกิดวิกฤตบ้านเมืองทีไร สาว "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ไม่เคยนิ่งนอนใจ ในภาวะที่คนไทยกำลังเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 และเหล่าบุคคลากรทางการแพทย์ก็ขาดแคลนอุปกรณ์ ทำให้บุ๋มไม่นิ่งนอนใจ เปิดองค์กรทำดีระดมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือจัดซื้อชุด PPE personal protective equipment : อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล และอุปกรณ์แพทย์ให้กับแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง โดยประกาศรับบริจาคผ่านอินสตาแกรม ซึ่งสาวบุ๋มได่เล่าที่มาที่ไปของแรงบันดาลใจในการทำดีครั้งนี้ว่า...
"เริ่มมาจากที่เรามานั่งคิดว่าถ้าเรากลัว แค่นั่งดูข่าว ใช้ชีวิตไปในแต่ละวันเรายังกลัวขนาดนี้ว่าเราเป็นหรือยัง แล้วคนที่ต้องไปใกล้ชิด สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง เขาก็มีครอบครัว มีคนที่เขารัก รอเขากลับบ้าน แล้วเราก็เห็นภาพข่าวคุณหมอประเทศจีนบางคนเสียสละจนกระทั่งตัวเองเสียชีวิตไป ไม่ได้อยู่กับครอบครัว แล้วเราจะยอมให้เป็นอย่างนั้นเหรอ ดังนั้นสิ่งที่เรารู้สึกได้ก็คือเราจะทำอย่างไร แทนที่จะมานั่งด่า นั่งกะแนะกะแหนกัน นั่งจับผิดชาวบ้าน ใส่หน้ากากอนามันยัง ล้างเจลแอลกอฮอล์ยัง เราทำอะไรกันหรือยัง"
"ด้วยนิสัยของบุ๋มเองก็เป็นแบบนี้ คือเราลงมือทำเลย เห็นว่าหน้ากากอนามัยขาดแคลน ตัวบุ๋มเองจะใช้ก็หายาก ก็มาคิดว่าเราจะช่วยอะไรได้อีก ก็มีชุด PPE เป็นชุดป้องกันเชื้อ เป็นชุดกันน้ำ กันน้ำลาย น้ำมูกกระเด็นใส่ มีถุงมือ ถุงเท้า นอกจากคุณหมอที่ต้องใช้แล้วก็ยังมีพยาบาล และเจ้าหน้าที่พวกเขาต้องใช้เหมือนกันหมด"
"ในส่วนหนึ่งมีโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยที่เป็นโควิด - 19 แน่นอนแล้ว อีกโรงพยาบาลส่วนนึงก็ต้องคอยดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือไม่เป็น อีกกลุ่มคือเจ้าหน้าที่ที่ต้องไปหากลุ่มที่ไปกักตัวเองในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ที่เขาต้องเจอทั้งเลือด น้ำเหลือง น้ำลายโดยที่ไม่รู้ว่าคนที่เขาไปรับเป็นหรือไม่เป็น"
เผยต้องเข้าไปไหว้เจ้าของโรงงานให้ผลิตให้ ซึ่งโชคดีที่ตนรู้จักกับเจ้าของโรงงานเลยได้ชุดในราคาส่ง โดยเริ่มแรกนำทุนส่วนตัวซื้อบริจาคเอง
"ชุดนึงไม่ใช่ถูกๆ นะคะ พอดีบุ๋มรู้จักน้องคนนึงเขาทำโรงงานชุดนี้อยู่ บุ๋มก็ไปไหว้เขา ขอเถอะ เริ่มแรกซื้อจากเงินตัวเองบริจาคก่อน ก็ไม่นึกว่าจะกลายเป็นกระแสที่ทุกคนพร้อมใจช่วยกันขนาดนี้ เห็นคุณค่าของชุดนี้มากขนาดนี้ มันขาดแคลนจริงๆ ขนาดโรงพยาบาลใหญ่ๆ ยังขึ้นบริจาคเลย ต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง แล้วหลังจากที่เราเปิดหัวบริจาคแล้วก็มีคนต่อสายตรงทุกช่องทางเข้ามาหาเราว่าอยากร่วมด้วย เราเลยขึ้นโพสต์ในนามองค์กรทำดี ปีก่อนน้ำท่วม ปีนี้ก็มาโควิด-19 ใครอยากจะมาช่วยกันมาเลย คนละ100 บาท 3-4 คนก็ได้แล้ว 1 ชุด อย่างที่บอกว่าโชคดี เราได้ที่ชุดละ 380 บาท นี่คือราคาโรงงาน ตามท้องตลาดพันกว่าบาท หรือบางแบรนด์ขาย 5 แสน”
บอกหลังจากประกาศรับบริจาคก็มีโรงพยาบาลติดต่อขอรับมาเป็นร้อย รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ด้วย
"ซึ่งที่บุ๋มซื้อบุ๋มซื้อเป็นลัง เป็นล็อตใหญ่ ราคานี้เป็นสินค้าคุณภาพทางการแพทย์นะคะ เราก็ซื้อมาเป็นลังแล้วแบ่งกระจายกันไป เราก็แบ่งไปตามความจำเป็นในแต่ละโรงพยาบาล ซึ่งเราเองก็ไม่คิดว่าคืนนั้นที่เราประกาศถามไปว่าโรงพยาบาลไหนต้องการบ้าง ปรากฎว่ามีเป็นร้อยโรงพยาบาลเลยที่ติดต่อเข้ามา เราต้องแบ่งเกรดโรงพยาบาล คือที่มีผู้ป่วยอยู่แล้วอันนี้จำเป็นจริงๆ ที่ต้อนรับผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กู้ภัย ก็จะขอแบ่งให้กลุ่มแรกที่เข้าต้องเดินไปหาผู้ป่วย หรือต้องอุ้มผู้ป่วยไปเอ็กซ์เรย์ปอด"
ลั่นมีดาราหลายท่านบริจาคให้กับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แล้วตนจึงขอรับอาสาบริจาคให้กับโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดทั่วประเทศเอง
"ทีนี้จะมีดาราบางคนรับบริจาคในส่วนของกรุงเทพฯ ไปแล้ว บุ๋มก็เลยบอกงั้นทำกรุงเทพฯ กันไปเลยนะ เดี๋ยวบุ๋มขออนุญาตดูแลจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทยเอง จะประกาศตรงนี้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่บริจาคเข้าองค์กรทำดีจะเป็นการซื้อชุด PPE หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพราะตอนนี้ชุด PPE ผลิตไม่ทัน ก็ยังจะขาดในส่วนของถุงมืออนามัย ในส่วนของค่าส่งบุ๋มขอใช้เงินตัวเองทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับเงินบริจาคเลย เพราะมันเป็นความตั้งใจแรกของเราที่เราอยากจะทำตรงนี้อยู่แล้ว"
โวตอนนี้เตรียมชุด PPE พันกว่าชุด ลั่นไม่ต้องห่วงเงินทุกบาททุกสตางค์ถึงมือแพทย์แน่นอน
“วันนี้มาถึงองค์กรทำดี 33 ลัง ลังละ 50 ชุด ก็ได้เป็นพันชุดอยู่ ยอดบริจาค ณ ตอนนี้อยู่ที่ 4-5 แสนบาท เราก็ค่อยๆ ทยอยใช้เป็นล็อตๆ ที่โรงงานเขาโทร.หาบุ๋มว่าเขาผลิตไม่ทัน ช่วยชะลอการสั่งหน่อย ไม่ต้องห่วงเงินทุกบาททุกสตางค์ใช้แน่นอน ไม่ต้องเร่งช่วงนี้ เพราะโควิด-19 ไม่ได้หายไปภายใน 1-2 วัน เราจะสู้กันไปเรื่อยๆ จนกว่าโควิด-19 จะหมด ได้แต่อธิษฐานว่าจำนวนตัวเลขอย่าได้เพิ่มมากกว่านี้ ขอแค่นี้ ช่วยลดความเสี่ยง ช่วยห่างกันสักนิด กรุณาอย่าไปกินข้าวร่วมกัน ไม่ใช่กลับบ้านแล้วคุณยังไปกินข้าว สังสรรค์กัน กินเหล้า ต่อให้ไม่กินแก้วเดียวกัน แต่คุณก็ใช้ที่คีบ แก้วเหล้า ขวดเหล้า คือจับร่วมกันหมด ต่อให้คนละแก้วกันก็เถอะ ห่างกันก่อน ช่วยลดงานให้หมอหน่อยไม่อย่างนั้นดิฉันก็ต้องทยอยกันบริจาคกันอยู่อย่างนี้"
"ปัญหาในตอนนี้คือ สมมติว่าคนนี้เป็นโควิด-19 อีกคนเป็นเพื่อนกัน ทำงานด้วยกัน ปรากฎมารู้ทีหลังว่ามีคนนึงเป็นโควิด-19 แล้วมาทำงานร่วมกันไปแล้ว คนนึงไปหาหมอแล้วมีอาการ อีกคนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นโควิด-19 ไปด้วยหรือเปล่า วันที่ไปเจอหมอ เจ้าหน้าที่ต้อนรับ พยาบาล คุณหมอที่เจอเขา ผลปรากฎอีก 2 วันหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ 3 คนอย่างน้อยที่เจอเขาต้องถูกกักตัวไปอีก 14 วัน ทำให้จำนวนหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ลดลง แล้วหมอไม่สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการโคม่า เรามีจำนวนบุคลากรที่น้อยลงเรื่อยๆ"
แย้มนอกจากทีมแพทย์แล้วก็ยังมีทีมตำรวจกู้ภัยขอความช่วยเหลือจากตนด้วย
"ตอนนี้บางที่ที่ยังไม่ได้รับผู้ป่วยแต่มีความเสี่ยงก็ขอมาเหมือนกัน ตำรวจกู้ภัยก็ขอ เราเลยรู้สึกว่าเดี๋ยวก่อน ก็จะพยายามและจะช่วยอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็เช็กกับทางโรงงานว่ามีเหลือให้เรากี่ลัง ขอก่อน แต่ขอเรียงตามลำดับความสำคัญ นี่ลูกสาวก็ช่วยเราลิสต์รายชื่อจนถึงตี 1 มา 2 วันแล้วตอนนี้ก็ยังไม่จบ"
"ล็อตแรกส่งไปแล้ว แล้วบุ๋มมีไปมอบด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลบำราศนราดูรด้วยตอนนี้ส่งไปร้อยกว่าชุดได้ อีกโรงพยาบาลนึงพันชุด มีพี่ๆ ไปซื้อจากเจ้าอื่นมาด้วย ก็ทำตามกำลังที่ตัวเองทำได้"
แจงตอนนี้นอกจากชุด PPE แล้วก็ยังมีหน้ากาก ถุงมือทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลนอยู่อีก
"องค์กรทำดีตอนนี้เปิดรับในการช่วยเหลือดูแลกัน ถ้าไม่ใช่ชุด PPE ก็ยังมีในเรื่องของถุงมือ หน้ากากอยู่ ทุกๆอย่างเลย เราขอเป็นพลังสำคัญให้กับบุคลากรการแพทย์ที่กระจายกำลังทั่วประเทศ ณ ตอนนี้เขาดูแลพวกเรา ใกล้ชิดมากกว่าพวกเรา เขาเองก็ต้องกลับไปเจอครอบครัว นี่คือพลังที่พวกเราพอจะช่วยเขาได้ เราต้องช่วยตัวเองด้วย คือการอยู่กับบ้าน ไม่เพิ่มงานให้หมอ และหากช่วยบริจาคคนละเล็กคนละน้อยก็จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะดูแลบุคลากรที่สำคัญของพวกเราได้ ขอบคุณมากๆ และอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ"