“อเล็กซ์” เผยลงข้อความขอบคุณ “เต้ย จรินทร์พร” แฟนเก่า ไม่ได้อยากให้เป็นกระแส แต่อยากขอบคุณอีกฝ่ายจากใจจริง รู้สึกดีที่คนชื่นชอบในมิตรภาพ มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะที่สุดเท่าที่เคยเล่นโซเชียลมา ลั่นร่วมงานกับอีกฝ่ายได้อยู่แล้ว เจอกันทีไรก็มีแต่เรื่องดีๆ เตรียมลุยต่อเรื่องฝุ่น 18 เดือน ต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
หลังเปลี่ยนสถานะจากคนรักมาเป็นคู่หูที่คอยช่วยกันรณรงค์เกี่ยวกับสิ่งเเวดล้อม นั่นก็คือคู่ของหนุ่ม “อเล็กซ์ เรนเดลล์” และสาว “เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ” ที่หลังจากเลิกรากันไปนานแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังจับมือร่วมกันสร้างโครงการดีๆ เพื่อสิ่งแวดล้อม และล่าสุดหนุ่มอเล็กซ์ได้ลงรูปโมเมนต์น่ารักของทั้งคู่หลังร่วมกิจกรรมในโครงการ “กอดป่ากอดทะเล” พร้อมขอบคุณสาวเต้ยไว้ยาวเหยียด ทำเอาแฟนๆ ที่ชื่นชมในมิตรภาพของทั้งคู่ รวมถึงสาวเต้ยเองที่ได้อ่านแล้วก็ยังเข้ามาบอกว่าน้ำตาไหล
“คือเขาก็ช่วยเราเยอะ จริงๆ เบื้องหลังเขาช่วยเราเยอะมานานแล้ว เพียงแต่เราไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาออกสื่อหรือออกมาบอกใคร คือมันเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเสียหายหรือเป็นเรื่องที่ไม่ดี เขาก็เป็นพาร์ตเนอร์ของเราตั้งแต่แรก พอเขามาร่วมรอบนี้มันก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
“หลายคนชื่นชมมิตรภาพก็ดีครับ ได้อ่านคอมเมนต์อยู่บ้าง ตั้งแต่ลงไอจีมาคอมเมนต์น่าจะเยอะสุดก็อันนี้ ไปไหนก็มีแต่คนทักเรื่องโพสต์นั้น แต่จริงๆ เราไม่ได้ต้องการให้มันไวรัลอะไรขนาดนั้น แค่เป็นส่วนหนึ่งที่เราประทับใจเกี่ยวกับโครงการนี้ เราก็ลงเกี่ยวกับอาสาของเรา เกี่ยวกับความประทับใจ”
เผยที่ผ่านมาหากตนเจอคอมเมนต์ไปในเชิงลบตนจะลบทันที แต่กับรูปคู่ “เต้ย” ครั้งนี้ไม่ได้ลบเลย บอกตั้งแต่เล่นโซเชียลมารูปนี้มีคนคอมเมนต์เยอะที่สุดแล้ว
“พื้นที่ของผมคือผมมีสิทธิ์ที่จะเลือก ในไอจีของเราก็ไม่อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นของอะไร คือมันไม่ใช่กระทู้ ไม่ใช่ให้คนมาแสดงความคิดเห็นทางลบ และเป็นจุดเริ่มต้นให้คนมาลบต่อ ผมก็ลบออกเลย ต่อให้ดีหรือไม่ดีไม่รู้ ผมลบก่อน แต่รอบนี้ไม่มีต้องลบเลยนะ ของผมไม่มี เพราะถ้าผมเห็นแล้วไม่ชอบผมก็ลบเลย ผมอยากให้เพจของผมที่ที่บวก เราอยากให้มันเป็นแบบนี้ไว้ ไม่ต้องการให้คนมาคอมเมนต์เป็นพัน มันไม่ใช่เหตุผลที่เราเล่นมัน”
ลั่นไม่ได้อยากให้เป็นกระแส แค่อยากขอบคุณอีกฝ่ายจากใจจริง เป็นแคปชันที่ตั้งใจเขียนถึงอีกฝ่ายที่คิดล่วงหน้ามาหลายวันก่อนที่จะลง
“คือสิ่งที่เราลงมันไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่เราไม่รับรู้กันเลย แต่เป็นสิ่งที่เราแค่อยากจะขอบคุณ และอยากพูดอะไรดีๆ ให้กัน ก็ไม่ถึงกับบอกเขาก่อนว่าผมจะลงนะ จริงๆ ผมเขียนไว้สักพักแล้ว แต่พอดีงานเยอะแล้วมันยังเขียนไม่เสร็จก็เลยยังไม่ได้ลง ถ้าจำไม่ผิดผมไปคอมเมนต์ของเขาก่อนบอกว่าเดี๋ยวเรากำลังจะลงเรื่องของยูนะ”
“จริงๆ แล้วมันมีหลายแคปชัน คือ งานมันไม่ได้มีแค่ผมกับเต้ย มันยังมีผู้ใหญ่ใจดีที่น่ารักกับเรามาก และวันนั้นเรารู้สึกว่ามันเป็นวันที่ประสบความสำเร็จขององค์กรของผมกับเต้ยมากๆ เราก็เลยอยากจะขอบคุณ เราอยากจะน้ำตาไหลหลายรอบ แต่ก็ต้องฮึดสู้ เหนื่อยก็เหนื่อย นอนก็ไม่ได้นอน ต้องทิ้งงานอื่นเป็นอาทิตย์ ทีมงานของเราก็เครียดกดดันกันทุกคน แต่พอมันประสบความสำเร็จกลับมามันก็โล่งมาก”
บอกที่ผ่านมาก็สามารถร่วมงานกับ “เต้ย” ได้อยู่แล้ว ฟุ้งเจอกันทีไรก็มีแต่เรื่องดีๆ
“จริงๆ ผมไม่เคยรู้สึกว่ามีอุปสรรคกับการทำงานกับเต้ยเลย และไม่เคยรู้สึกว่าต้องปิดบังหรือต้องรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี เจอกันทีไรก็มีแต่เรื่องดีๆ ครับ”
แฮปปี้องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อม “eecthailand” ที่สร้างมาร่วมกัน เข้าปีที่ 7 แล้ว
“เป็นปีที่ 6 แล้วเมษายนปีนี้จะครบ 5 ปีที่เปิดองค์กร แต่เราทำมาก่อนหน้านั้นประมาณ 2 ปี รวมกันแล้วก็เกือบๆ 7 ปีครับ ที่ผ่านมาเราไม่ได้มีเป้าอะไรขนาดนั้นตั้งแต่แรก เราทำเพราะความชอบ คือ เราก็มีเป้าหมายนะว่าเราอยากจะทำอะไร เราอยากจะทำแบบไหน แต่ทุกอย่างมันมาเร็วและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เราก็ไม่นึกว่าเราจะมาเร็วขนาดนี้”
“ที่ผ่านมา ก็เหนื่อยนิดนึงกับสิ่งที่ต้องเจอ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดี และงานช่วงหลังๆ มันก็มีแต่งานดีๆ ทั้งนั้น คนก็เห็นเราในอีกมุมมากขึ้น ภาพของเรามันชัดเจนขึ้น ถ้าเติบโตในงานของสิ่งแวดล้อมมันเติบโตอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่ามันมาส่งผลให้เติบโตในวงการบันเทิงด้วย”
บอกทุ่มเทเต็มที่กับโปรเจกต์ “กอดป่ากอดทะเล” จนประสบความสำเร็จ จะทำไปเรื่อยๆ
“มันเป็นโปรเจกต์ที่เราตั้งใจจะทำและอยู่ในความคิดของเรามาหลายปีแล้ว เราทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเราก็จะเห็นตรงนั้นตรงนี้ เราก็เลยอยากที่จะมีอะไรที่เป็นของเราที่เราคิดกันมา และอยากจะชวนคนเข้ามากันเยอะๆ ซึ่งเราเหนื่อยกับโปรเจกต์นี้มาก และคิดว่าเราจะทำไปอีกอย่างต่ำ 18 เดือน ก็คือได้เป็นโมเดลแล้ว ปอดทะเลมันเกิดขึ้นแล้ว และมีผู้ใหญ่ใจดีมาช่วยสนับสนุนทำให้มันไปได้ไกลกว่าที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรก เราก็ยอมที่จะเหนื่อยและทำมันให้เต็มที่ พยายามจะตัดสินใจให้ได้มากที่สุด แต่ก็ต้องมีคนช่วย พอมันเป็นโปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้เราก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมาก”
เป้าหมายต่อไปเล็งเรื่องของฝุ่น PM 2.5 มาบรรยายทั่วประเทศไทย บอกกำลังวางแผน 18 เดือนหลังจากนี้ชีวิตของคนไทยน่าจะอยู่กันอย่างดีขึ้น
“เราก็จะเอาประเด็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างเรื่อง PM 2.5 เราก็จะเอาเข้ามาร่วมด้วย แต่ในทางไหนคงต้องขอเวลาในการแพลนนิดนึง แต่ไอเดียคือการที่เราไปบรรยายมีเวทีทั่วประเทศไทย และเอาสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราเรียนรู้มาบอกต่อให้คนอื่น ทำหลายอย่างและทำอย่างนี้ไปอีกหลายๆ ที่นะครับ เรากำลังวางแผนกันอยู่ครับ 18 เดือนหลังจากนี้ชีวิตของเราน่าจะอยู่กันอย่างโอเคค่อนข้างเยอะ”
ซึ่งในโปรเจกต์ต่างๆ ก็ยังจะมีสาวเต้ยร่วมอยู่ด้วย
“เต้ยเป็นพารตเนอร์ ก็มีคุยกันปรึกษากันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็คิดว่าถ้าเกิดเราทำคนเดียวมันก็อาจจะได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์แต่ถ้าเต้ยเข้ามาร่วมมันอาจจะได้อีก 50 เปอร์เซ็นต์มันไม่ใช่โปรเจกต์ที่เราอยากจะให้เป็นเรื่องของคนใดคนนึง เพียงแต่เราก็ต้องทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของโปรเจกต์ของเราเองให้คนมาสนใจ แต่จริงๆ เราอยากให้ทุกคนมาร่วมกัน”