7,163,706 ครั้ง !!!
คือตัวเลข ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สำหรับยอดวิวของมิวสิกวิดีโอเพลง “How To Love” ซิงเกิลแรกของ “แอลลี่* อชิรญา นิติพน” ในฐานะศิลปินคนแรกของสังกัดเพลง 411 Music ของ “กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ซึ่งถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์
6 วัน กับยอดวิวกว่า 7 ล้านครั้งนั้น ไม่ธรรมดาแน่นอน !!!
เป็นความปังในปัง บนความมหัศจรรย์ของสาวน้อยคนเก่ง ที่เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นของ “อ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน”
ถ้าเทียบจากอัตราประชากรไทยในปัจจุบัน ที่ถูกบันทึกไว้ที่ตัวเลข 66.5 ล้านคนนั้น นั่นหมายถึงว่าคนที่คลิกเข้าไปดูมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ มีอัตราส่วนมากถึงเกือบ 10 % เลยทีเดียว
ขณะที่ต้องยอมรับว่าตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา วงการเพลงบ้านเราต้องเรียกว่าอยู่ในสภาวะซบเซา แม้กระทั่งสังกัดเพลงยักษ์ใหญ่ยังต้องเบนเข็มไปเน้นธุรกิจด้านอื่นแทน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีศิลปินคนหนี่งคนดังฝ่ากระแสขึ้นมากระทั่งครองความนิยมระดับนี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินผู้หญิง !!!!
ก่อนหน้านี้ เป็นยุคของ BNK48 ที่นำเทรนด์ปลุกกระแสเกิร์ลกุ๊ปทีนไอดอลในบ้านเรา มีฐานโอตะ เป็นแรงเชียร์ทั่วบ้านทั่วเมือง
จวบจนกระทั่งผ่านไป 2 ปี กระแสความนิยมก็เริ่มแผ่วลงตามลำดับ
หลายคนจับตามองว่าหลังจากขาลงของ BNK48 จะเป็นขาขึ้นของศิลปินคนไหนที่จะเข้ามายีดพื้นที่ทีนไอดอลแทน
แหละ....ณ วันนี้ น่าจะได้คำตอบแล้วว่า พื้นที่ที่ว่า ถูกยึดครองด้วยสาวน้อยวัย 16 ที่ชื่อแอลลี่คนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นหลายคนอาจจะรู้จักความเป็นแอลลี่ในฐานะลูกสาวของอ่ำ ที่คงจะใช้บารมี และเส้นสายของพ่อเป็นใบเบิกทางเข้ามาในวงการ เหมือนลูกดารา ลูกนักร้องทั่วไป
แต่ลำพังความเป็นลูกสาวอ่ำคงไม่ส่งให้แอลลี่มาแรง และได้รับความชื่นชมมากขนาดนี้ ถ้าไร้ซึ่งความสามารถจริงๆ
เพราะการจะลุกขึ้นมามีผลงานเพลงของตัวเอง ที่ทุกคนเห็นแล้วต้องบอกว่าทึ่งกับความเป๊ะปัง ทั้งพลังการร้อง และการเต้นนั้น ต้องแลกมาด้วยการทุ่มเท ตั้งใจ และความมุ่งมั่นชนิดเกินร้อย
1 ปีเต็มๆ กับการเข้าคอร์สฝึกฝนแบบติวเข้มที่ประเทศเกาหลี
นั่นคือช่วงเวลาที่แอลลี่เงียบหายไปเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะกลับมามีผลงานในฐานะศิลปินเต็มตัว
แม้ว่าการเป็นลูกสาวอ่ำ อาจจะไมได้ช่วยในเรื่องของการเป็นใบเบิกทางเสียทีเดียว แต่ผลพลอยได้ประการหนึ่งของการเป็นทายาทศิลปิน ก็คือการที่ครอบครัวมีความเข้าใจ และให้การสนับสนุนในอย่างเต็มที่ เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายในการทำฝันให้เป็นจริง ซึ่งผลลัพธ์ในความสำเร็จของแอลลี่ในวันนี้ ก็คือสิ่งที่บ่งบอกว่าครอบคัวนิติพนของอ่ำ เดินมาถูกทางแล้ว
นอกจากได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ก็ยังหมายรวมถึงการมีแบ็คอัพที่ดีอย่างกึ้ง-เฉลิมชัย บิ๊กบอสส์ของค่าย 411 ซึ่งมีคอนเน็กชันที่ดีกับธุรกิจบันเทิงของประเทศเกาหลีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
นั่นหมายถึงว่า การที่จะปูทางหรือต่อยอดให้แอลลี่ได้ก้าวเดินไปเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย หรืออาจจะไปไกลถึงระดับสากลต่อไปในอนาคตนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก !!!
“เราอยากจะนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้ ได้สั่งสมประสบการณ์มาทำให้กับวงการดนตรีไทย วงการเพลงไทย เราอยากจะเอาเด็กไทยที่มีพรสวรรค์ และมีพรแสวง ไปอยู่ในแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ดี แต่การที่จะไปถึงแบบนั้นได้เราก็ต้องเรียนรู้จากคนที่ทำได้ก่อน แล้วเราก็จะใช้องค์ความรู้นั้นมาใส่ศิลปินไทย มาใส่เพลงไทย เพื่อที่ในอนาคตหวังว่าเราจะมีเพลงไทย ภาษาไทยไปสู่ระดับโลกได้บ้าง
ทำไมวันนี้ศิลปินเกาหลีถึงประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ในเกาหลีอย่างเดียว ไม่ใช่แค่ในเอเชียอย่างเดียว แต่ไปไกลถึงยุโรป-อเมริกาได้ ผมเชื่อว่าทุกอย่างคือการลงทุน แต่ว่าสิ่งที่เกาหลีเขาลงทุน นอกจากพรสวรรค์และพรแสวงของเด็กแต่ละคนแล้ว เขายังมีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าคนไทยได้ฝึกฝนในรูปแบบเดียวกัน เด็กไทยของเราไม่มีทางจะแพ้คนชาติใดในโลกเลย”
แอลลี่ในวันนี้ คือภาพความสำเร็จของ “ทาทา ยัง” ในวันวาน ที่แจ้งเกิดในฐานะสาวน้อยมหัศจรรย์ของวงการเพลงบ้านเรา และในเวลาต่อมา ก็สามารถนำพาตัวเองไปเฉิดฉายและเจิดจรัสบนเวทีระดับโลกได้อย่างสง่างาม
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม - 2563