xs
xsm
sm
md
lg

กลับไปคบก็โง่เต็มที "ใบเฟิร์น" แตกหัก "เจโม่" สุดเจ็บโดนหลอก ถอยดีกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไม่เอาแล้ว "ใบเฟิร์น" แตกหัก "เจโม่" โดนหลอกจังๆ ตอนนี้ถอยดีกว่า ถ้ากลับไปคบก็โง่เต็มที ขอฟื้นฟูจิตใจตัวเอง เผยฝ่ายชายยังติดต่อมาอยู่ ถ้าลุ่มล่ามมากจะบล็อก




กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตในโลกโซเชียลช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับ "เจโม่ จาตุรนต์" หวานใจคนใหม่ของ "ใบเฟิร์น พัสกร พลบูรณ์" ที่พึ่งเปิดตัวเป็นแฟนกันหมาดๆ เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็มาเจอแหกว่าฝ่ายชายมีแฟนที่คบกันอยู่แล้วเป็น 10 ปี สรุปง่ายๆ คบซ้อน! ล่าสุดใบเฟิร์นก็มาเปิดใจในรายการคุยแซ่บโชว์ เจ้าตัวก็เล่าเหตุการณ์อย่างหมดเปลือก และยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

"ก็ต้องเริ่มเล่าตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก วันนั้นตอนเย็นก็ไปทานข้าวกับพี่โม่เป็นเรื่องปกติ จริงๆ เฟิร์นกับพี่โม่ไม่ได้เป็นแนวหวาน วันนั้นก็แค่ไปทานข้าวจริงๆ ค่ะ สักพักนึงก็เห็นว่า เขาโพสต์รูปที่ทุกคนเห็นกัน เราก็โอเค แค่คิดว่าเขาคงอยากโพสต์ในวันวาเลนไทน์มั้ง คงอยากให้วันนี้มันเป็นโมเม้นท์อะไรสักอย่าง ก็พอเห็นว่ามึงโพสต์ กูก็โพสต์ ก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้หลายๆ คนก็พอทราบแล้วว่าเฟิร์นก็เริ่มมีคนคุย"

"วันนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร พอกลับถึงบ้านก็มานั่งเช็คคอมเม้นท์ก็ยังไม่มีอะไร มีแซว มีเชียร์นั่นนี่ จนวันที่ 15 ก.พ. เริ่มเห็นเป็นคอมเม้นท์ในไอจีเฟิร์น ไม่เยอะนะคะ ประมาณ 2-3 คอมเม้นท์แปลกๆ ที่ว่าเลิกอะไรกันมา สะกิดๆ มา ที่เราเริ่มรู้สึกเอะๆ กับตรงนี้ ก็ตกใจนะตอนแรก ฟีลมันประมาณว่าเลิกทางนั้น เลิกทางนี้ แต่เฟิร์นไม่ได้ลบทิ้งไปนะ แต่ก็ตกใจ งงว่าอะไรวะเนี่ย ก็เริ่มคิดอะไรอีกแล้วล่ะ"

"ก็เริ่มไปดูในไอจีพี่โม่ว่ามีในนั้นไหม ปรากฎว่าก็มีอีกประมาณเดียวกัน คนเดียวกันกับที่คอมเม้นท์ของเรา แต่ภาษารุนแรงกว่าที่คอมเม้นท์ของเรา เราก็เอาแล้วไง ตอนนั้นก็ยังงงๆ แต่คิดว่าเดี๋ยวลองไปถามสิ ก็เข้าไปทักในไอจี อินบ็อกซ์ไปถาม เพราะมีอยู่ 2-3 คนที่คอมเม้นท์มาแล้วดูน่าจะรู้อะไรเยอะ(ยิ้ม) ก็อินบ็อกซ์ไปถาม ตอนนั้นไม่ได้มีใครปรึกษาด้วย เราก็คิดอยู่คนเดียว"

"พอเข้าไปเราก็ถึงเห็นว่าเขาก็ส่งข้อความเข้ามาในอินบ็อกซ์เราด้วยเหมือนกัน อย่างที่เขาพิมพ์มาประมาณนั้นเลย พอเราเห็นก็รู้สึกว่าพูดอะไรไม่ถูก ก็ถามไปว่ามันจริงเหรอคะ นี่ก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เขาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะคะ ยังไงลองคุยกับน้องสาวเขาไหม น้องสาวก็คือคนที่เขาโพสต์นั่นแหละ เฟิร์นก็เลยบอกว่าได้ค่ะ ยินดีค่ะ เขาก็ให้เบอร์มา เราก็โทรไปเลย ก็สวัสดีค่ะเฟิร์นนะ เรื่องราวมันเป็นยังไงเหรอคะ เขาก็พูดเหมือนอย่างเรื่องราวที่เขาพิมพ์ เราก็บอกว่าเฟิร์นไม่เคยรู้เลยจริงๆ ตอนนี้ก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน งงๆ ไม่รู้จะไปในทิศทางไหน ไม่รู้จะจับต้นชนปลายยังไง ก็ทำได้แค่ขอโทษนะคะ ขอโทษที่เฟิร์นไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน และฝากไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นด้วยว่าไม่รู้จริงๆ เพราะถ้ารู้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน"

บอกฝ่ายหญิงได้มีการติดต่อจะบอกเรื่องราวกับตนแล้ว แต่ตนไม่ได้อ่านเอง
"ถามว่าเราเชื่อเขา 100% เลยไหม คือตอนนั้นหนูคิดตั้งแต่แรกแล้วว่า จะโทรไปถามพี่โม่ว่ามันยังไงวะ คือใจพอมันจับได้ แต่ก็คิดว่าจะคุยยังไงกับมัน จะเริ่มยังไง ตอนนั้นปากคอสั่นเลยนะ แล้วตอนนั้นอยู่คนเดียว ไม่มีใครให้ปรึกษา ก็ช็อค เพราะเราเคยเห็นเหตุการณ์อะไรแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง พอเจอกับตัวเองก็ช็อค จากนั้นพอคุยกับทางน้องสาวเขาเสร็จ ขอโทษอะไรกันไป เรายังไม่รู้ว่าเขาโพสต์อะไร และเขาก็พูดทางโทรศัพท์ว่าเขาขอโทษนะ เขาโพสต์ไปแล้วด้วยอารมณ์ของเขา เขาก็ขอโทษ ตอนนั้นก็คิดคำเดียวว่า ฉิบหายแล้ว เอายังไงล่ะ ก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว เขาก็บอกว่ามันก็เริ่มเป็นข่าวแล้วนะคะ"

"เฟิร์นก็คุยกับเขาดีนะคะ ก็ยังบอกเขาว่า ขอบคุณนะคะที่พยายามบอก ซึ่งเขาบอกว่าเขาเคยแจ้งมาแล้ว ส่งข้อความมา แล้วปกติเฟิร์นไม่ได้อ่านไดเร็ค เพราะว่าไดเร็คมันไม่ขึ้นในโทรศัพท์เฟิร์น ก็เหมือนมันเป็นดวงที่จะต้องเป็นแบบนี้ เพราะเราไม่ได้ไปอ่านไดเร็คแมสเซจ พอวางหูไป หนูก็คิดว่าจะเอายังไงดี และเหมือนพี่โม่ก็เริ่มรู้เรื่อง แป๊บเดียวเขาก็โทรมา หนูก็ถามเลยว่าพี่โม่เรื่องมันเป็นยังไง มันจริงไหม เขาก็ยอมรับว่าเรื่องมันก็เป็นอย่างที่รู้นั่นแหละ เขาก็ยังคุยกันอยู่ เพียงแต่เขาไม่ได้ไปมาหาสู่กันแล้วเท่านั้นเอง"

ยอมรับว่าตัวเองโดนหลอก แต่ "เจโม่" ก็ขอโทษและยอมรับผิดทุกอย่าง
"เขาก็ขอโทษ ไม่ได้แก้ตัวอะไร แต่แค่เล่าให้ฟังว่า เขาก็ยังคุยกันอยู่ในไลน์จริงๆ แต่ไม่ได้ไปเจอ แต่เขาไม่ได้พูดคำว่า คบซ้อน ตอนนั้นเฟิร์นก็ไม่ได้มีคำว่าคบซ้อนในหัวนะ แต่เขาพูดว่ามันก็เป็นตามนั้น ถามว่าคิดว่าเราถูกหลอกไหม มันแน่นอนอยู่แล้ว มันชัด เราไม่รู้ว่าเจตนาเขาตั้งใจอะไรยังไงนะคะ แต่แค่รู้สึกว่าวันนี้เราโดนกับตัวเองแล้ว พอได้ฟังจากปากเขา เอาจริงๆ ก็เสียใจนะคะ เพราะเราก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น มันก็ช็อค ทำอะไรไม่ถูก แต่จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นการพูดคุยกันเยอะ พอเฟิร์นฟังข้อมูลจากน้องเขา จากนั่นนี่ ก็รู้สึกว่าไม่อยากคุยอะไรแล้ว"

"ณ ตอนนั้นที่คุยโทรศัพท์ยังไม่ได้สรุปอะไรกัน ตอนนั้นก็อึ้งๆ งงๆ แล้วก็วางหูกันไป คือมันไม่ใช่ฟีลโมโหนะคะ แต่มันเป็นฟีลว่าทำอะไรไม่ถูก มือสั่น คิดว่ามันจริงเหรอ มีคำถามอยู่ในหัว"

บอกเริ่มรู้จักกันเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และไม่เคยได้สนใจเรื่องส่วนตัว เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
"จริงๆ แล้วพี่โม่เขาก็เป็นเพื่อนในแก๊งที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว แต่รู้จักไม่นาน ช่วงประมาณตุลาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากที่เขากลับมาจากออสเตรเลียเขาก็มาช่วยงานพี่ที่รู้จักที่อยู่ร้านอาหาร ซึ่งพี่เจ้าของร้านอาหารกับเฟิร์นเป็นแก๊งเดียวกันอยู่แล้ว เฟิร์นก็เลยได้เจอเขามากขึ้น ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรเฉยๆ พอมันอยู่ในแก๊งด้วยกัน เจอกันบ่อย พูดคุยกัน เราก็รู้สึกว่าเรารู้สึกดีกับเขา"

"ซึ่งเราไม่รู้เลยเหรอว่าเขาคบใครมาเป็นสิบปี ไม่ทราบเลยค่ะ เอาจริงๆ คือเฟิร์นกับพี่โม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ช.ม. เฟิร์นก็ทำงานของเฟิร์น เขาก็ทำงานของเขา เฟิร์นไม่ได้รู้สึกอะไรเลย และเฟิร์นก็เคยเจอเพื่่อนแก๊งเขา ช่วงที่จีบกันก็ไม่เคยถามเขาว่า เคยมีแฟนอะไรยังไงมา ตั้งแต่ตอนแรกที่เราเริ่มจะมีความรู้สึกดีๆ เขาก็พูดว่าเขาไม่มีใคร เขาบอกอาจจะมีคนคุยบ้าง แต่น้อยลงแล้ว และตอนนี้ก็ไม่ได้มีแฟน"

"คือเฟิร์นเคยเจอเพื่อนพี่โม่หลายคนมาก ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเดียวกันหรือเป็นเพื่อนเขาที่ออสเตรเลีย จริงๆ แล้วหลายๆ คนก็เพิ่งมารู้พร้อมๆ เฟิร์น ก็ช็อคพร้อมๆ กัน เท่าที่เฟิร์นเจอหลายๆ คนก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน คือเมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้วเขาก็พาเฟิร์นไปเจอครอบครัวนะ เจอครบเลย คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว น้องสาว มันก็ไม่มีอะไร ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยปิดอะไร แล้วเฟิร์นก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่มานั่งเช็คมือถือแฟน หรือมานั่งดูอะไร เฟิร์นก็ทำงานของเฟิร์น เฟิร์นก็ไม่ได้อยากให้ใครมาเช็คมือถือเฟิร์นเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่เขาก็คุยกับเฟิร์นปกติเลย ขอถ่ายรูป หลานมาขอลายเซ็นปกติเลย"

เผยตอนนี้ตนตัดสินใจถอยออกมา แต่ในอนาคตก็ยังตอบตัวเองไม่ได้
"จริงๆ แล้วอย่างที่บอกว่า หลังจากที่วางหูจากพี่โม่ไป เราประเมินกับตัวเองแล้ว และรู้สึกว่ามันต้องถอยออกมา จริงๆ ถามว่าก่อนหน้าที่จะรู้เรื่องของเขาเรามีความรู้สึกดีๆ อะไรกับเขาไหม เรารู้สึกดีกับเขามาก มันเป็นความรู้สึกที่เขาโอเคมากๆ แต่พอ ณ ตอนนี้แล้วหนูก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันนะ ถ้าถามในอนาคตว่าจะยังไง หนูก็ตอบตัวเองไม่ได้ ถามว่ายังไม่เลิกไหม ก็ไม่รู้จะเข้าใจยังไงได้ คือหนูออกมาแล้ว เขาจะอยู่ยังไงก็เป็นสิทธิของเขา"

"แต่เขาก็มาง้อค่ะ เขาก็ยังติดต่อมาตลอด หนูก็ตอบเท่าที่ตอบได้และคุยเท่าที่คุยได้ หนูรู้สึกว่าตอนนี้คุณก็คงโดนหนักพอๆ กัน และถ้าคุณยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงชีวิตคุณแล้ว แต่ตอนนี้เขาก็ยังติดต่อมาอยู่ หนูก็มีเปิดอ่านแต่ไม่ตอบบ้าง ถ้าถามว่าใจเรายังให้โอกาสเขาไหม ณ ตอนนี้หนูต้องบอกว่า หนูต้องเอาตัวหนูออกมาก่อน และเอาจริงๆ หนูไม่ได้รู้สึกโกรธหรือเกลียดอะไรเขา หนูรู้ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันแย่ แต่หนูก็เคยเจอความรักที่มันก็ไม่ได้เวิร์ค กับคนเก่าหนูก็รู้สึกว่าเป็นเพื่อนกัน เลิกกันก็เป็นเพื่อนกันได้"

"ถามว่าคบกันในฐานะนานแค่ไหน หนูเคยบอกในรายการคุยแซ่บโชว์ไปเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อน เขาก็ถามหนูเรื่องนี้ เพราะหนูรับดอกไม้จากงานพี่พีเคได้ จริงๆ แล้วหนูกับพี่โม่ยังไม่เคยมีการตกลงกันว่าเป็นแฟนกันอย่างจริงๆ จังๆ แต่เราก็รู้สึกดีต่อไป เราไม่ได้ปิด ไปกินข้าวกับเพื่อนเราก็ไปด้วยกันเป็นแก๊งๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าเธอเป็นแฟน แต่ก็รู้ว่าสำคัญ ก็เรียกว่าแค่ศึกษากัน มันแค่ 4 เดือนเอง ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่ายังไม่ได้มาขอก็ไม่เป็นไร ก็เฉยๆ ไป แต่พอตอนนี้ก็พอ ถามว่าจะให้โอกาสไหม หนูมองว่าอนาคตหนูยังตอบตัวเองไม่ได้เลย แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแล้ว เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันหนัก"

บอกยังไม่ได้คุยกับทาง "พ่อจาตุรงค์" เพราะส่วนใหญ่คุยกับแม่มากกว่า
"หนูยังไม่ได้คุยกับพ่ออย่างเป็นทางการ จริงๆ แล้วหนูไม่ค่อยได้เจอกับพ่ออยู่แล้ว แต่จะคุยกับแม่แล้วพ่อก็มาทางแม่ตลอด เอาจริงๆ อย่างที่พ่อบอกเขาไม่รู้เพราะเขาไม่เคยเจอ ซึ่งหนูคบกับพี่โม่แค่ 4 เดือนเอง ยังไม่พาไปเจอใครอยู่แล้ว แม่ก็เหมือนเจอผ่านๆ แว๊บๆ ยังไม่ได้มีการมานั่งเหมือนอย่างที่หนูไปเจอครอบครัวเขา ส่วนที่พ่อพูดว่าถ้ากลับไปคบก็โง่เต็มที ก็คงจะเป็นอย่างที่พ่อพูดนั่นแหละ”

"ถามว่าคิดว่าตัวเองคบเร็วไปไหม ถ้าเกิดหนูถามพี่ว่า วันนี้ถ้าพี่มีความรักในระยะ 2-3 เดือนแรกความรักของพี่เป็นยังไง ก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่เราจะต้องมากั๊กหรือเก็บ เพราะปกติหนูไม่ใช่คนที่ชอบพูดเรื่องตัวเอง ถ้าพี่รู้จักหนูก็จะบอกว่า หนูไม่มีเรื่องคุยหรอก แต่หนูก็ให้เกียรติ คนที่จะมาอยู่ข้างๆ หนูในอนาคต โดยการที่ไม่ได้ปิดบัง เจอผู้ใหญ่หนูก็แนะนำตามปกติ ถามว่าเร็วไปไหม หนูก็บอกว่าเป็นการศึกษากันในระยะเริ่มต้นอย่างที่หนูบอกไว้อยู่แล้วค่ะ มองว่าตัวเองกลายเป็นโลก 2 ใบของเขาไหมเหรอ ตอนนี้น่าจะไม่นะคะ เพราะว่าหนูถอยออกมาแล้ว หนูไม่รู้ว่าเขามีกี่ใบ ก็อาจจะมีสองใบ (ยิ้ม)”

เผยวันนี้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์หนึ่งที่สอนใจได้
“ดีค่ะ ดีขึ้นกว่าวันแรกมากเลย วันแรกก็ร้องไห้ ก็โทรมแหละ แต่ว่าเวลาผ่านไปแล้ว หนูต้องบอกว่าตัวเองโชคดี หนูได้กำลังใจเยอะมากๆ หนูไม่ได้เปิดอ่านคอมเม้นต์ ไม่ได้เปิดอ่านไลน์ที่มีใครส่งเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคนที่หนูรู้จักคนใกล้ตัวไกลตัวหลั่งไหลกันเข้ามา หนูก็ไม่ได้เปิด แต่ว่าหนูก็ขอบคุณทุกคนมากๆ หนูจะพยายามทยอยตอบทุกคนนะคะ แต่ที่ผ่านมาหนูไม่รู้จะยังไง ก็รอวันนี้แหละค่ะ”

"เรื่องนี้สอนอะไรเราบ้างเหรอ เอาจริงๆ หนูค่อนข้างมั่นใจนะว่า หนูไม่ได้ทำอะไรผิด กับเรื่องนี้ถ้าสอนอะไรสักอย่าง ก็คงเป็นประสบการณ์ค่ะที่ทำให้เราได้เจอ หลายคนสงสารที่ความรักครั้งก่อนก็ไม่ดีมาเจอครั้งนี้อีกเหรอ หนูคิดว่าไม่มีใครที่จะมีแฟนคนสองคนแล้วก็สำเร็จเลย คนที่สงสารก็หนักหน่วงก็มีกว่าจะมาเจอคู่แท้ของตัวเอง มันไม่ใช่เรื่องง่าย หนูก็เป็นคนหนึ่งแหละที่ต้องเผชิญต่อไป"

บอกตอนนี้มีคนมาสมัครขอดามใจแล้ว แต่ตนคงต้องพักก่อน
“ตอนนี้คนต่อไปมาเสนอตัวเยอะมากค่ะ บอกพร้อมดามใจมาก ถึงผมจะไม่รวย หนูก็บอกหยุดๆ เดี๋ยวค่อยว่ากัน พักก่อน (หัวเราะ) ก็ต้องดูเยอะขึ้นค่ะ แต่อันนี้เรารู้สึกว่าไม่ได้พลาดนะ เพราะเรารู้สึกว่าเพื่อนเขาเราก็เจอ พ่อแม่เขาเราก็เจอ ไม่มีสัญญาณอะไรเลย ก็ยังเชื่อเรื่องความรักอยู่นะคะ แต่เอาจริงๆ ทุกคนเกิดคนเดียว ตายคนเดียว เพราะฉะนั้นชีวิตเราจะถูกขีดไปเจอกับใครก็คือเจอ ไม่เจอก็คือไม่เจอ ไม่อยากจะคิดอะไร ตอนนี้หนูก็ 30 แล้ว"

"เชื่อพ่อขึ้นไหมเหรอ หนูไม่เคยเชื่อพ่อเลยค่ะ (หัวเราะ) พูดเล่นๆ หนูจะพยายาม เอาจริงๆ เรื่องความรักไม่มีใครโง่ ไม่มีใครฉลาดนะ ข่าวว่าทางผู้ชายเป็นบาร์โฮสแล้วใช้เราเป็นเครื่องมือให้เป็นข่าวเหรอ อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ เท่าที่ทราบคือเขาอยู่ร้านกาแฟ แต่เรื่องนั้นไม่ทราบเลย จะไปเช็คไหมเหรอ ไม่ต้องเช็คแล้วมั้ง ออกมาแล้ว (หัวเราะ) แต่ตอนนี้คงยังต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ เพราะเขาก็ยังพยายามติดต่อมา ถ้ามากไปก็คงจะบล็อก แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่มันลุ่มล่ามมากมาย ถามว่าได้คุยกับแฟนเขาไหม ไม่ได้คุยเลย ไม่รู้จัก ไม่รู้จะไปคุยอะไรกับเขา ตอนนี้เราก็ฟื้นฟูสภาพจิตใจค่ะ"








กำลังโหลดความคิดเห็น