"ลีเดีย" โล่งและดีใจ ถึงเวลาเลิกปั๊มนมซะที ชี้สต็อกนมเหลือเฟือแล้ว 3 ตู้ฟรีช ลูกกินได้ถึงอายุ 9 เดือน ส่ายหัวโนลูกเดียว ไม่ท้องแล้ว ประกาศปิดอู่ ไม่ตามใจสามี เกลี้ยกล่อม "แมทธิว" ให้ทำหมัน
มาร่วมงาน "ไครโอวิวาฯ" (Cryoviva) แถลงความสำเร็จครบรอบ 12 ปียิ่งใหญ่ เปิดตัวนิยามใหม่แห่งปี2020 "Your Llife is Your Choice" (คุณภาพชีวิต ที่คุณเลือกเองได้) ณ โอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ชั้น 35 (อโศก) งานนี้ คุณแม่ลูกสอง "ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน" ก็เผยความรู้สึกหลังประกาศหยุดปั๊มนม โดยเผยว่าเหนื่อยมาก ไม่ไหวแล้ว
"คือลูกยังไม่หย่านม แต่แม่น่ะไม่ไหวแล้วค่ะ (หัวเราะ) รอบนี้น้ำนมเยอะกว่ารอบของดีแลนเยอะมาก ตอนนี้เก็บตู้ฟรีซมา 3 ตู้แล้วค่ะ ก็เลยคิดว่าจะพักแล้วล่ะ ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก ปริมาณเพียงพอค่ะ ก็ลูกสามารถทานต่อได้แต่จากขวดแทนค่ะ"
"ที่เขียนในไอจีเป็นโมเมนต์ที่โล่ง ฉันจะไม่ต้องมานั่งปั๊มทุก 4 ชม.แล้ว ตอนแรก 3 ชม. แล้วมาเป็น 4 ชม. แล้วก็ยืดเวลา แต่มันก็ยังเหนื่อย เพราะเราเวลานั่งปั๊มทีนึงก็เป็นชม. แล้วก็ต้องทานเยอะ ดื่มน้ำให้เยอะๆ ไม่งั้นจะผลิตไม่พอ น้ำนมจะไม่มีคุณภาพ ตอนนี้ก็เลยทั้งโล่ง ทั้งดีใจ ตายแล้ว นี่จะเป็นน้ำนมครั้งสุดท้ายที่เราจะผลิตให้ลูกเราเหรอ มันก็เป็นความรู้สึกหลายๆ อย่างปนกัน"
ต้องกลับมาฟิตหุ่นสวย
"ใช่ค่ะ ต้องกลับมาแล้วค่ะ ตอนนี้ก็รู้สึกว่าไม่ได้ออกกำลังกายมาสักช่วงระยะใหญ่ๆ เลยเพราะว่าพอเริ่มตอนแรกเราไม่ไหว แล้วก็ไม่สบาย ก็เลยหยุดไปพักนึง แต่ต้องกลับมาแล้วล่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าพวกกล้ามเนื้อทั้งหมดมันหายไปหมดเลย เพราะเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายมันก็ค่อยๆ หายไป ก็ต้องกลับมาดูแลตัวเองแล้ว เพราะเราก็ผ่านภารกิจคุณแม่แล้ว ดูแลลูกได้เต็มที่ เรามีสต็อกนมให้ลูกแล้ว ก็รู้สึกว่าต้องหันมาดูแลตัวเองด้วย"
"สต็อกนี้น้องทานได้อย่างต่ำก็น้องอายุ 9 เดือนค่ะ คือหมายความว่าถ้าเขาไม่ทานอาหารเลย ทานแต่นมอย่างเดียวนะคะ ก็อยู่ได้จนถึงน้อง 9 เดือนเลยค่ะ แต่พอ 6 เดือนก็จะเริ่มทานอาหารได้แล้ว นมก็อาจจะทานได้ไม่เยอะเท่าเดิมค่ะ เดียเขียนในแคปชั่นเลยว่าคนที่เป็นแม่เท่านั้นถึงจะเข้าใจว่ามันใช้เวลา ใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ ชีวิตนั่งอยู่กับเครื่องปั๊ม ชีวิตต้องทุ่มเทให้ลูกจริงๆ มันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากค่ะ"
เผยน้องเดมี่ 6 เดือนแล้ว ตาหลงหลานมาก
"เริ่มมีการพยายามคุย ก็เริ่มรู้เรื่องมากขึ้น สนุกมากค่ะ ตอนนี้คุณตาหลงหลานค่ะ คือคุณพ่อเดียหลงหลานมาก (หัวเราะ) อุ้มวันละไม่รู้กี่รอบเลยค่ะ ทุกคนก็บอกว่าน้องน่ารัก ขอบคุณที่เอ็นดูลูกค่ะ ก็ต้องขอบคุณของทั้งดีแลนและเดมี่ที่ทุกคนเอ็นดูลูกค่ะ ตอนนี้มีงานติดต่อน้องมาเรื่อยๆ ค่ะ ก็เลือกงานที่เหมาะสมค่ะ อย่างถ้าจะไปงานอีเวนต์ช่วงนี้คงน้องเบรกไว้ก่อน เพราะเขายังเล็กไป ก็ดูงานที่เหมาะสมค่ะ"
กลับมาให้เวลากับคุณพ่อ "แมทธิว ดีน" เดี๋ยวน้อยใจ
"ก็ต้องกลับมาบ้าง ต้องดูแลเขาบ้าง เดี๋ยวเขาน้อยใจ (หัวเราะ) วาเลนไทน์พอลูกหลับก็ออกไปทานข้าวเย็นได้ ก็ฝากลูกไว้กับคุณแม่ค่ะ"
ปิดอู่แล้ว ไม่ตามใจสามี เกลี้ยกล่อมให้แมทธิวทำหมัน แต่ยังไม่สำเร็จ
"โนค่ะ (หัวเราะ) ปิดอู่ค่ะ ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้พยายามจะเกลื้ยกล่อมให้พี่แมทโอเคอยู่ เขาอยากมี 3-4 คน แต่เดียก็บอกว่าเดียไม่ไหวแล้วจริงๆ ยังไม่ทำหมันค่ะ แต่ก็พยายามบอกพี่แมทไปทำหมันไหม (หัวเราะ) แต่ยังเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จค่ะ เดี๋ยวค่อยๆ ซึ่งพอบอกให้เขาทำหมัน เขาก็บอกว่า อืม... เหรอ แล้วเขาก็เปลี่ยนเรื่อง (หัวเราะ) เดียพอแล้ว 2 คน ชายหญิงครบแล้ว ส่วนเรื่องงานอาจจะไม่ได้เยอะมาก อาจจะทำบ้าง เพราะเราก็ต้องมีเวลาให้ลูก อย่างดีแลนไปเรียน ก็ต้องไปรับไปส่ง ยังอยากทำหน้าที่ตรงนั้นอยู่ ทำเท่าที่ไหวค่ะ ตอนนี้บทบาทแม่เป็นหลักค่ะ"
ส่ายหัว โนลูกเดียว ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความคิดได้
"พี่แมทเขามีเหตุผลว่าเขาเป็นลูกคนเดียว เขาโตมาไม่มีเพื่อนเล่น พอมาเห็นบ้านเดียมีพี่น้อง 3 คน ก็รู้สึกว่ามันดี ไปไหนก็ไปด้วยกัน ก็จะสนุก เขาเลยอยากให้มีพี่น้องหลายๆ คน พอมี 2 คน ก็รู้สึกว่ามีแค่กันและกัน น่าจะมีกันและกัน และอีกคน (หัวเราะ) เดียก็บอกพี่แมทว่า กันและกัน ก็มีพ่อแม่แล้วก็ลูกอีก 2 คนแล้ว ก็พอแล้ว ไม่มีปุ๊บปั๊บค่ะ โนๆ เขาก็พยายาม เขาก็หวังว่าถ้าผ่านช่วงที่เดียเหนื่อยมากแล้วจะเปลี่ยนใจเราได้ แต่เดียบอกไม่ไหวแล้ว"
"งานนี้เดียชนะแน่นอน เพราะเราบอกพี่แมทรู้ไหมเดียต้องปั๊มนมแบบนี้ๆ เราคอยบอกว่าเหนื่อยมากขนาดนี้ๆ ก็หวังว่าเขาจะเข้าใจนะ เขายังไม่ได้ยื่นเงื่อนไข ยังไม่ขนาดนั้น ก็บอกพี่แมทว่าโน เขารู้ว่าตอนนี้ยังไงก็โนแน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเราได้ ของแม่โนแน่นอน"
"ตอนแรกแม่บอกเห็นเราเหนื่อยมาก แต่พอเดมี่เริ่ม 6 เดือนแล้ว ก็บอกให้เรามีอีกคนก็ดีนะ พอเดมี่โตไป ยายไม่รู้จะเลี้ยงคนไหน ก็เลยบอกแม่ว่า ยังมีพี่น้องอีก 2 คน ก็รอลูกของน้องๆ ก็ได้"
เผยได้รับผลกระทบจากพิษฝุ่น PM 2.5 ไม่โทษใคร แต่ระวังตัวเอง
"ตอนนั้นเป็นช่วงที่ PM 2.5 มันค่อนข้างสูง ก็เลยรู้สึกว่าใช้ชีวิตลำบากเหมือนกัน เราก็ไม่ได้โทษใคร ว่าเป็นความผิดของใคร แต่ว่าเราก็ต้องระวังนิดหนึ่ง เวลาออกไปข้างนอก ทั้งตัวเราเอง และโดยเฉพาะลูกๆ เพราะปอดเขากำลังพัฒนา สูดอากาศเข้าไปก็คงไม่ดีนัก แล้ววันนั้นเดียไปซื้อของ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ ซ้อนหลังพี่แมทไปที่ซุปเปอร์ ห่างจากบ้านไม่กี่นาที ก็ปิดแมส คิดว่าไม่น่ามีอะไร แต่ว่าพอวันรุ่งขึ้นตื่นมา ตาแดงมาก ก็คิดว่าแป๊บนึงคงหาย แต่ก็ไม่หาย เลยไปหาหมอ หมอก็บอกว่ามันอักเสบ เขาก็ให้ยามา ก็ถามว่าเป็นอะไร หมอก็บอกว่าน่าจะติดเชื้อ ที่มาพร้อมกับฝุ่น เพราะเราก็ไม่ได้ออกไปไหน เราออกไปแค่ช่วงนั้น ปกติเราก็ไม่ได้เป็นภูมิแพ้อะไร"
"ตอนนั้นก็แค่รู้สึกว่าต้องระวังมากขึ้น ลูกก็จะอยู่แต่ในบ้าน ดีแลนคึกมาก ต้องออกเอ้าท์ดอร์ตลอดเวลา ก็ต้องขังเขาไว้ในบ้าน ก็ต้องหากิจกรรมให้ลูก ในบ้าน ก็คอยเช็กเลยว่าวันนี้ PM 2.5 เท่าไหร่ ถ้ามันต่ำก็ให้ลูกๆ ออกจากบ้านได้ ถ้ามันสูงก็ชวนลูกต่อจิ๊กซอว์ในบ้าน เราก็เคร่งนิดหนึ่งนะ เพราะรู้สึกว่ามันเสี่ยงต่อสุขภาพเขา ก็ไม่รู้ว่าผลต่อสุขภาพในระยะยาวจะเป็นยังไงบ้าง คืออย่างที่บอกว่า ไม่ได้โทษใคร ก็คิดว่าทุกคนก็ช่วยทำให้มันดีขึ้น ก็คนละไม้คนละมือ เรื่องควันดำ หรือต่างๆ ที่ช่วยกันได้"