"แอฟ ทักษอร" ไม่แคร์ "สงกรานต์" แอบเหน็บ ลั่นไม่โฟกัสอะไรที่ไม่ส่งเสริมชีวิต ตอนนี้เครียดแค่เรื่องงานกับเรื่องลูกก็พอ หน้าเสียผิดสัญญากับ "น้องปีใหม่" จนอีกฝ่ายปล่อยโฮ ยกเป็นบทเรียน มีความสุขได้กลับมาถ่ายละคร
เปิดกล้องซะที สำหรับ "ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ" งานนี้ "แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" เผยว่าดีใจมาก เพราะห่างหายไปซะนาน รู้สึกมีความสุขที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ปลื้มเคมีเข้า "ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร" เริ่มมีแฟนคลับบ้านคู่
"ดีใจค่ะ เหมือนห่างหายจากบรรยากาศแบบนี้ไปนาน หลังจากเริ่มถ่ายทำไปได้สักประมาณ 10 คิว วันนี้ก็ได้ฤกษ์บวงสรวงแล้ว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็รู้สึกมีความสุขค่ะ"
"เริ่มมีแฟนคลับบ้านคู่มาแล้ว แอฟ-ต่อ สำหรับแฟนคลับแอฟจะเจอหรือไม่เจอก็เป็นการซัพพอร์ตซึ่งกันและกันมาตลอดค่ะ สำหรับเรื่องคู่จิ้นสมัยก่อนก็มีนะ ตอนที่เคยเล่น(หัวเราะ) มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พระเอกนางเอกที่เล่นด้วยกันก็ควรจะต้องมีเคมีบางอย่างที่คนดูแล้วมีความสุขแล้วอยากเห็นทั้งคู่มีความสุข มันเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับแอฟ ถ้าคนดู ดูแล้วไม่เชียร์อันนั้นสิแปลก ต้องขอบคุณทุกการสนับสนุนถึงแม้จะยังไม่เห็นผลงานก็เทใจให้แล้ว ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ รับรองจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ"
"หลังจากที่เข้าฉากกัน ต้องบอกเลยค่ะว่าต่อเป็นคนที่น่ารักมาก มีพื้นฐานการเป็นนักแสดงที่ดีมีวินัยมาก เรื่องนี้ต่อเขาเต็มร้อยอยู่แล้ว นอกจากนั้นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดคือบางทีเราก็หายจากการแสดงไปนาน อาจจะต้องมีช่วงเคาะสนิมบ้าง ต่อก็ช่วยเคาะอยู่"
เผย "น้องปีใหม่" วิดีโอคอลตามตลอด โทร.หายิกๆ
"ตามตลอดค่ะ หลังเลิกเรียนก็คือตามยิกเลย เมื่ออาทิตย์ที่แล้ววันหยุดมีโอกาสพาเขามากองละครว่าเวลาแม่หายไป หายไปที่ไหนยังไง เขาจะได้หายห่วง ตอนนี้ก็เลยไม่กังวล วันนั้นตอนที่ปีใหม่มากองไม่เจอพี่ต่อ แต่เจอทุกคนในกองแล้ว"
รับผิดไม่รักษาสัญญา "น้องปีใหม่" ร่ำไห้ ตกใจจนหน้าเสีย
"ตอนแรกคุณแม่ไม่รู้ตัวเลย ตอนนี้ดีกันแล้ว ก็สัญญากันว่าจะไม่ไปดูเขาซ้อมบัลเล่ต์ เพราะเขาย้ำนักย้ำหนาว่าคือความลับ เขาอยากจะทำให้คุณแม่ภูมิใจในวันโชว์จริง อาทิตย์แรกแม่ก็ไม่ไปดู อาทิตย์ที่สองที่ไปดูเพราะหนึ่งคิดว่าไม่ได้ซีเรียสการที่เด็กห้าขวบจะบอกว่ามันเป็นความลับ แล้วคือมีผู้ปกครองไปดูกันหมดเลย ปีใหม่จะเป็นคนเดียวที่แม่ไม่อยู่ได้ยังไง ก็กลัวลูกจะใจเสียเวลามองลงมาจากเวทีแล้วไม่เจอ คิดว่าเดี๋ยวเห็นหน้าแม่ก็ดีใจเองแหละ เปล่าค่ะ คือเขายึดเอาคำที่เขาสัญญาไว้กับแม่มากกว่าที่จะเห็นหน้าแม่ เขาก็เลยร้องไห้ด้วยความผิดหวัง"
"ตอนเขาร้องก็ตกใจมากค่ะ หน้าเสีย ใจหายไปถึงตาตุ่ม ไม่ได้เป็นอย่างนี้นานแล้ว รู้สึกว่าเราผิดจริง เราก็บอกลูก ก็ขอโทษลูก เราก็ยอมรับผิดเต็มประตูค่ะ ถามว่าง้อยังไง ก็ให้ทุกคนช่วย แล้วทุกคนน่ารักมาก อย่างผู้พันเบิร์ด (วันชนะ สวัสดี) ส่งข้อความมาเลยว่าควรจะทำยังไง พี่เบิร์ดเป็นแฟมิลี่แมนมาก เขาจะมีวิธีพูดกับลูก เขาก็ไม่งอนหลายวัน เขาเป็นเด็กค่อนข้างเข้าใจแต่ก็ไม่ใช่ภายในวันนั้น"
"จริงๆ แล้วเราจำคำสัญญาได้ ไม่ได้เป็นคนขี้ลืม แต่เราแค่ชั่งน้ำหนักในใจแล้วว่าระหว่างสัญญากับการที่เขามองแล้วไม่เห็นหน้าแม่ มั่นใจในตัวเองคิดว่าเขาจะต้องดีใจเวลาเห็นหน้าแม่ ปรากฎว่าไม่เลย เขารู้สึกว่าไม่เห็นหน้าแม่ตอนนั้นก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้คิดว่าลูกเราจะโตแล้ว"
"ก็เป็นบทเรียนค่ะ ว่าถึงแม้เห็นเขาตัวเล็กๆ แบบนั้น เราก็ต้องฟังและเชื่อใจเขา คือตลอดเวลาเราฟังค่ะ แอฟเป็นคนฟังลูกตลอดแต่ว่าบางทีเราไม่ได้เชื่อใจว่าเขาจะไม่ใจเสียจริงๆ ใช่ไหม แต่จริงๆ คือเขาทำได้ ปีใหม่เขาก็โตขึ้น"
ปลื้มลูกสาวได้พรีเซ็นเตอร์ ได้งานที่เหมาะกับเขา
"แอฟดีใจที่น้องได้ทำงานนี้ แอฟไม่ได้มองว่าเป็นงานใหญ่หรือได้เงินมาก เงินน้อย แต่ดีใจที่เขาได้งานที่เหมาะกับเขา อย่างในโฆษณาก็เป็นไลฟ์สไตล์ของเด็ก เราอยากให้เขาได้ทำอะไรเป็นตัวของตัวเอง มันเป็นเรื่องที่เขาชอบ ร้องเพลง เต้น เล่นกับเพื่อน ได้งานที่ตรงกับคาแรคเตอร์หรือเหมาะกับเขา เป็นเรื่องที่ดีไม่อยากไปฝืนให้ยืนขายของ ไม่ใช่ตัวเขา"
"เรื่องแอ็กติ้งไม่ได้เตรียม เด็กมีธรรมชาติในการแสดงออกมาอยู่แล้ว เผลอๆ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าเรา ไม่รู้จะสอนอะไรเขา แต่ก่อนไปทำงานก็มีการเตรียมตัวเยอะมาก ในหนังมีต้องร้องเพลง ต้องเต้น ก็ไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว เป็นการไปเรียนเต้นแบบจริงจังเป็นทางการครั้งแรก ลูกมีความสุขตอนที่ทำ และเขาดีใจที่ได้ไปเรียนเต้นปกติแม่ไม่ได้ให้ไปเรียน เขามีความสุขในทุกขั้นตอน พูดง่ายมาก ปกติจะไม่ชอบนอนกลางวัน แต่วันนั้นบอกว่าถ้าไม่นอนตอนบ่ายจะไม่ได้ถ่ายต่อนะ พอกินข้าวเสร็จเขาก็รีบนอนเลย เราก็เปิดให้เขาดูในยูทิวบ์ แค่ปีใหม่คนเดียวก็ร้อยกว่าวิวแล้วค่ะ (หัวเราะ)"
งานติดต่อเรื่อยๆ ดูความเหมาะสม
"มีติดต่อมาเรื่อย แต่ก็ดูตามความเหมาะสม มันเข้ากับน้องไหม ถ้ามันฝืนเดี๋ยวแม่ทำเอง เขาไม่ได้บอกว่าอยากทำอีก แต่เวลามีติดต่อมาก็จะบอกเขา ถามเขาว่าอยากทำไหม เรียกว่าซุป'ตาร์ตัวน้อยได้ไหม เพิ่งเริ่มได้งานเดียวเองค่ะ (หัวเราะ)"
ไม่เห็นข้อความ "สงกรานต์ เตชะณรงค์" เหน็บ “ติวเข้มให้เจ๊ปีก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีส่วนร่วม” เครียดเรื่องงานกับลูก สำคัญมากในชีวิต อะไรที่ไม่ได้ส่งเสริมจะไม่โฟกัส
"ไม่เห็นค่ะ ตอนช่วงทำแอฟเริ่มทำงานจริงจัง ละครถ่ายมาประมาณ 10 คิว รู้สึกว่าแอฟต้องปัดฝุ่นเยอะ ต้องทุ่มเทพลังและสมาธิทั้งหมดมาที่งานและลูก ตอนนี้สองอย่าง จะเอาอย่างใดอย่างหนึ่งนำมันก็ยาก สำหรับแอฟมันสำคัญมากๆ ในชีวิตแอฟช่วงนี้ทั้งสองอย่าง อะไรที่มันไม่ได้ส่งเสริมในตอนนี้แอฟก็จะพยายามไม่โฟกัส"
"คนใกล้ตัวจริงๆ ไม่ค่อยมีใครบอกค่ะ เขาอาจจะรู้ว่าตอนนี้แอฟกำลังเครียดอยู่ เรามีสิ่งที่เราต้องโฟกัสอยู่ ตอนนี้ไม่ได้รับรู้ค่ะ ตอนนี้แค่เรื่องละครแอฟก็เครียดอยู่แล้ว บวกกับเรื่องลูกก็เครียด ต้องยอมรับเลยเพราะว่ามันเป็นช่วงที่เพิ่งเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ก็ค่อนข้างลงตัวแล้วค่ะว่าลูกเข้าใจว่าเรามาทำอะไรที่ไหนอยู่กับใคร เขาก็ไม่รู้สึกว่า อุ้ย เมื่อไหร่คุณแม่จะกลับบ้าน ไม่แล้ว ตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้ว เขาจะเปลี่ยนแนวเป็นคุณแม่ทำอะไร วันนี้คุณแม่ถ่ายฉากอะไร วันนี้คุณแม่ขับเครื่องบินรึเปล่า ก็จะไปทางด้านนั้นไปทำให้เราเบาใจขึ้นเยอะว่าการที่เราออกมาทำงานไม่ได้ส่งผลกระทบกับลูก"
ลั่นพาปีใหม่ไปพบปู่ย่าปกติ ไม่เปลี่ยนแปลง
"ก็ปกติค่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างที่บอกที่แอฟเครียดเรื่องการทำงานและลูก เพราะเราไม่อยากทำอะไรเกี่ยวกับลูกให้มันเปลี่ยนแปลงเลย เราจะไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ กับลูกเลย เราต้องมีเวลาให้ลูกเท่าเดิมเหมือนเดิม"
