xs
xsm
sm
md
lg

คู่กรณีแหกกลับ "ลูกตาล" ให้ยืม 1.4 ล้านเพราะสงสาร รับไม่ได้ถูกดิสเครดิตดอกเบี้ยโหด 8 แสนต่อปี ทั้งที่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอให้เอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คู่กรณีแจงละเอียด ให้ "ลูกตาล" ยืม 1.4 ล้านเพราะสงสาร อีกฝ่ายอ้างช็อตเงินทำธุรกิจ แต่เป็นเงินหมุนเวียนในธุรกิจร้านเพชร ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคาร ยันกว่า 8 แสนที่ลูกตาลจ่ายเป็นผลตอบแทนน้ำใจ ไม่ได้เรียกร้อง แต่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอให้เอง ช้ำต้องมานั่งจ่ายดอกเบี้ยธนาคารเองเป็นเวลากว่า 1 ปี ต้องขายรถมอเตอร์ไซค์หักหนี้ เสียใจจะตบ ทั้งที่บอกว่าตนมีบุญคุณ เหมือนชาวนากับงูเห่า จวกดิสเครดิตโก่งราคาเพชร หมิ่นประมาท พูดชัดเอาเงิน 1.2 ล้านมาคืน เอาของคืนไป

จากกรณีคลิปสนั่นโซเชียล "ลูกตาล ชโลมจิต จันทร์เกตุ" ถูก "จุ๋ม ฐิตาภัสร์ อัครศักดาภิรมย์" เจ้าของร้านเพชร บุกทวงเงิน 1.4 ล้าน ถึงฟิตเนสย่านอาร์ซีเอ ก่อนที่ลูกตาลจะขึ้นรถหรูขับออกไป โดยเจ้าของร้านเพชรเปิดใจว่าอีกฝ่ายยืมเงิน 1.4 ล้าน ต้องคืนเงินในเดือนธันวาคมปี 2561 ซึ่งได้ทำสัญญามีเอกสารทุกอย่าง แต่พอถึงกำหนด ลูกตาลก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด พร้อมกับบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง ติดต่อไม่ได้จนต้องบุกไปทวงถามถึงฟิตเนส ด้านลูกตาลควงทนายแถลงโต้กลับ ยันจ่ายไปแล้วกว่า 8 แสนต่อปี แต่หนี้ไม่ลดลง ทั้งที่ถูกอีกฝ่ายยึดทรัพย์สิน ทั้งเครื่องเพชรและรถมอเตอร์ไซค์ไปแล้ว

รายการโหนกระแสวันที่ 5 กพ. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณจุ๋ม" คู่กรณีลูกตาล มาพร้อม "น้องเบล" ลูกสาวซึ่งเป็นคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว

เรื่องเป็นยังไง ทำอะไรอยู่?
จุ๋ม : "ทำธุรกิจเพชรแท้ บลูไดมอนด์ อยู่ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป เปิดหลายสาขาค่ะ"

เรื่องราวที่มาที่ไป ทำไมคุณไปเป็นเจ้าหนี้เขาได้?
จุ๋ม : "ต้องเรียนให้ทราบว่าพี่เองกับคุณลูกตาลเป็นเพื่อนกัน มีคนในวงการแนะนำให้รู้จัก เรารู้จักกันมานานพอสมควร ในระดับหนึ่ง ที่ว่าเขาก็เชื้อเชิญให้ไปงานแต่งงาน เปิดฟิตเนส งานหมั้นอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นแขกในงานนั้นๆ ทีนี้ด้วยความเราสนิทกันมาก วันนึงเขาประสบปัญหาธุรกิจตัวเอง"

พูดตรงๆ ช็อตเรื่องการเงิน?
จุ๋ม : "ใช่ค่ะ"

ก่อนหน้านี้เขามาซื้อของกับพี่มั้ย?
จุ๋ม : "เขาซื้อแหวน ราคา 2 แสนกว่าบาท"

แต่เขาบอกว่าซื้อแหวนพี่ไปล้านกว่าบาท?
จุ๋ม : "ไม่ใช่ค่ะ มีแค่บางส่วนเท่านั้นที่เขาสั่งทำ คือแหวนแต่งงานของเขา 230,000 และอีกวงเป็นของน้องสาว"

มีเอกสารมั้ย?
จุ๋ม : "มีหมด แต่อยู่ที่ทนายความค่ะ มันเป็นงานสั่งทำ สั่งผลิตใหม่ แล้วก็มีแหวนน้องสาวเขาสั่งทำ เป็นแหวนแต่งงานหมือนกัน ราคา 230,000 เท่ากัน นอกจากนั้นเขาซื้อร้านอื่น ไม่ได้ซื้อร้านพี่"

เขายืมเงินเท่าไหร่?
จุ๋ม : "1.4 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวว่าสนิทเลยให้ยืม ครั้งแรกที่เขาโทรมา พี่ปฏิเสธไม่ให้ยืมค่ะ พี่บอกว่าไม่สะดวก เสร็จแล้วผ่านไปสองอาทิตย์เขาโทรมาอีก เขาบอกว่าให้ช่วยหน่อย เขาเดือดร้อนมาก พอมีใครพอรู้จักช่วยหยิบยืมเงินให้ได้มั้ย เราเลยไปติดต่อรุ่นพี่ประมาณ 2 ท่านว่าลูกตาลมีความต้องการขอยืมเงินแต่เขาปฏิเสธ ไม่สะดวกให้ เวลาผ่านไประยะนึงเขาโทรมาครั้งที่ 3 คราวนี้เขาอ้อนวอนพี่ แล้วยื่นข้อเสนอให้พี่ ตอนแรกพี่ตัดเขาไปก่อนว่าเราไม่สะดวก ไม่มีเงิน 1.4 ล้านให้ยืม เขาเลยยื่นข้อเสนอบอกว่าเรามีเงินหมุนเวียนในธุรกิจมั้ย ซึ่งเราก็มีเงินโอดี เป็นเงินหมุนเวียนในบริษัทร้านเพชร เราก็เอาเงินโอดีคุยกันว่าถ้าเดือดร้อนขนาดนี้ ถ้าคุณจะเอาเงินโอดี ไป พี่ก็ต้องจ่ายแบงค์ ซึ่งเราก็ให้เขาไป 5 แสน 2 ครั้ง แล้วก็ 4 แสน ก็ตกลงว่าถ้าคุณเอาเงินหมุนเวียนในบริษัทพี่ไป ดอกคุณต้องรับผิดชอบ"

ดอกเท่าไหร่?
จุ๋ม : "ตอนนั้นเขายื่นข้อเสนอให้พี่ พี่ไม่ได้เรียกร้อง เขาบอกว่าถ้าได้เงินไป เขาจะให้ผลตอบแทนเป็นรายเดือน 7 หมื่นบาท ส่วนหนึ่งเป็นเงินดอกเบี้ยที่พี่จะต้องให้แบงค์ อีกส่วนเป็นผลประโยชน์ ซึ่งดอกเบี้ยแบงค์ถ้าคำณวนสินเชื่อบุคคลก็ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี"

จากเงิน 1.4 ล้านเหรอ?
จุ๋ม : "ไม่ค่ะ หมายความว่าที่พี่ทำวงเงินสินเชื่อกับแบงค์"

เอางี้ดีกว่า เงิน 7 หมื่นบาทที่เขาให้พี่ทุกเดือน เหลือเท่าไหร่ถึงพี่?
จุ๋ม : "ไม่เคยคำณวนค่ะ เพราะเรามีระยะเวลา"

5 หมื่นถึงมั้ย?
จุ๋ม : "พี่ไม่เคยคำณวนจริงๆ ตรงนี้เป็นผลตอบแทน ซึ่งจริงๆ แล้วพี่ไม่มีเจตนาให้เขายืม พี่มีหลักฐานว่าเราไม่สะดวกตอนมาขอกู้ยืมเงิน พี่ไม่ได้ปล่อยเงินกู้ คุณลูกตาลขอร้องให้ช่วย"

วันที่ 28 กพ. คุณพิมพ์ไปบอกเขาว่า ให้หาเงินสดมาคืน 1.4 ล้าน และเอาทรัพย์สินที่ฝากไว้คืนไปดีกว่า?
จุ๋ม : "ใช่ค่ะ ไม่เคยคิดจะยึดทรัพย์ของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์หรืออย่างอื่น"

คุณบอกว่าเอาทรัพย์สินไปเลย ไม่ต้องมาจ่ายดอกเบี้ย เพราะตั้งแต่แรกบอกว่าไม่มีเงินให้บืม และไม่ได้ปล่อยกู้ คุณลูกตาลมาขอร้องให้ช่วย ให้นึกถึงวันแรกที่มายืมด้วย วันนี้มีความจำเป็นต้องใช้เงิน รบกวนคืนเงินสดที่ยืมไปด้วย รบกวนติดต่อกลับหาพี่จุ๋มด่วน หลังจากนั้นคุณลูกตาลบอกสายๆ นะคะ แล้วพี่ก็บอกว่าช่วยติดต่อกลับด้วยค่ะ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวโทรกลับ ไม่สะดวกคุย หลังจากนั้นหาย?
จุ๋ม : "หายค่ะ มันเกิดอะไรขึ้นคะ บล็อกไลน์ บล็อกเฟซ มือถือ ติดต่อไม่ได้ค่ะ การที่คุณมาบอกสื่อว่าพี่ยึดทรัพย์ของคุณไม่จริง เอกสารชัดเจนแล้วว่าพี่บอกให้คุณมาเอาทรัพย์คุณคืน"

เขาเอาอะไรมาไว้บ้าง?
จุ๋ย : "แหวนแต่งงานของเขา 2.3 แสน"

แต่เขาบอกว่าซื้อเป็นล้าน?
จุ๋ม : "เขาซื้อที่อื่นค่ะ เขาไม่ได้ซื้อจากบลูไดมอนต์ ซึ่งตอนแรกเขาเอาแหวนมาแต่เราไม่รับ เพราะมันไม่ใช่เป็นของร้านพี่ แต่เขาก็อ้อนวอนให้ช่วยเอาไว้หน่อย เขาไม่ได้แจ้งว่าราคาเท่าไหร่ ซึ่งไม่ถึงล้านแน่นอน พี่ช่วยเขาเพราะความสงสาร การที่พี่ให้เขาไม่ได้ให้เพราะความยินดี ให้ในฐานะเพื่อน เราสนิทสนมกัน ช่วยเหลือเขาในเรื่องธุรกิจ เพราะเขาเดือดร้อนเรื่องธุรกิจ"

สรุปเขายืมเงินพี่ 1.4 ล้าน เขาเอาอะไรมาวาง?
จุ๋ม : "เขาเอาทรัพย์สินมาไว้ประมาณ 5 ชิ้น มีแหวน 4 วง"

ตีมูลค่าเท่าไหร่?
จุ๋ม : "พี่ไม่ทราบ เพราะพี่ไม่ได้ตีค่ะ เพราะเราตกลงกันแล้วว่าหลักทรัพย์ของคุณ คุณก็เอาคืนไป คุณแค่เอามาวางเฉยๆ ไม่ตีมูลค่าเพราะเรามีความสมพันธ์กัน เราเอามาแค่เป็นหลักประกัน ไม่ได้เอามาขายพี่"

แหวน 4 วง แล้วมีอะไรอีก?
จุ๋ม : "มีสร้อยหนึ่งเส้น เป็นสร้อยเพชรค่ะ"

แพงมั้ย?
จุ๋ม : "ก็ไม่ทราบค่ะ เพราะเขาไม่ได้ซื้อที่ร้านพี่ค่ะ แล้วเขามาบอกว่าทั้งหมดซื้อจากร้านพี่ มาดิสเครดิตพี่ว่าเพชรไม่ดี โก่งราคา แล้วก็มอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ ต้องเรียนให้ทราบว่าวันที่เกิดเหตุตั้งใจไปพูดถึงเรื่องรถมอเตอร์ไซค์คันนี้"

เขาบอกราคา 6.5 แสน?
จุ๋ม : "เขาพูดราคาเท่าไหร่ก้ได้ แต่ในความเป็นจริง พี่ขายได้ในราคา 2 แสนบาท"

คุณเอารถเขาไปขายแล้วเหรอ?
จุ๋ม : "ไม่ค่ะ ดูก่อนค่ะ พี่ไปสน. ลงบันทึกประจำวัน"

ในบันทึกประจำวันบอกว่าผู้กู้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันผู้ให้กู้แจ้งให้ทราบ หากผู้กู้ไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลา ติดต่อสิทธิการขายรถจักรยานยนต์เป็นของผู้ให้กู้ นี่คือยืนยันไว้สน.หัวหมาก?
จุ๋ม : "ใช่ค่ะ ไม่ใช่ว่าพี่ไปรับรถมอเตอร์ไซค์คุณมา 3 แสนบาท คุณพูดใส่ร้ายพี่ค่ะ คุณไม่ได้พูดความจริง เอกสารเดียวกัน แต่เวลาสื่อสารพูดไม่ตรงกัน คุณต้องชี้แจงด้วยนะคะ เพราะรถคันนี้เป็นสิทธิ"

ตอนแรกผมจะให้เขามาเคลียร์ต่อหน้า พี่ก็ไม่ให้เขามา?
จุ๋ม : "อย่างนี้นะคะ พี่มีอาชีพขายเพชร ไม่ได้มีอาชีพต้องมานั่งคุยกับเขา เป็นหนี้จ่ายคืนก็จบค่ะ"

ณ วันนั้นพี่บอกเขาเอามอเตอร์ไซค์ 1 คันมาวาง บอก 6 แสนบาท แต่มูลค่าจริงๆ 2 แสนกว่าบาท แหวนอีก 4 วง หนึ่งในนั้นซื้อจากร้านพี่ แต่วงอื่นไม่ใช่จากร้านพี่ แต่เขารวมว่าซื้อจากร้านพี่ทั้งหมด สร้อยเพชรก็ไม่ได้ซื้อจากพี่ แต่บอกว่าซื้อจากร้านพี่เหมือนกัน แล้วรวมทั้งหมดว่าให้ไปแล้วเป็นค่าดอก?
จุ๋ม : "ไม่จริงค่ะ จริงๆ ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นหลักประกัน พี่พิมพ์ไลน์บอกเขาแล้วนะคะว่าให้ช่วยคืนเงินสด 1.4 ล้านมาให้พี่ ให้เอาของเขากลับไป ทุกวันนี้พี่เดือดร้อนมากเลย ไม่สมารถติดต่อเขาได้ เนื่องจากเขาบล็อกไลน์พี่ พี่ต้องชำระดอกเบี้ยแทนเขา เรากำหนดกันไว้ว่าเดือน ธ.ค. ปี 61 เขาต้องชำระให้พี่ แต่เงินจำนวนนี้ พี่ต้องจ่ายดอกให้เขาปี 62 ทั้งปี จนมาปี 63"

เขาโอนเงินมาให้พี่ตลอด พี่จะบอกว่าเงินพวกนี้เป็นเงินกินเปล่า?
จุ๋ม : "ไม่ใช่ค่ะ มันเป็นเงินที่เขายื่นข้อเสนอ ตอนเขามายืมเงินพี่ไป เรามีการคุยกันว่าพี่ต้องเอาเงินนี้หมุนเวียนในธุรกิจพี่ เขายื่นข้อเสนอว่าจะให้ค่าตอบแทนพี่เป็นรายเดือน"

เงิน 1.4 ล้านยังเป็นหนี้อยู่ แต่เงินที่เขาจ่ายมาแล้ว พี่มองว่าเป็นข้อตกลงที่เขาจะให้พี่เอง ไม่ใช่การหักต้น?
จุ๋ม : "ใช่ค่ะ เป็นผลตอบแทนรายดือน ที่คุณยื่นข้อเสนอให้พี่ ไม่ใช่ดอกเบี้ยคะ เขาแบล็กเมล์พี่ ตอนมายืมเงินเขาพูดว่าเขาเดือดร้อน เขายังไลน์บอกว่าเรามีบุญคุณกับเขา เขาไม่เบี้ยวแน่นอน ทนายบอกให้ฟ้องแต่เขาไม่ เขาอยากให้เราให้โอกาส แล้วเขาไปบอกสังคมอย่างเมื่อวาน"

สรุปมอเตอร์ไซค์คันนั้นหักต้นมั้ย?
จุ๋ม : "หักค่ะ พี่ไปที่ร้านเขาเพื่อติดต่อเขา จริงๆ หน้าที่ขายรถมอเตอร์ไซค์ต้องเป็นหน้าที่คุณลูกตาล ไม่ใช่หน้าที่พี่ ที่เอาไปขายเพราะเขาบอกไม่มีเงินชำระ ให้เอาทรัพย์สินไปขายมาหักหนี้ เป็นความประสงค์ของเขา มันอยู่ในใบบันทึกประจำวัน ที่เขาบอกให้เอาไปขายเอง เมื่อวานก็เอาใบนี้มาโชว์ แต่ไม่อ่านให้สื่อฟัง สิทธิ์การขายรถมอเตอร์ไซค์เป็นของพี่"

ตอนนี้เหลือ 1.2 ล้าน แล้วที่เขาบอกจ่ายไป 8 แสนกว่า?
จุ๋ม : "ตรงนั้นเป็นสินน้ำใจ"

ทนาย : "เป็นการตอบแทนที่อีกฝ่ายตกลงกับฝั่งนี้หรือเปล่า"

แต่ไม่ถือว่าเป็นดอกเหรอ?
จุ๋ม : "ไม่ถือเป็นดอก เพราะพี่มีอาชีพขายเพชร ไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้ พี่เรียนตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่มีเงินให้คุณยืม แต่คุณลูกตาลประสงค์จะเอาเงินพี่ไปให้ได้ แล้วคุณเสนอข้อตอบแทนให้พี่เอง พอมาวันนี้คุณบอกว่าพี่เรียกร้อง พี่ไม่เคยเรียกร้อง เงินที่ให้ตอนหลังๆ คุณก็ให้ช้า ไม่เคยให้ตามกำหนด หลังๆ เดือน 9 คุณก็ไม่ได้ให้"

มีหลักฐานมั้ยที่เขาบอกว่าจะจ่ายให้เดือนละ 7 หมื่นมั้ย?
จุ๋ม : "ตรงนี้พี่พลาด เราพลาดไป เพราะเขาโทรมาขอร้อง และไม่คิดว่าจะให้เขา"

เขามีเอกสารมั้ยว่า 7 หมื่นเป็นดอกเบี้ย?
จุ๋ม : "ไม่มีค่ะ แล้วมาบอกว่าเป็นเจ้าหนี้ดอกโหด ซึ่งคุณพูดใส่ร้ายพี่ค่ะ ก็ไม่เป็นธรรมค่ะ"

หนูไปด้วย เป็นคนถ่าย รู้ปัญหามาตลอดมั้ย?
เบล : "หนูแค่ทราบรายละเอียดนิดหน่อย ทราบว่าพี่ลูกตาลเดือดร้อน มาขอยืมเงินแม่หนู แล้วได้ยินบ้างว่าจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง หลังๆ บล็อกหนี แล้วตั้งใจจะโกงค่ะ หนูคิดว่าไม่งั้นเขาต้องมาเจรจา แต่เขาหาย"

เครื่องเพชรยังอยู่กับพี่มั้ย?
จุ๋ย : "อยู่ค่ะ คุณเอาทรัพย์สินคุณคืนไป เราไม่ได้อยากได้"

พี่ยืนยันว่าพี่บริสุทธิ์ใจ เรื่องดอกเบี้ยโหดไม่จริง?
จุ๋ม : "ใช่ค่ะ แล้วคำว่าดอกเบี้ยโหดไม่จริง ที่ผ่านมาพี่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแทนเขาตลอดปี 62 ให้กับแบงค์ เงินโอดีที่เอาออกมา พี่เซ็นเช็คให้เขาปั๊บพี่ก็จ่ายดอกเบี้ยเลยนะคะ"

ทนาย : "เรื่องมอเตอร์ไซค์ ข้อสงสัยทำไม 6 แสน แต่ขายได้ 2 แสน ต้องเอามายืนยัน และมาเจอกัน"

จุ๋ม : "เช็กได้ค่ะ เป็นเพราะสภาพรถค่ะ"

อยากบอกอะไรคุณลูกตาล?
จุ๋ม : "พี่เสียดายวันเวลาที่ได้รู้จักกันมา สนิทสนมกัน วันนี้ที่เกิดเหตุขึ้นพี่ก็เสียใจ แต่บทเรียนที่เกิดขึ้น คุณได้ทำกับพี่ ที่พี่บอกว่าเรามีบุญคุณ หนูจะไม่มีวันลืมบุญคุณพี่เลย แต่วันนั้นคุณวิ่งเข้ามาจะตบพี่ ทำให้ลูกสาวต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พี่ไปลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว สน.เขาได้เช็กวิดีโอ ออกหมายเรียกเรียบร้อยแล้ว พี่จะบอกว่าเรื่องนี้เหมือนชาวนากับงูเห่า"

เขาบอกเพชรไม่อยากได้คืนแล้ว เพราะมีตำหนิ รอยร้าว?
จุ๋ม : "การซื้อทรัพย์สินพวกนี้เป็นความพึงพอใจ ก่อนซื้อคุณได้ตรวจดูแล้ว คุณใช้เพชรเซ็นเตอร์ ส่องแล้ว ตรวจสอบแล้ว มีใบเซอร์ ใบรับประกันทุกอย่างคุณยินดีจ่ายเงินให้พี่ แต่พอวันนี้มีเรื่องทะเลาะวิวาท คุณกลับมาเคลมพี่ มาดิสเครดิตพี่ คุณพูดได้ไง หมิ่นประมาทค่ะ คุณมาเอาเพชรคืนไปค่ะ แล้วเอาเงินคืนมาเลย 1.2 ล้าน"












กำลังโหลดความคิดเห็น