“แตงโม นิดา” เผย พ่อป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากขั้น 4 เตรียมผ่าตัด คุณพ่อกำลังใจดี ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและแนะนำแนวทางการรักษา
นอกจากจะตกเป็นข่าวกับ “พชร์ อานนท์” แล้ว ตอนนี้ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ก็ยังต้องเจอกับข่าวร้ายเมื่อ “คุณพ่อโสภณ พัชรวีระพงษ์” ตรวจพบป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากขั้น 4 เตรียมผ่าตัด เผยคุณพ่อกำลังใจดีและมีโอกาสหายสูง
“อาการของคุณพ่อแกจะปวดหลัง ปวดขา ทานข้าวไม่ค่อยได้ ตอนนี้พ่อเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ขั้นที่ 4 แล้วค่ะ จริงๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าขั้นไหน บางที่บอกว่า 4 บางที่บอกว่าไม่ถึง 4 ก็ยังไม่แน่ใจ ตรงนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่ ตอนนี้คุณพ่อก็เริ่มมีอาการปวดหลังมันก็เริ่มลามไปกระดูกสันหลัง เราก็จะรักษาด้วยการตัดอาหารของมันทิ้งซะก็คือตัดอัณฑะออก แล้วต่อมลูกหมากเราจะไม่ยุ่งกับมัน เดี๋ยวหลังจากนั้นจะเป็นคีโมหรือไม่คีโม หรือจะทางเลือกก็ค่อยว่ากันอีกที”
“ต้องขอบคุณมากๆ เลยกับทุกๆ คำแนะนำ คำแนะนำมันล้นจนบางทีตกลงจะยังไงดี จะผ่าไม่ผ่า ตอนนี้คุณพ่อกำลังใจดีค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าลึกๆ แล้วเขาจะแอบหวั่นหรือเปล่า เราก็กอดกัน ทานข้าว นั่งคุยกัน ใช้ชีวิตใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยมากขึ้น”
“คุณพ่อค่อนข้างอายุมากแล้ว บางท่านจะแนะนำว่าไม่อยากให้ใช้ยาสลบเดี๋ยวจะไม่ฟื้นก็มี สุดท้ายวันนี้ก็ไปที่ รพ.รามาไปให้คุณหมอสรุปให้เลยว่า เราจะตัดส่วนของอาหารของมันออก ก็กำลังนัดหมายกันอยู่ว่าจะผ่าวันไหน คุณพ่อแกก็พร้อมแล้ว ก็ไม่ได้ดูเป็นอะไรนะคะ เขาคิดว่าเป็นผ่าตัดเล็ก ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรมาก เขาไม่ได้ตัดไปทั้งหมด เขาตัดเฉพาะข้างในออกไป เราก็จะใช้วิธีรักษาทั้งแพทย์ปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกด้วย ซึ่งก็มีอีกหลายคนที่เขารักษาหาย”
“โมก็ต้องเข้มแข็งตอนแรกโมก็ช็อคเหมือนกัน โมกับคุณพ่อเราอยู่ด้วยกัน คุณพ่อจะหลีกเลี่ยงการตรวจสุขภาพมาตลอดเพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรซักอย่างนี่แหละ พอวันหนึ่งตรวจเจอโมก็ช็อคไปแป๊บนึงเหมือนกัน ก็ต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเข้มแข็ง เพราะต้องพาคุณพ่อและคนในบ้านสู้ด้วย”
“ส่วนเปอร์เซ็นต์หายมีสูงค่ะ ไม่น่ากลัวอะไรเลย ก็ขอให้มันไม่ลามไปที่อื่นก็พอแล้ว ก็บอกให้คุณพ่ออยู่ไปอีกสัก 20 ปี บอกเดี๋ยวรอเรียนจบ อุ้มหลานก่อนแล้วค่อยไปแล้วกันนะ ต่อหน้าเราเขาก็ทำเป็นเข้มแข็ง แต่เราก็ไม่รู้ว่ายังไง เท่าที่เห็นเขาก็กำลังใจดีกว่าเราด้วยซ้ำ”
“ตอนแรกไม่รู้ว่าจะเป็นโรค คิดแต่ว่าเขาปวดหลัง เขาก็จะไปนวดจับเส้นอยู่เป็นปีเลย แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นมะเร็งแล้วมันลามไปกระดูกสันหลัง เราก็ชวนให้เขาไปตรวจสุขภาพตลอดแต่เขาก็ดื้อไม่ยอมไป แล้วตอนหนุ่มๆ เขาเป็นนักกีฬา เป็นนักบอล เหมือนเขาใช้ร่างกายเปลืองมาเยอะ เขาจะเจ็บแข้ง เจ็บขาอะไรอย่างนี้อยู่บ่อยๆ เขาเลยถนัดนวดรักษาอาการ เขาจะไปทางนั้นมากกว่า พอนวดมันก็หาย นวดก็ดีขึ้นแป๊บนึง บางวันนวดหนักก็กลับมาเป็นไข้ก็มีมันไม่ถูกจุด ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ สำหรับกำลังใจและคำแนะนำ มาบอกว่าจังหวัดนั้นมีหมอดี จังหวัดนี้มีหมอดี ที่นั่นมียาดี พอถึงคราวลำบากมากๆแบบนี้มันจะเห็นเลยว่าใครอยู่ข้างเราบ้าง ขอบคุณมากๆ จริงๆ ขอบคุณพี่นัท มีเรียเป็นคนนึงที่โทรมาบอกว่าตรงไหนมีที่รักษาดีๆ ขอบคุณพี่อ้วน รีเทิร์น ขอบคุณหลายๆ คนมากๆ ที่เป็นกำลังใจคอยดูแลกันตลอดเลย”
