xs
xsm
sm
md
lg

"โก๊ะตี๋" เผยคำพูด "สรยุทธ" ติดคุกสังคมมา 4 ปี! จะได้มีโอกาสนับหนึ่งใหม่ ยกเป็นลูกผู้ชาย วีรบุรุษวงการข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"โก๊ะตี๋" แต่งเมีย สินสอดไม่น้อยหน้าใคร เปิดใจยังฉีดฮอร์โมนเพศชายอยู่แต่ไม่ซีเรียสเรื่องมีลูก แล้วแต่วาสนา เผยเตรียมยกโขยงเข้าเยี่ยม "สรยุทธ" มั่นใจอยู่ได้สบาย แข็งแรง เผยสรยุทธเคยบอกงานข่าวคือลมหายใจและชีวิต ดีใจจะได้เริ่มนับหนึ่งใหม่เสียที หลังติดคุกสังคมมานานถึง 4 ปี ชี้ออกจากคุกทุกคนต้องอ้าแขนรับ เพราะเป็นหนึ่งในวีรบุรุษวงการข่าว


พร้อมสละโสดอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับนักแสดงตลก "โก๊ะตี๋ อาราบอย" ที่ตอนนี้กำลังวิ่งวุ่นเตรียมจูงมือแฟนสาวนอกวงการ "น้องกวาง" ลั่นระฆังวิวาห์ในเดือนธันวาคมนี้ โดยวันนี้ในงานแถลงข่าว WP Energy presents ครัวคุณต๋อยเอ็กซ์โป Season 5 ณ อาคารมาลีนนท์ ชั้น 8 ว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้ออกมาอัปเดตถึงการเตรียมงานแต่งในฝันให้ได้ฟัง พร้อมเล่าความในใจถึงพี่ชายคนสนิท "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" หลังถูกศาลตัดสินจำคุก เป็นเวลา 6 ปี 24 เดือนอีกด้วย

"จะแต่งงานปีนี้ครับ เดี๋ยวก็คงให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเราไปคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเขาเร็วๆ นี้แหละครับ แต่ว่าก่อนหน้านี้ก็ได้เกริ่นกับคุณแม่ กับผู้ใหญ่เขาไว้แล้วครับ พรุ่งนี้จะไปดูฤกษ์ครับ กะว่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมครับ ถ้าฤกษ์มันได้ไม่ตรงกับที่คิดไว้ก็เอาฤกษ์สะดวกครับ"

"ที่อยากให้เป็นเดือนธันวาเพราะอยากให้หมดฝนก่อน ความตั้งใจเราคือยากแต่งในสวน จัดแบบเล็กๆ อบอุ่นๆ มีเวลาเล็กๆ แล้วก็มีเหมือนมหกรรมอาหาร มันเป็นความเก็บกดของเราโดยส่วนตัว เวลาเราไปงานแต่งแล้วเป็นค็อกเทล กิน 3-4 คำคนอื่นก็จะมองว่าสถุล ตายอดตายอยากมาจากไหน แต่ถ้าทุกท่านมางานแต่งเรา ก็จะได้อิ่มอร่อยกับของคาวและของหวาน บรรยากาศแบบพี่น้อง สถานที่ในใจก็เป็นในกรุงเทพฯ ครับ ให้อาต๋อย (ไตรภพ ลิมปพัทธ์) เป็นคนเลือกครับ เพราะว่าอาน่าจะรู้จักผู้ใหญ่ รู้จักสถานที่ที่พอจะจัดในสวนได้ คือหนึ่งไม่อยากให้มันร้อน สองก็คือหนีฝน ก็เลยเลือกว่าเดือนธันวามันหมดฝนแล้ว แล้วก็เริ่มเข้าหน้าหนาว"

"ฤกษ์ที่จะไปดูคือ ตอนนี้มีน้องอยู่ที่พิจิตร เขาบอกว่าเขามีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ลูกศิษย์ในวงการก็หลายคน แล้วเรากำลังจะไปพิจิตร ไปบ้านเกิดแม่ก็เลยพอดีเลย เดี๋ยวไปให้อาจารย์หาฤกษ์ให้ ถามว่าเป็นคนเชื่อเรื่องฤกษ์ไหม มีหน่อยก็ดี เพื่อความสบายใจของทั้งฝ่ายผู้ใหญ่ของผู้หญิงและของเรา ถ้าเอาตัวเราจริงๆ จะเอาฤกษ์สะดวก"

บอกขำๆ สินสอดจะไปขอเบิกกับต๋อย ไตรภพก่อน ทำมาให้มาทั้งชีวิต ไม่อยากให้น้อยหน้าใคร
"เรื่องสินสอดก็ไม่ต้องกลัวครับ เราอยู่กับใคร เราอยู่กับคุณไตรภพ ไม่พอเบิกก่อน (หัวเราะ) อาหักไป หนูทำงานกับอาทั้งชีวิตแหละ ก็หนึ่งชีวิตของผู้หญิงเราก็ต้องให้เกียริเขา แล้วก็ต้องดูแลครอบครัวเขาด้วย ก็ไม่อยากให้น้อยหน้าใครหรอก แต่ก็ไม่ได้หวือหวาอลังการจนเกินไป เพราะเวลาเราทำอะไรอยากทำให้มันมีความสุข ถ้าคนรู้จักจะรู้ว่าเวลาเราทำอะไรเราจะเน้นเรื่องมีความสุข เรื่องเอ็นเตอร์เทนในกอง ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ อยู่ตรงไหนแล้วถ้ามีความสุข เราจะอยู่กับมันได้นานๆ ถามว่าตอนนี้เจ้าสาวเริ่มเตรียมตัวยังไงบ้าง เขาก็ไม่ได้เตรียมตัวยังไงหรอกแต่ก็คุยกันแล้ว ว่าเขาอยากขอไปทำโน่นนี่ เราก็บอกอยากทำก็ทำ"

ไม่อยากใช้ชีวิตแรดไปวันๆ อยากมีครอบครัว กลับมาเจอหน้าเมีย
"หลังคุณแม่รู้ว่าจะแต่งงานปีนี้แล้ว ท่านก็ไม่ได้ติดอะไร เพราะเราก็จะ 40 แล้ว ก็บอกกับแม่ว่าเราก็คงจะได้รู้ว่าหลักแก่นสารของชีวิตเราควรจะทำยังไง ไม่ใช่ว่าใช้ชีวิตตะแล๊ดแต๊ดแต๋ แรดไปวันๆ เราควรจะมีครอบครัว มีแนวทางของชีวิต ออกไปทำงาน กลับบ้านมาเจอเมียดูแลแม่เรา เก็บเงินให้เรา วางแผนชีวิต ส่วนเรื่องลูกเราไม่ซีเรียสอยู่แล้ว"

"งานแต่งคืออยากได้แบบนี้ แบบธรรมดาๆ ที่เจอหน้ากันทุกได้คน เพราะจริงๆ แล้ว ญาติสนิทมิตรสหายของเรามีตั้งแต่ประธานบริษัทยันมหาโจร ก็คิดว่าคนน่าจะเยอะ เพราะเราก็รู้จักกับคนทุกชนชั้น ทุกระดับ เพราะเราก็มาจากรากหญ้า มาจากบ้านนอก จากต่างจังหวัด ตอนแรกอยากจะโรงแรมหรู มีกระบี่มาไขว้ แล้วก็เดินลอดซุ้มกระบี่ คือลุงป้าน้าอาก็คงไม่ได้มา หรือว่าถ้าจะจัดแบบบ้านๆ เลย ทางฝั่งกรุงเทพฯ ก็คงไม่ได้ไป ก็เลยสุดตรงกลางที่สามารถเดินชมกันได้ เดินกินอาหาร คุยกันได้ ก็กราบเรียนเชิญทุกๆ คนนะครับ อาจจะไม่ได้ไปบอกด้วยตัวเอง ก็เดี๋ยวยังไงใกล้ๆ ก็จะบอกอีกที"

"ถามว่าจะเป็นเจ้าบ่าวแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ก็ไม่เป็นยังไง แค่รู้สึกว่าถ้าสมมติวันหนึ่งเราจะต้องมีคนหนึ่งคน เข้ามาร่วมทางใช้ชีวิตกับเรา เราก็ต้องแน่ใจแล้ว ว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้ามาใช้ชีวิตคู่ ร่วมผัวตัวเมียนอนอยู่เตียงเดียวกันได้ เราก็ต้องมั่นใจในระดับหนึ่ง"

โอดถูก "พชร์ อานนท์" สั่งให้เพิ่มน้ำหนัก รอถ่ายหนังเสร็จจะทำตัวเองให้ดูดี
"เอาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมงานอะไรเลย จะเริ่มไปหาฤกษ์ก่อน แล้วเดี๋ยวจะถ่ายหนังพี่พชร์ อานนท์ให้จบ เพราะพี่พชร์สั่งให้เพิ่มน้ำหนัก เราวางแผนจะแต่งงานเป็นเจ้าบ่าว แต่เขาไลน์มาทุกอาทิตย์ โก๊ะน้ำหนักขึ้นหรือยัง ผอมแล้วดูหน้าแก่ แต่งหน้าไม่สวย ตอนนี้หนัก 76 ขอสัก 80 กว่า เราก็เลยขึ้นมาเกือบ 10 กิโล จากที่ฟิตๆ อยู่ เรื่องอ้วนไม่ยากหรอก กินกลางคืนแป๊บเดียว เดือนเดียวขึ้นมาเกือบ 10 กิโล แต่ก็รอว่าเดี๋ยวพี่พชร์ปิดหนัง เราก็อยากทำร่างกายให้แข็งแรงให้มันดูดีหน่อย เวลาเราใส่ชุด ครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากดูดี การเตรียมตัวก็คงจะเป็นอย่างนี้ เตรียมตัวให้ตัวเองแข็งแรง แล้วหลังจากนั้นก็คงเริ่มถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่ก็ไม่ได้วางแผนไว้เริดหรูอะไรมาก ถ่ายแบบธรรมดาๆ ก็แล้วแต่เขาเลยครับ"

ไม่หวังเรื่องลูก บอกครอบครัวฝ่ายหญิงคงมีลูกให้ไม่ได้
"เรื่องลูกต้องบอกก่อนว่าเราซีเรียสกันมาเมื่อประมาณ 2-3 ปีแรกที่เรารู้จักกัน และคบกัน เพราะว่าทางฝ่ายหญิง รู้จักกันแรกๆ เราจะเป็นคนที่ไม่มองแบบคนอื่น ไม่ใช่ความรักแบบวัยรุ่น เราก็โตแล้ว พอรู้จักคบกันเป็นแฟน ก็วางแผนเลยว่าถ้าแต่งงานกัน ผมมีลูกไม่ได้นะ เพราะว่าด้วยฮอร์โมนทางร่างกายเรา ตอนแรกเขาก็ไม่อยากมี แต่พอรู้จักกันไปเกือบปี เขาก็รู้สึกว่าถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากมีลูกด้วยกัน แต่ว่าพอเริ่มไปตรวจจริงจัง สุดท้ายเราก็มองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไกลตัว แล้วก็ยากพอสมควรในการมี เขาก็ไม่ซีเรียส แล้วก็ไม่ติดกับทางฝั่งแม่เขา เราเคยถามแม่น้องกวางแล้ว ถ้ามีหลานให้ไม่ได้ แม่อย่าว่านะ หรือว่าถ้าอยากมีหลาน ก็ต้องให้ลูกสาวแม่หาแฟนใหม่"

ไม่รับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูก อยู่กันสองคนตายาย
"เรื่องจะรับเด็กมาเลี้ยงเราคงไม่เอา เพราะจริงๆ แล้วเลี้ยงหลาน 3 คน ก็เหมือนลูก เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ เพราะฉะนั้นการรับเด็กมาเลี้ยง เราไม่ต้องไปหาภาระมาเพิ่ม คือไม่มีก็ไม่เป็นไร อยู่กันสองคนตายาย อยากไปเที่ยวไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ อยากกินอะไรก็กิน สบายใจไปอีกแบบหนึ่ง"

ยังฉีดฮอร์โมนอยู่ โอกาสมีลูกยังมี แต่แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง
"คือปรึกษากระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว แต่ว่าตอนนี้ก็แค่ทำร่างกายให้แข็งแรง ให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนได้ด้วยตัวเอง ส่วนจะมาหรือไม่มาในอนาคต ไม่มีใครตอบได้ ว่ามันจะไม่ได้แล้วจริงๆ เราก็ตอบไม่ได้ หรือมันจะมาไหม ก็ตอบไม่ได้ เพราะทางการแพทย์แล้วก็ร่างกายตัวเองมันจะต้องพร้อม ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย กินอาหาร ดูแลตัวเอง ทุกวันนี้ 3 เดือนเรายังให้ฮอร์โมนทีหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็ดูแลกันไปจนกว่าร่างกายจะสร้างฮอร์โมนได้ด้วยตัวเอง คือโอกาสที่จะมีน้อง มีนะ ไม่ใช่ว่าปิดโอกาสศูนย์เลย ยังมีโอกาสที่จะมีลูกได้ แต่คือเรื่องนั้นเราเลิกคิดไปแล้ว ถ้าหมกมุ่นมันกลายเป็นเราเครียดเอง แล้วทำให้สุขภาพร่างกายเราไม่ดี จะมีได้หรือไม่ได้ ก็อยู่ที่บุญพาวาสนาส่ง"

หลังจาก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" พี่ชายคนสนิทถูกตัดสินจำคุก จากคดีไร่ส้ม ก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเลย เจอกันครั้งสุดท้ายก็คือที่ศาลตัดสินวันนั้น ตอนนี้กำลังนัดกันเพื่อที่จะไปเยี่ยม และนำอาหารไปเลี้ยงด้วย
"คือหลังจากเจอที่ศาลก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเลยครับ เพราะมีงานทุกวันเลย แล้วก็เลิกดึก ช่วงนี้หนังก็เริ่มปิดกล้อง แต่ก็จะมีนัดกันว่าจะเอาขนมแล้วก็กับข้าวไป เพราะว่าพี่ยุทธก็เป็นแฟนรายการครัวคุณต๋อย ร้านอาหารในครัวคุณต๋อยก็เป็นแฟนพี่ยุทธหลายคน ก็กะว่าจะเอาขนมเอาข้าวไปเลี้ยงคนที่อยู่ในนั้น"

ส่วนตัวคิดว่าสรยุทธอยู่ได้สบาย เพราะเป็นคนเข้มแข็งอยู่แล้ว
"เอาจริงๆ คิดว่าพี่ยุทธสบายครับ เพราะว่าเรารู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอ แล้วก็เชื่อว่าเขาเป็นคนที่เข้มแข็งครับ"

บอกคำพูดสรยุทธ ติดคุกสังคมมา 4 ปีแล้ว จะได้เริ่มนับหนึ่งใหม่สักที ชี้อีกฝ่ายเสียใจที่ไม่ได้ทำข่าว เพราะเป็นชีวิตและลมหายใจ ให้ตายซะดีกว่า
"ก็พูดเหมือนปกติทุกอย่าง คืออย่างที่เคยบอกไป สิ่งที่เขาบอกว่ามันจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งสักที เพราะว่าไม่งั้น เขาติดคุกสังคมมา 4 ปี โดยที่จริงๆ แล้ว กระบวนการทางกฎหมายก็ยังไม่ถึงที่สุด แต่ว่าเขาก็ให้เกียรติกับคนดู กับใครหลายๆ คน ซึ่งเขาแคร์ความรู้สึกคนเหล่านั้น ว่าโอเคงั้นไม่ทำงานแล้วกัน หยุดหน้าที่การทำงานก่อน เพราะพี่มีคดีความ เราก็รู้สึกว่า เออ เริ่มต้นสักทีเถอะ เพราะว่าหลักจากตรงนี้ จะได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม"

"เรามีหลายสิ่งหลายอย่าง อยากไปเที่ยวกับแก ไปกินกับแก อยากพาแกทำอะไรหลายๆ อย่าง ที่นอกเหนือจากลูปชีวิตที่แกเคยทำมาตลอดเกือบ 30 ปี ที่ทำงานในวงการข่าวมา จะให้พูดร้อยครั้งพันครั้งก็พูดเหมือนเดิม เพราะมันเป็นเรื่องราวของความจริง คือพี่ยุทธไม่ได้เสียใจหรอกครับ ที่มีโน่นมีนี่ แต่พี่ยุทธเสียใจตรงที่ว่าเขาไม่ได้ดำเนินชีวิต ชีวิตของเขา การทำข่าวมันเหมือนกับชีวิตและลมหายใจของเขา เขาไม่ได้มาอยู่หน้าจอ ไม่ได้มาทำงานตรงนี้ เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยากได้ตังค์นะ เหมือนเขาชอบ เหมือนเรารักฟุตบอล จะให้เลิกเตะฟุตบอล ตัดขายอมให้ตายดีกว่า เหมือนกันกับการที่จะไม่ให้พี่ยุทธทำข่าว ให้เขาตายดีกว่า เขาก็บอกนะ มันคือชีวิตของเขา คือลมหายใจของเขา ก็นั่นแหละ เราก็เลยบอก โอเคงั้นเดี๋ยวเราค่อยเริ่มต้นกันใหม่"

ยกเป็นลูกผู้ชาย คนจริง เคารพและศรัทธา
"คนให้กำลังใจเขาเยอะ เราเชื่อว่าแกคือลูกผู้ชาย แกคือคนจริง คือกระแสสังคมอาจจะไปทางโน้นทางนี้ เราไม่รู้ แต่เรารู้ความจริง และรู้ตัวตนที่แท้จริงของพี่ชายของเรา เราเคารพและศรัทธาในผู้ชายคนนี้มาก เขาเป็นคนที่เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนจริง"

"เขาพยายามไม่ให้เราร้องไห้เวลาไปเจอไปหาเขา ตั้งแต่ครั้งแรกแล้วที่โดน 15 วัน ตอนนั้นเข้าไปเราก็พยายามไม่ร้องไห้ พยายามทักเป็นตลกไป เป็นไงกินข้าวยัง สบายดีนะ แกก็ขำก็ด่ากลับมา อย่างที่บอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชาย แล้วเราก็เคารพรักในความคิดของเขา อย่างที่เคยบอกไป แกพูดมาโดยตลอด เวลาอยู่กันสองคน จะคุยกันแบบไม่มีหน้าที่ คุยกันแบบพี่น้อง เราก็เออ...พี่ ไม่โน่นนี่เหรอ แกก็บอกว่านี่แผ่นดินพ่อ แผ่นดินแม่เขา แล้วมึงจะให้กูไปไหน แล้วไปเนี่ย กูก็ต้องหนีทั้งชีวิต เขาก็บอกกับเราว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดซะว่ากูไปเรียนโรงเรียนประจำ 6 ปี 24 เดือน เดี๋ยวกูมา กูอาจจะจบด็อกเตอร์ก็ได้ (หัวเราะ) ก็ยังตลกอยู่"

"เขาอยากให้ทุกคนเข็มแข็ง แต่จุดๆ หนึ่งสะกิดไม่ได้ ไม่งั้นแกจะปล่อยโฮ ก็คือเรื่องการทำงาน มันคือลมหายใจของแก เราแปลกใจมากนะ กับมนุษย์คนหนึ่งที่วงจรชีวิตแบบนี้ เราจะใช้ชีวิตอยู่กับพี่ยุทธพอสมควร คือทำงานตอนเช้า 8-9 โมง กินข้าว ถ้าไม่มีงานอะไรก็ขึ้นไปนอน ตอนบ่ายก็จะเตรียมข่าวทำเรื่องเด่นเย็นนี้ พอเสร็จก็จะไปกินข้าว จากนั้นก็ไปนั่งดูข่าว อ่านข่าว ดูบอล จนถึงเที่ยงคืนตีหนึ่ง แล้วก็นอน ตื่นตี 3 ครึ่ง มานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ลูปชีวิตเป็นแบบนี้ คือคนหรือเปล่าวะ คือเรารู้สึกว่าถ้าคนที่มันแกล้งทำ มันทำไม่ได้มาตลอดเกือบ 30 ปีหรอก เพราะฉะนั้นมันเป็นลมหายใจของแกจริงๆ"

"เรื่องอาการป่วยก็มี แต่แกไม่ได้ป่วยอะไรมาก แกน่าจะแข็งแรงขึ้นแหละ อาจจะได้ออกกำลังกาย เพราะก่อนหน้านี้ เคยชวนแกไปออกกำลังกาย ก็ไม่เอา บอกเมื่อย เหนื่อย ง่วง แต่พอไลน์ไปก็นั่งอ่านข่าว เราว่าแกคงแข็งแรงขึ้นครับ"

เชื่อออกมาทุกคนจะอ้าแขนรับ เพราะเป็นหนึ่งในตองอู วีรบุรุษลูกหนังในวงการข่าว
"ก็เชื่อว่าหลังจากออกมาจะกลับมาทำงานได้อีก ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าฝีมือของแกคือหนึ่งในตองอู แกคือวีรบุรุษลูกหนังในวงการข่าวหนึ่งคน ที่มีส่วนสำคัญ หนึ่งกับการช่วยชาวบ้าน เมื่อก่อนจะมีกระแสว่าเรื่องนี้ถ้าไม่ได้ความยุติธรรม ต้องถึงสรยุทธ มันเป็นกระแสแบบนี้มาพักหนึ่ง เราก็รู้สึกว่าเออ อย่างน้อยแกออกมาแล้วยังสร้างคุณประโยชน์ ให้กับแผ่นดินได้อีกเยอะแยะมากมาย"


















กำลังโหลดความคิดเห็น