xs
xsm
sm
md
lg

"มาดามมด" อย่าเรียกว่ารวย ขอให้เรียกอภิมหึมามหาเศรษฐีนี! ไม่แคร์งานน้อยลง ต่อไปจะเลิกแต่งตัวเวอร์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"มาดามมด" ปัดขาลง เฟดตัว เผยเล่นโซเชียลน้อยลง ให้เวลากับตัวเอง ไม่ได้อิ่มตัว แต่ปรับลุคให้ทำงานง่ายขึ้น ไม่ขอแต่งตัวแบกน้ำหนักเยอะๆ จนร่างพังอีก เผยถึงจะเป็นอภิมหึมามหาเศรษฐีนี แต่ยังรักงานในวงการ จ้างได้ ไม่ได้ป่วย อยากทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจ




หายหน้าหายตาไปจากหน้าจอพักใหญ่เลยสำหรับ "มาดามมด" หลังจากที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าอยากพักงานในวงการบันเทิงเพราะปัญหาสุขภาพที่มีสาเหตุมาจากเครื่องแต่งตัวที่เป็นคาแรคเตอร์ประจำตัว ล่าสุดเจ้าตัวก็รับเล่นคอนเสิร์ต 7 เซียน โดยเจ้าตัวเผยว่ายังรับงานอยู่เรื่อยๆ แต่ลดการเล่นโซเชียลลงจึงเหมือนว่าตนหายไป

"มันดูนานขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) ที่ไม่ค่อยเห็นเราทางทีวี เพราะว่าหลายๆ งานที่รับก็ไม่ใช่งานที่เห็นทางหน้าจอทีวี เช่น งานอีเวนต์ หรือว่างานทางโซเชียล งานออนไลน์ซะมากกว่า ก็เลยอาจจะเห็นเราทางจอแก้วน้อยลง แต่จริงๆ ก็ไม่ถึงขั้นหายไปขนาดนั้น แต่หลังๆ เราอาจจะไม่ค่อยเล่นโซเชียลด้วย ถึงแม้จะไม่มีผลงานสู่หน้าจอ ถ้าเรายังเล่นโซเชียลอยู่ คนก็จะรู้สึกว่าเรายังอยู่ใกล้กันอยู่ แต่ว่าช่วงหลังเราเล่นโซเชียลน้อยลง คนก็อาจจะคิดว่าเราหายไปไหน ก็มีคนถามถึงค่ะ"

เผยเล่นโซเชียลน้อยลงเพราะอยากมีเวลาให้กับตัวเอง
"มันทำให้เรามีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ถ้าใครเคยมีช่วงเวลาติดโซเชียลหรือว่าใช้ชีวิตอยู่กับโซเชียลมากๆ จะรู้ว่าเราใช้เวลากับมันไปเยอะ เรารู้สึกว่าอยากมีเวลามากขึ้นก็เลยเล่นน้อยลง ก็รู้สึกเบาขึ้นนะ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องคิดมากว่าเดี๋ยวเราจะต้องโพสต์ลงนะ"

"ที่พักไปมันจะมีช่วงหนึ่งที่ตอนนั้นมีข่าวว่ามดมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ข่าวนี้ค่อนข้างมีผลกระทบประมาณนึงแหละ เขาอาจจะรู้สึกว่าเรามีปัญหาสุขภาพหรือเปล่า คนก็เลยคิดว่าเราอาจจะอยากพัก จริงๆ ช่วงนั้น เราพักแป๊บนึงก็กลับมารับงาน แต่ว่าคนยังคิดว่าเราพักอยู่ มันก็เลยต่อเนื่องกันมา คนไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นแค่ช่วงที่เราพัก เราไม่ได้ไปรักษาตัวเหมือนที่ทุกคนกังวลว่าเราป่วยหรือเราเป็นอะไรหนัก"

"ถามว่ามีผลไหม ก็อาจจะมีบ้างเพราะว่าเคยมีลูกค้าที่เป็นลูกค้าเก่าๆ เขาโทร.มาถามว่า มดยังรับงานอยู่ไหม ไม่เห็นโพสต์นานแล้ว มีลูกค้าถามถึงบ้าง เรียกได้ว่ามีผลกระทบเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับมาก มดว่าอาชีพนี้สามารถมีช่วงพักได้นะ มันไม่จำเป็นที่เราจะต้องทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา"

“(ความคิดเห็นของคนอื่นเข้ามากระทบจิตใจของเราเลยตัดปัญหาไม่โพสต์โซเชียลเลย?) ถ้าเป็นเรื่องคนมาคอมเมนต์ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ หรือว่าคอมเมนต์ไม่ดีทั้งหลาย มันอาจจะเป็นที่ตัวเรา พอเราทำงานโซเชียลมานานๆ ต้องพบปะผู้คน แต่จริงๆ แล้วธรรมชาติของตัวเราไม่ใช่คนที่เฮฮาปาร์ตี้หรือว่าร่าเริงแจ่มใส คือเราไม่ใช่คนอย่างนั้นโดยพื้นฐาน ที่เราทำมันเป็นการแสดง เป็นคาแรคเตอร์ ไม่ใช่หลอกลวงประชาชนนะ แต่ว่าจริงๆ มันคือการแสดง พื้นฐานตัวเราไม่ใช่คนที่จะเข้าหาผู้คน ไม่ใช่คนสังคมจ๋าอยู่แล้ว พอทำงานมาถึงจุดหนึ่ง อายุงานมาถึงจุดหนึ่ง เราจะรู้สึกเองว่า เราอยากที่จะเฟดจากสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกวุ่นวายใจ"

แจงที่เฟดตัวออกจากวงการไม่เกี่ยวกับอยากแต่งตัวปกติบ้าง ไม่อยากแต่งตัวเยอะแล้ว
"เป็นไปได้ว่าเราโตขึ้น ย้อนกลับไปทำงานในวงการมานานมากแล้ว ไม่ใช่ว่าเราอยากจะเฟด เรารู้สึกแฮปปี้อยู่เพราะหลายงานที่เข้ามายังรู้สึกว่างานนี้อยากทำ ยังตื่นเต้นอยู่เลย ทุกงานที่รับปากว่าจะทำจะรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลย มันแค่เราโตขึ้น เราก็เลยอยากทำอะไรที่เป็นตัวเองมากขึ้น"

"(ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากแต่งตัวเยอะแล้ว แต่อยากแต่งตัวปกติออกสื่อบ้าง?) ไม่นะ ถ้าเป็นเราเลยเราจะไม่ออกสื่อด้วยสภาพนั้น ตัวตนของเราจริงๆ เป็นคนขี้อายมาก นี่ไม่ได้เล่นมุกนะ เป็นคนขี้อาย ขี้เขิน ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ถ้าจะให้แต่งเป็นชีวิตประจำวันเลยแล้วมาออกสื่อแบบนี้ คงไม่ทำ เราคงทำไม่ได้"

บอกหลังจากที่ได้พักผ่อนแล้ว อยากกลับมาทำงานที่ต่างจากที่เคยทำ คืออยากทำงานที่ให้แรงบันดาลใจคน
"มันใช้เวลาเหมือนกัน เพราะว่ามันค่อยๆ เริ่มจากน้อยลงๆ ถามว่าทุกวันนี้ยังโอเคไหมกับการที่จะต้องมาเล่นโซเชียล ก็โอเค แค่อยากลงอะไรที่อยากลง อาจจะเป็นงาน แต่คงไม่ใช่แบบคิดคอนเทนต์อะไรใหม่ๆ ขนาดนั้น ณ ช่วงเวลานี้ ช่วงนี้อยากทำอะไรที่ต่างไปจากเดิมบ้าง เช่น เป็นงานทางด้านการแสดง งานที่เราโชว์ความสามารถทางด้านอื่นๆ"

"สมัยก่อนหลายคนอาจจะไม่ทราบว่ามดเคยเป็นครูสอนมาก่อน ทุกวันนี้ยังคิดเลยว่าอยากไปให้ความรู้เด็ก ไม่ต้องเป็นความรู้เชิงวิชาการก็ได้ เป็นแบบแรงบันดาลใจก็ได้ นี่คือสิ่งที่อยากทำ ณ วันที่รู้สึกว่าโตขึ้นแล้ว อยากทำอาชีพที่ให้ความรู้หรือให้แรงบันดาลใจคนมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าเราโตมากขึ้นแล้ว"

พูดได้ไม่เต็มปากว่าอิ่มตัวกับวงการบันเทิงแล้ว ยังมีงานหลายอย่างที่อยากทำอยู่
"ถามว่าอิ่มตัวกับวงการรึเปล่า ยังพูดได้ไม่เต็มปากเพราะยังมีอีกหลายงานที่ยังไม่ได้ทำและยังอยากทำอยู่ จริงๆ บทบาทการแสดงมันมีอีกตั้งหลายบทบาท เพียงแต่คนอาจจะคิดว่าคาแรคเตอร์ของเราเป็นคาแรคเตอร์ยูนีกจัด มันอาจจะทำให้บทบาทการแสดงมันยากที่จะครีเอตขึ้นมาเพื่อคนที่มีคาแรคเตอร์จัด ทำให้คนคิดไปไม่ถึง ทำให้เรามีงานการแสดงน้อย แต่ตัวเรารู้สึกว่าอยากทำงานแสดงให้มันหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้ยึดติดกับเรื่องรูปลักษณ์ เรื่องลุคขนาดนั้น"

เล่าที่ปฎิเสธงานเพราะไม่เหมาะกับตน ทำใจรายได้หด ชั่งน้ำหนักระหว่างรายได้เยอะกับความสุขที่จะมี ปัดรวยแล้วเลยไม่ทำงาน ขอเรียกตัวเองว่าอภิมหึมามหาเศรษฐินี
"ปฏิเสธเพราะว่ามันอาจจะไม่ได้เหมาะกับเรา หรือรู้สึกว่าเราจะทำมันได้ไม่ดี ถามว่าสูญเสียรายได้ไปบ้างไหม ก็ต้องมีบ้าง ต้องชั่งน้ำหนักดูว่ามันโอเคไหมกับความสุขที่เราจะมี (อีกกระแสบอกว่าเรารวยแล้วก็เลยไม่ทำงานแล้ว?) ถ้ารวยก็ดีสิ เป็นคนที่เรียกได้ว่าเป็นอภิมหึมามหาเศรษฐินีอยู่แล้ว ใช้คำนี้ดีกว่า ไม่ใช้คำว่ารวย ดูจากการแต่งกายและหลายๆ อย่าง อภิมหึมามหาเศรษฐินี เราจะไม่ใช้คำว่ารวย"

โวสุขภาพตอนนี้แข็งแรงดี ทุกวันนี้ปรับลุคให้ทำงานง่ายคล่องตัวขึ้น ไม่ขอแต่งตัวแบกน้ำหนักเยอะๆ จนร่างกายพังอีกแล้ว
"จริงๆ คำถามนี้อยู่กับมดมานานมากเลย ต้องขอบคุณมากที่เป็นห่วง จะสังเกตว่าลุคของมดช่วงหลังมานี้ไม่ได้มีความหนักหนาสาหัส ใหญ่โตจนรู้สึกว่าใช้ชีวิตลำบาก จะใช้คำว่าป่วยก็อาจจะดูแรงเกินไป มันแค่รู้สึกว่าในยุคหนึ่ง เรามีลุคที่อลังการ แบกรับน้ำหนักเยอะๆ จนรู้สึกว่าร่างกายมันอยากพัก ลองนึกสภาพใครเคยใส่วิกทั้งวันก็จะรู้สึกว่าปวดหัวเลย แต่เราหนักขนาดนั้น มันก็มีอาการปวดหัวบ้าง เมื่อยล้าบ้าง มันไม่ใช่อาการป่วยนะคะ จนถึงวันนี้เราก็ปรับเปลี่ยนลุคไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าทำงานง่ายขึ้น คล่องขึ้น เรียกว่าตอนนี้สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากเลยค่ะ"

พ้อคนผิดหวังพอตนปรับลุคแต่งตัวเบาลง มองคนที่คิดเช่นนั้นคือคนที่ไม่ได้ชื่นชอบตนจริง
"มีบ้าง คนจะแซวว่า มาดามมดทำไมแต่งน้อยจัง ถ้าเขาชื่นชอบติดตามเราจริงๆ เขาน่าจะชอบใจสิ่งที่เราเป็น ถ้าเขาชอบลุคอย่างนั้นจริงๆ มดว่าเขาไม่ได้ชอบตัวตน เขาชอบที่ลุค มดอยากให้มองสิ่งที่เราทำมากกว่า"

"จริงๆ ก็รับงานเต็มที่มาตั้งนานแล้วนะ แต่คนอาจจะยังคิดว่าเราไม่สบาย อยากพัก ฝากเป็นช่องทางฝากบอกประชาชนทุกคน รวมถึงผู้จ้างงานด้วย ถึงแม้เราจะเป็นอภิมหึมามหาเศรษฐินี แต่ว่าเรายังรักงานในวงการนี้ อยากทำอะไรที่เรารออยู่ว่าวันหนึ่งเราจะได้ทำไหม ไม่ว่าจะบทบาทการแสดง หรือว่าการได้ให้ความรู้หรือแรงบันดาลใจกับผู้คน หวังว่าวันหนึ่งคงได้เห็นมาดามมดในลุคที่โตขึ้น ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกหรือความสวยงามหรืออลังการ"






กำลังโหลดความคิดเห็น