ไม่คุ้นแต่จะสู้ "แพนเค้ก" เคลียร์ทรูฯ รับบทแม่ ซีรีส์รีเมกที่คว้ารางวัลทุกประเทศ

"แพนเค้ก เขมนิจ" ยันไร้ปัญหาโผล่หน้าร่วมงานเจแอสแอล เล่นซีรีส์รีเมก เผยผ่านการคุยกับผู้ใหญ่แล้ว เป็นโปรเจกต์เพื่อสังคม เชื่อแฟนคลับไม่ตกใจต้องเล่นเป็นแม่ โอดขนาดตัวเองยังไม่คุ้นต้องเล่นเป็นแม่ กดดันเป็นซีรีส์ที่คว้ารางวัลจากทุกประเทศ

อยู่สังกัดทรูฯ แต่อยู่ดีๆ ก็มีรายชื่อ "แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์" โผล่มาร่วมงานเปิดกล้องซีรีส์ LINE TV Original "Mother...เรียกฉันว่าแม่" ณ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด (ลาดพร้าว 107) งานนี้เจ้าตัวก็ขอเคลียร์ว่าไม่มีปัญหากับต้นสังกัด พร้อมเปิดใจถึงกับการพลิกบทบาทมาเล่นเป็นแม่

"เรื่องนี้เรียกว่าเป็นซีรีส์เพื่อสังคมดีกว่านะคะ ที่มันจะสะท้อนมุมมองของแม่หลากหลายแบบ คือมันมีหลากหลายเหตุผล หลากหลายมุมมอง ที่มันจะสะท้อนออกมาให้เห็นในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่แพนว่าดีมากๆ ก็อยากให้ลองติดตามชมดู ว่าเป็นยังไงค่ะ"

"ถือว่าเป็นบทที่โตขึ้น เรียกว่าเป็นบทที่มีความท้าทายมากขึ้นดีกว่า ในด้านของอารมณ์ ในด้านของความเข้าใจ แล้วก็เข้าถึงในตัวของคาแรคเตอร์ตัวนี้ ก็ต้องทำการบ้านอยู่พอสมควร ว่าความรู้สึกของเขาเป็นอย่างไร ทำไมถึงมาเป็นแบบนี้ ก็มีความซับซ้อนในหลายๆ อย่าง เเพนว่าด้วยได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่ๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสร่วมงานกันเลย ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม"

ไม่คุ้นบทแม่
"ไม่คุ้นค่ะ (หัวเราะ) ถ้าเป็นแม่หมานี่โอเค แต่ก็แพนมองว่าอยู่ที่ความคิดเรามากกว่า ว่าถ้าเราคิดว่าการที่เรียกคำว่าแม่ของน้องคือเหตุผลอะไร หรือเรารักเขา อยากดูแลเขา จะปกป้องเขา เเพนว่ามันก็มีเหตุผลที่ทำให้เราเชื่อในคำๆ นี้ได้ แฟนคลับไม่ตกใจนะคะ ทุกวันนี้เเพนคิดว่าในคำว่าแม่ มันไม่ได้จำกัดอายุอยู่แล้ว มันก็มีมุมมองหลากหลายอย่างในเรื่องนี้ ก็น่าจะทำให้คนดูได้เข้าใจและได้อะไรดีๆ กลับไปจากเรื่องนี้"

"ที่บ้านมีเด็กก็ไม่คุ้นเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่น้องมากิคือเก่งมาก เป็นนักแสดงอาชีพจริงๆ มาถึงก็จำได้ทุกอย่างได้หมด พร้อมทำงานจริงๆ จนทำให้เราไม่รู้สึกเลยว่าน้องเป็นเด็ก เขาสามารถทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์จริงๆ ไม่บ่อยที่ได้มีโอกาสเล่นกับเด็ก อันนี้คือทั้งเรื่อง อยู่ด้วยกันตลอด และต้องพัฒนาความรู้สึกกันไปตลอด แพนคิดว่ามันน่าจะยากตรงนี้ที่เราต้องอยู่ด้วยกันและปรับตัวกัน"

"ถามว่าบทนี้ต้องพิเศษมาก เราถึงยอมมาเล่น ก็ได้รับเกียรติจากทางทีมด้วย ว่าอยากจะมีโอกาสได้เรามาร่วมงานกัน ซึ่งทางทีมก็ได้เข้าไปคุยกับผู้บริหารทรู ว่าอยากทำโปรเจกต์พิเศษที่จะจัดทำขึ้นมา เป็นซีรีส์สะท้อนสังคมที่มีคุณภาพ ก็คิดว่าน่าจะเป็นอะไรดีๆ"

ยันคุยกับผู้ใหญ่เรียบร้อย เป็นโปรเจกต์พิเศษ
"ใช่ค่ะ เรียบร้อยค่ะ เพราะเราก็เป็นโปรเจกต์พิเศษจริงๆ แล้วทางผู้บริหารเอง หรือทางเจเอสแอล เราก็ได้มีโอกาสร่วมงานกันมาโดยตลอด เป็นโปรเจกต์ดีๆ ซึ่งทางทรูเองก็โอเค แต่กับช่องอื่นยังร่วมงานไม่ได้ คือจริงๆ แพนได้ร่วมงานกับทีมกันมาตั้งแต่สามเณรปลูกปัญญาธรรม ก็เป็นการร่วมมือของเจเอสเเอลด้วย คือผู้บริหารทุกท่านก็น่ารัก รวมถึงทรูกับเจเอสเเอลก็เป็นเหมือนพาร์ตเนอร์ที่น่ารักกันอยู่แล้ว คราวนี้มันเป็นโปรเจกต์ที่ดีจริงๆ ด้วยเรื่อง แล้วเขาทำรีเมกมาแล้วหลายครั้งหลายประเทศ ได้รับผลตอบรับที่ดี เราก็เลยถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเรา ที่จะได้มาลองบทบาทใหม่ๆ ดู"

กดดันเป็นซีรีส์ที่คว้ารางวัลทุกประเทศ
"นี่คือกดดัน ตรงนี้กดดันแล้ว (หัวเราะ) ค่ะ ก็จะพยายาม เพราะทุกคนก็ถือว่าทำการบ้านกันอย่างหนักหน่วง ผู้กำกับทั้งสองท่านก็เต็มที่ คิดว่าในเวอร์ชั่นแบบของเราก็จะพยายามให้ดีที่สุด เรื่องนี้เครียดจริงๆ ค่ะ คือแบบว่าเป็นซีนอารมณ์จริงๆ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รักน้องมาก แต่ในเรื่องก็มีหลากหลายความรู้สึกที่จะพัฒนาต่อไป มันก็ใช้ความเข้าใจเยอะพอสมควร"

โอดซุ่มซ่ามเตะเก้าอี้ ขาบวมระบม
"ซุ่มซ่ามค่ะ แพนเดินเตะเก้าอี้ค่ะ (หัวเราะ) เมื่อคืนนี้เอง แล้วมันบวมและระบมอยู่จนใส่รองเท้าเข้าไปไม่ได้ วันนี้เลยต้องใส่รองเท้ากึ่งๆ สลิปเปอร์นิดหน่อย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการไปเดินแบบเลยค่ะ ทำตัวเองเลยค่ะ ชนเก้าที่เป็นไม้ตรงมุมพอดี มันก็เลยแบบระบบอยู่ ค่อนข้างแรงค่ะ เพราะใจเรามุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียวเลย เท้าเลยไปชนกับหัวมุมเก้าอี้ (ทำหน้าปวด) พูดไม่ออกเลย ถามว่าจะกระทบงานไหม เเพนคิดว่ามันน่าจะหายภายใน 1-2 วันนี้ คิดว่าถ้าหายระบมก็คงจะน่าโอเค"

"มันคงช้ำในอยู่ค่ะ (หัวเราะ) น่าจะช้ำอยู่ข้างใน เดี๋ยวคิดว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้น จริงๆ ควรประคบน้ำแข็ง แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทันไหม เพราะผ่านมาทั้งคืนแล้ว เดี๋ยวคิดว่าพรุ่งนี้อาจจะดีขึ้น ก็มีงานที่ต้องใส่ส้นสูงนะคะ แต่ไม่เป็นไรอาจจะเป็นส้นเตี้ยได้ แต่ตอนนี้ส้นเตี้ยก็ยังยัดไม่เข้าเลย แต่เดี๋ยวอีกแป๊บหนึ่งน่าจะโอเคค่ะ"