การนอกใจเมีย, คบชู้ หรือแย่งผัวชาวบ้าน เป็นความผิดร้ายแรงในวงการบันเทิงของทุกประเทศ และยิ่งหนักหนาสาหัสมาก ๆ ในสังคมญี่ปุ่น โดยเฉพาะกับฝ่ายหญิงที่ถูกตราหาว่า "ขโมยสามีคนอื่น"
หญิงสาวที่ดูน่ารักสดใสในมิวสิควิดีโอของวงร็อกชื่อดัง Back Number กลายเป็นขวัญใจของหนุ่ม ๆ ทันทีที่เธอเริ่มปรากฏตัวในวงการบันเทิงของประเทศญี่ปุ่น เธอยังโด่งดังไปไกลถึงประเทศเกาหลีใต้ เมื่อได้รับเล่นซีรีส์แฟนตาซีฟอร์มใหญ่ “Arthdal Chronicles” ร่วมกับดาราอีกหลาย ๆ คนของที่นั่น
แต่สุดท้ายอนาคตในวงการของสาววัย 24 ปี คาราตะ เอริกะ ที่กำลังมาดี ๆ กลับต้องพังลงต่อหน้า เมื่อมีข่าวจากสื่อในประเทศ ว่าเธอได้แอบมีความสัมพันธ์กับดาราหนุ่ม มาซาฮิโร่ ฮิงาชิเดะ มานานถึง 3 ปี ทั้ง ๆ ที่เขามีดาราสาวชื่อดัง วาตานาเบ้ อันเนะ เป็นภรรยาอยู่แล้ว
เรื่องยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีกเมื่อข่าวบอกว่าฝ่ายชายมีลูกอยู่แล้วถึง 3 คน และมีข่าวว่าเขากับาดาราสาวรุ่งน้องมีความสัมพันธ์กับตั้งแต่ภรรยายังตั้งท้องลูกคนที่ 3 แล้ว
จะขอปรับปรุงตัว
หลังมีข่าวออกไป คาราตะ เอริกะ ได้ออกแถลงการณ์เพื่อยอมรับผิด และขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นทันที เธอเรียกการกระทำของตัวเองว่าเป็นพฤติกรรมที่ทั้ง "โง่ และขาดวุฒิภาวะ" และบอกว่าตัวเองพร้อมที่จะก้มหน้ารับผลของมัน ส่วนเอเยนซีก็บอกว่าจะ "ชี้นำให้เธอไม่ทำเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก"
อย่างไงก็ตามผลกระทบจากข่าวดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ สินค้า และบริษัทหลายแห่งถอนตัวจากการจ้างเธอเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่เท่านั้นชาวญี่ปุ่นยังออกมาแสดงจุดยืนต่อต้าน เอริกะ และประกาศว่าจะขอ "บอยค็อต" ทั้งผลงาน และสถานีโทรทัศน์ที่ว่าจ้างเธอไปแสดง สุดท้าย เธอถึงกับต้องประกาศขอถอนตัวจากซีรีส์ที่ร่วมแสดง และกำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ทันที
อนาคตหลังจากนี้ของ คาราตะ เอริกะ คงเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะพฤติกรรมของเธอถือว่าได้ว่าเป็นหนึ่งใน "เรื่องต้องห้าม" สำหรับวงการบันเทิงญี่ปุ่น โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่ต้องแบกรับโทษทัณฑ์อันรุนแรงจากวงการ และสังคม เมื่อถูกตราหน้าว่า "แย่งผัวชาวบ้าน"
หายหน้าจากจอทีวี
ดาราสาวที่ใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า "เบ็คกี้" เคยเป็นคนดังที่ปรากฏตัวในโทรทัศน์ทุกช่องของญี่ปุ่น แต่เมื่อปี 2016 เธอกลับต้องหายหน้าหายจากวงการบันเทิงไปนานถึง 3 เดือน เพราะข้อกล่าวหาว่าแอบไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว
ในตอนนั้น เบ็คกี้ ได้กล่าวขอโทษในพฤติกรรมของตัวเอง แม้จะไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ทุกคนก็ทราบกันดีว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับข่าวฉาวที่ว่าเธอแอบไปมีความสัมพันธ์กับศิลปินหนุ่ม อีนอน คาวาทานิ
โดยตอนนั้นคนที่ถูกด่ามากที่สุดก็คือฝ่ายชายอย่าง อีนอน คาวาทานิ แต่กลายเป็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบอะไรกับอาชีพของเขามากนัก
จากชายชู้กลายเป็นสามี
ดาราสาวอีกคนที่ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องการนอกใจก็คืออดีตสมาชิก Morning Museum อย่าง ยางุจิ มาริ กรณีของเธอ ยางุจิ มีสามีอยู่แล้วคือ นักแสดงหนุ่มที่ชื่อว่า นากามูระ มาซายะ จนมีทายาทด้วยกันด้วย แต่สุดท้าย นากามูระ กลับต้องมาพบว่าภรรยาของตัวเองมีพฤติกรรมนอกใจแบบต่อหน้าต่อตากันเลยทีเดียว
ข่าวบอกว่า นากามูระ กลับมาบ้าน และว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น เหมือนมีคนอื่นเข้ามาบ้าน ทั้งที่นอนที่ดูยุ่งเหยิง ส่วนภรรยาก็ดูผิดปกติ สุดท้ายถึงได้เจอนายแบบหนุ่ม อูเอดะ เคนโซ ชายชู้ของภรรยาตัวเองในสภาพเปลือยกายแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า
สุดท้าย ยางุจิ มาริ กับ นากามูระ มาซายะ ที่แต่งงานกันในปี 2011 ได้ตัดสินใจเซ็นใบหย่าในปี 2013 ก่อนจะแต่งงานกับ อูเอดะ เคนโซ เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ก็ไม่สามารถกลับไปมีชื่อเสียงแบบเดิมได้อีกเลย
อนาคตมืดมนรออยู่!! สำหรับดาราหญิงจอมฉาว
ในสังคมญี่ปุ่นเมื่อเกิดเรื่องการ "นอกใจขึ้น" ผู้หญิงมักจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงเสมอ หลายคนหายหน้าจากจอโทรทัศน์ไปนานเป็นปี ๆ
หรือบางครั้งก็ถึงขั้นต้องถอนตัวจากวงการไปเลย เหมือนกับพิธีกรสาว ยามาโมโต้ โมนะ ที่ต้องออกจากวงการบันเทิงไปเลย หลังก่อเรื่อง "แย่งผัวชาวบ้าน" ถึง 2 ครั้ง 2 ครา
ยามาโมโต้ โมนะ เป็นสาวลูกครึ่งญ๊่ปุ่น-อังกฤษ เธอเคยเคยถูกแฉกว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีสามีแล้ว 2 ครั้งคือครั้งแรกกับนักการเมืองดัง โกชิ โฮโซโน่ ที่ทำให้เธอต้องพักงาน ก่อนที่ โมนะ จะทำพฤติกรรมแบบนี้อีกกับนักเบสบอล โทโมฮิโระ นิโอกะ แห่งทีม Yomiuri Giants จนสุดท้ายต้องออกจากวงการบันเทิงไปเลย
เทียบกับรุ่นพี่ ๆ คาราตะ เอริกะ อาจจะยังมีโอกาสในวงการบันเทิงอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าภาพพจน์หญิงสาวใส ๆ ผู้บริสุทธิ์อ่อนหวานที่สร้างเอาไว้หลายปีนั้นพังทลายแทบไม่เหลือซาก