"เบนซ์ พรชิตา" มั่นใจไม่มีใครแทนที่ "สรยุทธ" คนข่าวคนสำคัญของวงการข่าว เผยที่ผ่านมาอีกฝ่ายบ่นเครียด ห่วงทุกคน สวนตนก็ห่วงอยู่ในคุกจะโอเคหรือเปล่า พ้อเทศกาลตรุษจีนเลี่ยงเผากระดาษไม่ได้ แต่จะเผาให้น้อยที่สุด โอดลูกทั้งสองคนได้รับผลกระทบจากฝุ่น อยากให้หายไปเร็วๆ
หลังจากที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 จนรัฐบาลประกาศให้โรงเรียนหยุดเรียน 1 วัน เพื่อลดปริมาณยานพาหนะบนท้องถนน และลดผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก-เยาวชน หลังกรมอุตุฯ ระบุว่า อากาศยังปิดแบบนี้อีก 1-2 วัน ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอคุณแม่ลูกสองอย่าง "เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา" ถึงประเด็นดังกล่าว เจ้าตัวก็เล่าว่าตอนนี้ลูกสาวทั้งสองคนของตนป่วย แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะฝุ่นรึเปล่า ซึ่งตนเองยังรู้สึกแสบคอ แสบจมูกเลย
"เด็กป่วยทั้งคู่เลย ก็ไม่รู้ว่ามันมาจากฝุ่นรึเปล่า แต่ตอนนี้ลูกป่วยแต่ไม่มีไข้ เริ่มจากจามก่อน เจ็บคอ อาจจะไม่ได้มาจากฝุ่นอย่างเดียวหรอก ร่างกายเขาอาจจะไม่โอเคด้วยมั้ง เราเองก็เป็น บ้านเราอยู่ตรงอนุสาวรีย์ ก็ฝุ่นแน่นอยู่"
"บ้านเราก็ตื่นตัวเหมือนกันนะ พอเขาป่วยเราก็ให้เขาหยุดเรียน อย่างผู้ใหญ่เราเองเดินออกจากบ้านยังแสบคอ แสบจมูกเลย เราก็คิดว่าถ้าเป็นเด็กเขาอาจจะรู้สึกแต่เขาอาจจะบอกไม่ถูกว่าเขารู้สึกยังไง ถ้ามีอะไรมาทำให้มันหายไปได้เร็วๆ ก็ดีนะ ตอนนี้เครื่องฟอกอากาศก็เต็มบ้านเลย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ออกไปข้างนอก"
"ถ้าบางทีอาจจะต้องพาลูกไปโรงเรียนพิเศษ มันจะเป็นสถานที่ปิดหน่อยก็โอเค มันยากที่จะหลีกเลี่ยงในการที่จะต้องไปทำงาน ใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับเด็กเล็กให้หยุดเรียนก็จริง แต่ถ้าหยุดนานมันก็ไม่โอเคไหม มันก็ต้องไปเรียน แล้วมันปลายเหตุมากๆ เลย หยุดอยู่บ้านมันไม่ได้ทำให้ฝุ่นหาย ก็อาจจะต้องรบกวนทุกคนให้ช่วยกัน ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงได้บ้างเนอะ ต้องรบกวนคนอื่น ถ้าเราหยุดอยู่บ้านโอเคเราอาจจะไม่ได้พ่นมลพิษเพิ่มก็อาจจะช่วยได้นิดหน่อย"
เผยเทศกาลตรุษจีนหลีกเลี่ยงไม่ได้กับประเพณีเผากระดาษ แต่ปีนี้เลือกเผาให้น้อยที่สุด
"วันนี้ยังคุยกับแม่อยู่เลยเพราะแม่เป็นคนจีน แม่จะต้องเผาอะไรสักอย่างแน่ๆ เลยบอกแม่ว่าแม่เผาทองไปอย่างเดียวพอแล้วให้นางไปซื้อกันเอาเอง อยากจะซื้ออะไรก็เอาเงินไปซื้อกัน ไม่ต้องเผาอะไรกันเยอะแยะ ช่วยๆ กันลดมลภาวะ เผาไปก็คุยไป อากงอาม่าคงจะเข้าใจนะ คือมันอาจจะต้องเผา พูดกันตรงๆ มันก็เป็นประเพณี แต่อาจจะเผาน้อยหน่อย"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อความในอินสตาแกรมที่ตนส่งกำลังใจถึง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" เชื่อไม่มีใครแทนที่อีกฝ่ายได้ ติดคุกออกมาคนก็ยังจะรอชมผลงาน
"ก็ส่งกำลังใจไปทางไอจี เบนซ์เชื่อว่าพี่เขาก็รู้แหละว่าทุกคนคอยเป็นกำลังใจให้ ตั้งแต่รอบแรกแล้วเราก็เคยไปเยี่ยมแกอยู่ คุยกันตัวแกเองก็เครียดถ้าต้องเข้าไปอยู่จริงๆ มันจะเป็นยังไง แต่สิ่งเดียวที่เรารู้สึกว่าแกมั่นคง คือแกพูดเลยว่าถ้าถึงเวลาตัดสินแล้วพี่ก็ทำตามนั้นเลย พี่ไม่หนีไปไหน เราก็รู้สึกว่าแกก็เป็นคนพูดจริงทำจริง ถึงเวลาที่แกจะต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ แกก็ยอมรับ ถึงเวลาที่จะต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ แกก็ยอมรับ สิ่งเดียวที่จะทำได้ก็คือเป็นกำลังใจให้ รอให้แกออกมาสร้างผลงานดีๆ ให้พวกเราได้ดูกันอีก"
"พูดตรงๆ ตอนนี้ยังไม่มีใครมาแทนที่แกได้ อาจจะมีคนอื่นที่เก่ง แต่พอพูดว่าพี่ยุทธมันยังไม่มีใครไปแทนแกตรงนั้นได้เลย เราเลยรู้สึกว่าทุกอย่างที่แกทำมาแกเต็มที่ ตั้งใจ ความเป็นตัวเขาเอง กล้าเสี่ยง กล้าอ่าน กล้าที่จะทำข่าว เรารู้สึกว่าแกเต็มที่กับทุกครั้ง ทุกวัน ทุกข่าวที่แกอ่านไม่ใช่มาถึงแล้วก็อ่านๆ ไป ข่าว 6 โมงเช้าแกมาตั้งแต่ตี 2-3 ต้องมาทำการบ้านทุกวัน"
"คนอื่นอาจจะมองว่าแค่มานั่งอ่านข่าวเอง ไม่ได้ยากอะไรเลย อ่านตามสคริปต์ไงแต่จริงๆ แล้วการเป็นนักข่าวมันยากกว่านั้นเยอะ จะอ่านอะไรมันต้องมีความรู้ ต้องทุ่มเทกับงานตรงนั้นค่อนข้างเยอะ มันไม่ได้ทำแค่นี้ เรารู้สึกได้ว่าแกทำจริงๆ แกลงพื้นที่ ไปช่วยจริงๆ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่เห็น แต่เราเชื่อว่าทุกคนเห็นความตั้งใจในการทำงานของแกว่าแกเป็นคนที่ทุ่มเทในการทำงานมากขนาดไหน"
"เราก็รู้สึกว่าเราเสียดายบุคคลที่สำคัญของวงการข่าว แต่เราเชื่อว่าวันนึงไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะได้เห็นแกกลับมาอ่านข่าวแน่นอน"
เล่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายมีความเครียดอยู่ตลอดแต่พยายามร่าเริงไม่ให้คนอื่นเครียดตาม
"ช่วงหลังไม่ได้เจอแกเลย เราไม่ได้เข้าไปอ่านช่าวก็เลยไม่มีโอกาสเจอ ปีที่แล้วได้ไปทานข้าวพูดคุยกัน เอาตรงๆความเครียดแกมีตลอด แต่แกก็พยายามเฮฮา แต่เราก็เห็นว่าแกก็ไม่ได้ร่าเริง แกจะเป็นห่วงพวกเรา ถึงพี่ไม่อยู่ก็ตั้งใจทำงานกันนะ แกก็มาให้กำลังใจน้องๆ เบนซ์รู้สึกว่านั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของแกนะ งานพวกเราก็ทำไป ไม่ต้องกังวลเป็นเพื่อนแก เราก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจส่งให้แก"
"เราก็ได้ผูกพันกับพี่ยุทธ กับเรื่องเล่าเช้านี้เยอะมาก ตั้งแต่แต่งงานแกก็ยกพื้นที่ให้ในรายการ มีลูกก็ไปประกาศตรงนั้น แกเหมือนพี่ชายที่น่ารักมากๆ ให้โอกาสเรา คอยบอกคอยสอน พอมันเป็นอย่างนี้เราเองก็เครียดเหมือนกัน เราก็รู้สึกว่าแกเข้าไปอยู่ในนั้นแกจะเป็นยังไง แกจะโอเคไหม แต่ก็เชื่อว่าด้วยความที่แกเป็นคนน่ารัก ช่วยเหลือชาวบ้าน เข้าไปทุกคนก็น่าจะรักแก"
พ้อติดคุก 6 ปีหลายคนอาจจะคิดว่าไม่นานเดี๋ยวก็ได้ออก แต่สำหรับคนที่อยู่ข้างในแค่ชั่วโมงเดียวก็นานแล้ว เชื่อทุกคนชื่นชมอีกฝ่ายที่ทำตามกระบวนการกฎหมาย
"6 ปี พูดตรงๆ เราอยู่ข้างนอกก็มองว่าแป๊บเดียวแต่คนอยู่ในนั้นวันนึงก็โคตรนานเลยนะ มันไม่เหมือนกันหรอก คนมีทุกข์ชั่วโมงนึงมันก็น๊านนาน คนมีสุขชั่วโมงนึงแค่แป๊บเดียวอยู่แล้ว คนอยู่ตรงนั้นก็เครียดแต่ก็เชื่อว่าแกก็คงคิดอะไรไว้ล่วงหน้าบ้างแล้วแหละว่าถ้าเข้าไปจะเป็นยังไง จะอยู่ได้ไหม สิ่งนึงที่มันมีมาก่อนหน้านั้นมันคือเรื่องของการทำใจ จะตัดสินยังไงแกก็รับอยู่แล้ว เชื่อว่าแกก็ทำใจมาในระดับนึง แต่ถ้าไม่ได้เข้าไปอยู่ในนั้นมันก็ดีอยู่นะ แต่ในเมื่อมันจะต้องก็ให้มันเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง ก็ถือว่าแกเป็นคนที่น่าชื่นชมนะ ที่ยอมรับไป เบนซ์ว่าอย่างน้อยคนก็ชื่นชมแกแหละว่าแกทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง"