ไม่อยากตายเลย "เจนนี่" เศร้า แม่หลุดเปรยหลังรู้เป็นมะเร็ง ชีวิตเพิ่งสบาย ได้จับเงินล้าน

ถึงแม้จะอายุแค่หลัก 2 แต่เรื่องสู้ชีวิต "เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ" หรือ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ก็ไม่เป็นรองใคร แต่กว่าจะมีวันนี้ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน ล่าสุดสาวเจนนี่ นักร้องแดนใต้ ได้เปิดใจพร้อมน้องสาว "ลิลลี่ เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว" สานฝันเปิดค่ายเพลงเป็นของตัวเอง พร้อมปั้นศิลปินแดนใต้ให้แต่งเพลงเอง ร้องเอง เล่นดนตรีเอง ไม่ต้องเซ็นสัญญา เพราะไม่อยากผูกมัด

เจนนี่ : "เรื่องเปิดค่ายเพลง เป็นที่สุดในชีวิตของหนูแล้วค่ะ เพราะถ้าเกิดวันนึงหนูไม่ได้อยู่เบื้องหน้าหนูก็ยังสามารถอยู่เบื้องหลัง และหนูก็มั่นใจว่าหนูจะสามารถสร้างศิลปินใต้ได้อีกหลายๆ คนเลย เหมือนที่หนูได้ทำกับน้องลิลลี่ค่ะ"

"ก็วางแผนว่าอยากจะมีศิลปินสัก 40-50 คนเลยค่ะ และเพลงก็จะไม่ซื้อจากข้างนอกเลย เราจะสอนให้น้องๆ ในค่ายแต่งเพลง สอนให้ลิลลี่แต่งเพลง เล่นดนตรีค่ะ ก็จะทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุดในแบบที่หนูไม่เหนื่อยมากค่ะ"

"ตอนนี้มีศิลปินแล้วสองคนเป็นผู้ชายค่ะ จากนครสวรรค์และจากชุมพร ตอนนี้ในภาคใต้ก็มีความดังขึ้นมาในระดับนึง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จกับน้องสองคนนี้อยู่ค่ะ ก็ยังไม่ต้องเซ็นสัญญาค่ะ หนูยังไม่อยากผูกมัดใคร เพราะว่าหนูก็ยังเป็นวัยรุ่น หนูก็ยังเอาแน่เอานอนกับตัวเองไม่ได้ (หัวเราะ) แต่สิ่งหนึ่งที่น้องๆ จะเข้ามาก็คือต้องมาด้วยใจ และต้องทำงานให้เยอะที่สุด คือเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เยอะที่สุด ถ้าวันนึงเขาอยากไปข้างนอกหรือจะไปทำอะไรด้วยตัวเอง เราก็โอเคค่ะ สบายมาก"

"วันที่ออดิชั่นก็มีคนมาสมัครเกือบพันคน แต่หนูเลือกมาสองคน คือเอาคนที่ไม่ได้เก่งอยู่แล้วค่ะ อยากได้คนที่พร้อมจะรับสิ่งที่เราให้ไปค่ะ ส่วนลิลลี่ต้องเป็นเบอร์แรก อันนี้ไปไหนไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ)"

ภูมิใจในตัวพี่สาว ฝันเป็นจริง
ลิลลี่ : "ก็ภูมิใจในตัวพี่ค่ะ เพราะแกฝันมานานแล้ว และพอวันนึงประสบความสำเร็จก็ประสบความสำเร็จหลายเรื่อง และจะเปิดค่ายใหม่อีกก็ดีใจค่ะ"

เจนนี่ : "เรื่องเงินเก็บลิลลี่น่าจะเยอะกว่าหนูแล้วมั้ง เพราะว่าของเขาแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพราะทำงานแล้วก็เก็บอย่างเดียว ก็คือหนูจะแบ่งให้เขาใช้ในส่วนที่เขาจำเป็นต้องใช้ แต่เงินของเขาจะอยู่ในบัญชีที่แยกไป สามารถเช็กได้ทั้งแม่ ทั้งน้องทุกอย่าง แต่ว่าหนูขอเป็นคนดูแล เพราะน้องยังเด็กเกินไป แต่ถ้าอยากได้อะไรก็บอกได้เลย หนูก็ตามใจทุกอย่างอยู่แล้ว"

โต้ลิลลี่มีเงินเก็บเป็นล้าน ปัดรวย 10 ล้าน
เจนนี่ : "เรื่องที่หลายคนตกใจว่ามีเงินเก็บเป็นล้าน อันนั้นเป็นคลิปที่จะตอบจริงหรือตอบโกหกก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องมาเปิดเผยเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็มีเงินเก็บอยู่ค่ะ คือในอายุของลิลลี่ก็สูงเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกันค่ะ เพราะว่าน้องอายุ 15 ปี คือเป็นเงินที่หาเองนะคะ ไม่ใช่เงินที่ขอคุณพ่อคุณแม่ ส่วนที่บอกว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านไม่จริงค่ะ (หัวเราะ)"

"ถามว่าเป็นเศรษฐีไหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ เพราะตอนนี้เราต้องเก็บให้เยอะที่สุด เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะดังอยู่หรือเปล่า ก็ต้องรีบโกยกัน ทำงานเยอะมาก"

ซื้อรถบีเอ็มให้ตัวเองเป็นของขวัญ ซื้ออัลพาร์ดให้แม่อีกคัน อยากให้แม่สบาย
เจนนี่ : "ล่าสุดซื้อรถด้วยค่ะ ก็ตามลำดับความจำเป็นการต้องใช้ค่ะ คือบีเอ็มอาจจะซื้อเป็นของขวัญรับปริญญาที่เราเรียนมาเกือบ 10 กว่าปีที่ทรหดมา ก็ซื้อให้ตัวเองให้รู้สึกหายเหนื่อย ส่วนรถอัลพาร์ดก็ซื้อให้คุณแม่เลย เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ว่าคุณแม่เป็นมะเร็ง หนูก็อยากให้แม่สบายที่สุดอยู่แล้วค่ะ"

"ตอนนี้คีโมเป็นรอบที่สองแล้วค่ะ แต่กว่าจะรู้ผลว่ารักษาดีขึ้นไหมก็ต้องรออีก 3-4 เดือน แต่ในส่วนของกำลังใจ พอเรามากรุงเทพฯ ทุกครั้งเราก็จะไปเยี่ยมแม่ทุกครั้งที่ทำได้ค่ะ ว่างไม่ได้เลยต้องไปเจอ แต่ถ้าไม่ได้เจอก็จะวิดีโอคอลวันนึงเป็นสิบๆ ครั้ง ให้แม่รู้สึกว่าเราอยู่ใกล้ๆ แม่ตลอด"

"ตอนแรกก็ช็อกค่ะ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตมาก็รู้อยู่แล้วว่าโรคมะเร็งเป็นอะไรที่หายยากและน่ากลัว แต่ตอนนี้หนูจะช็อกไม่ได้ ถ้าช็อกนานเดี๋ยวคุณแม่จะช็อกตาม ก็ต้องสร้างกำลังใจ แต่เรื่องที่หนักที่สุดสำหรับหนูก็คือการที่ไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีคุณแม่ เพราะเป็นอะไรที่เราไม่เคยเจอ แล้วจากที่หนูเหนื่อย หนูท้อ เจอเอฟซีด่า ก็จะมีแม่ปกป้อง แต่วันนี้เราต้องเป็นเกราะป้องกันลิลลี่อีกคนนึง ก็เหนื่อยกว่าเดิม แต่ก็สู้ค่ะ"

เผยชีวิตที่ต้องอดทน มีเงิน มีชื่อเสียง แต่นอนร้องไห้ทุกคืน
เจนนี่ : "ชีวิตครอบครัวก็ดาวน์ค่ะ ดาวน์มาก แต่คนนอกอาจจะมองว่าเราอยู่สบาย ทำงาน มีเงิน มีชื่อเสียง แต่จริงๆ ร้องไห้แทบทุกคืน แล้วลิลลี่เป็นเด็กที่ติดแม่มาก จะขึ้นเวทีก็ต้องไหว้แม่ กราบแม่ แต่ทุกวันนี้ก็ต้องเป็นหนูแทน เขาก็ต้องอดทนอีกระดับหนึ่ง"

"เจนนี่จะไม่เศร้าให้คุณแม่เห็นเลย ถ้าเรากำลังดาวน์ลงหรือเศร้าลง เราจะตัดคุณแม่ออกไปก่อนตอนนั้น แต่พอเราอารมณ์ดีขึ้นหรือมีงานเข้า มีงานใหม่ๆ ได้เล่นหนัง แม่เขาก็จะภูมิใจดีใจ"

"อาการคุณแม่รอบแรกแพ้ แต่รอบนี้ไม่แพ้ แต่จะเหนื่อยกว่าปกติ เพราะทำคีโม ก็รอดูอีก 4 เดือนว่าหายไหม ถ้าเกิดว่ารักษาด้านนี้ไม่หายก็ต้องเปลี่ยนการรักษา ก็จะทำทุกอย่างให้แม่หายให้ได้ค่ะ"

เพิ่งหลุดหนี้ ชีวิตเริ่มสบายได้สัมผัสเงินล้าน แต่ต้องมารับรู้ข่าวร้าย แม่บอกไม่อยากตายเลย
เจนนี่ : "ใช่ค่ะ คือวันแรกๆ ที่รู้ว่าแม่เป็นคือแม่บอกว่า แม่เพิ่งเป็นไท เพิ่งหลุดหนี้ปีนี้ เพิ่งจะสัมผัสเงินแสน เงินล้าน แม่ไม่อยากตายเลย หนูก็รู้สึกว่าถ้าแม่พูดอย่างนี้มันเศร้ามาก แต่เราก็พยายามบอกว่านี่เป็นแค่มะเร็ง ไม่เห็นน่าตกใจเลย หายได้ เราก็พยายามหาข่าวที่เขาบอกว่าหายมาเป็นเคสตัวอย่างให้คุณแม่ดู เพื่อให้แกมีกำลังใจค่ะ"

ลิลลี่ : "หนูก็ให้กำลังใจแม่ตลอด ก่อนขึ้นเวทีก็โทร.หา พอเสร็จก็โทร.หา ตื่น กินข้าวโทร.หาตลอดค่ะ"

เลือกได้ไม่อยากให้เป็นแบบนี้
เจนนี่ : "ใช่ค่ะ ถ้าต้องกลับไปเป็นแม่ค้าขายรองเท้าเหมือนเดิม แต่มีแม่อยู่ข้างๆ หรือแค่ไม่เป็นอะไร คือมันแลกกันไม่ได้กับคุณแม่จริงๆ ค่ะ ยังไงหนูก็อยากให้มีสามคนแม่ลูกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะมีได้ค่ะ"