"นุสบา" ย้อนวันวาน เล่าโมเมนต์วันเก่า นั่งตอบจดหมายแฟนทุกเสาร์-อาทิตย์ มีเยอะมากจนส่งไม่ทัน คุณแม่เปิดตัวเองอ่าน ทุกวันนี้ยังคงเก็บไว้ เพราะมีคุณค่าทางจิตใจ ถึงนึกเมื่อไหร่ก็มีความสุข ตั้งใจจะทำงานในวงการไปตลอด เพื่อตอบแทนแฟนคลับที่ยังติดตามอยู่เสมอ
เป็นหนึ่งในดารารุ่นใหญ่ ที่ยังคงมีผลงานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง สำหรับ "นุสบา ปุณณกันต์" ถึงแม้ตอนนี้จะมีอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่เพิ่มเข้ามา ในฐานะภริยาของรัฐมนตรีก็ตาม แต่เจ้าตัวก็ยังคงบริหารจัดการเวลา เพื่อมารับงานละคร ให้เหล่าบรรดาแฟนคลับได้ติดตามผลงานให้หายคิดถึงอยู่เสมอ วันนี้มีโอกาสได้มานั่งคุยกันแบบชิวๆ เจ้าตัวก็เล่าโมเมนต์ย้อนวันวาน ในยุคที่เทคโนโลยีไม่ได้ไฮเทคขนาดนี้ กับการตอบจดหมายสื่อสารกับแฟนๆ ที่จะส่งมาเล่าสารทุกข์สุขดิบ และขอกำลังใจในการสอบ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
"ก็สมัยก่อน ตั้งเข้าวงการตอนอายุประมาณ 18-19 ค่ะ ตอนนี้เทคโนโลยียังไม่มี ทุกคนก็เขียนจดหมาย ส่งจดหมาย จำได้ว่าบุรุษไปรษณีย์เขามาคุยกับคุณแม่ บอกว่าผมไม่ไหวจะมาส่งทุกวันแล้วนะครับ ขอเป็นอาทิตย์ละครั้ง เพราะมันเยอะมาก รวมแล้วมาทีเดียวดีกว่า เราก็ตกลงว่ามาทุกวันศุกร์ เพราะเสาร์-อาทิตย์เราหยุด จะได้มีเวลาอ่าน เวลาตอบ เขาก็จะมาส่งเป็นถุงใหญ่เลย ก็เป็นคุณแม่ตัด เราอ่าน แล้วก็อัดรูปใส่กลับไป บางคนก็จะใส่ซองกับแสตมป์มาให้ด้วย กลัวเราไม่ตอบกลับ น่ารักสมัยก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่เรียนหนังสือ ให้อวยพรที่ได้เรียน จะสอบ เป็นลักษณะนั้น อยากได้กำลังใจ ถามเคล็ดลับการเรียนต่างๆ"
ทุกวันนี้ยังเก็บไว้เหมือนเดิม เพราะเป็นคุณค่าทางจิตใจ
"ยังเก็บไว้เพราะมันเป็นคุณค่าทางใจ คนที่บ้านเคยถามนะ ว่าจะทิ้งดีไหม ปลวกขึ้นแล้ว บางอันตัวหนังสือลางไปหมดแล้ว บางอันคลี่ออกมาคือยุ่ยละลายแล้ว มันนานมาก เราเก็บอันที่มันยังอยู่ในสภาพที่ดี ทุกวันนี้ก็ยังเก็บไว้อยู่ เอามาอยู่ที่บ้าน ใส่ถุงใส่ซองเก็บไว้เหมือนเดิม"
บอกเป็นความคลาสสิคที่ดารารุ่นใหม่ อาจจะไม่เคยได้สัมผัส
"เรารู้สึกว่ามันคลาสสิคดี ลายมือของเรามันบอกตัวตน เขียนตัวเท่ากะละมัง แล้วเราก็ได้อ่านคนที่ส่งมามบางคนเขียนตัวหวัดมาก บางคนก็ตั้งใจคัดเหมือนคัดลายมือวิชาภาษาไทย แต่สมัยนี้ไม่มีแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดารารุ่นใหม่ๆ เขาคงไม่ได้รู้สึกเหมือนที่เราเคยรู้สึก ว่าการเขียนด้วยลายมือ เขาพยายามมากนะ บางคนสองหน้า เล่าเรื่องชีวิตทุกอย่าง เหมือนเราเป็นที่ปรึกษาได้ระบายออก เราก็ขำ แต่ก็ให้กำลังใจ บอกเขาสู้ๆไป"
แต่ละวันได้รับจดหมายเยอะมาก เยอะจนไม่มีที่เก็บ อ่านเสร็จต้องทิ้ง
"เยอะมาก บางอันอ่านเสร็จต้องทิ้งก็มี เพราะว่ารุ่นใหม่มาไม่มีที่เก็บแล้ว อันที่เก็บก็คือเป็นอันที่ส่งแล้วส่งอีก ไม่รู้กี่สิบรอบแล้ว จนเราแบบคนนี้เราเริ่มคุ้นเคยแล้ว เหมือนเป็นญาติ เก็บแล้วกัน แต่ก็เก็บแค่ใบเดียวนะ ที่เหลืออีกเยอะๆ ก็ไม่ได้เก็บ เก็บแต่อันที่อัปเดต"
"ยุคสมัยก่อนนักแสดงมีน้อย คนที่เข้าวงการใหม่ๆ เป็นนางเอกก็น้อยมาก นับคนได้ มีไม่เกิน 10 คนในรุ่นของเรา ที่เข้ามาพร้อมกัน แต่ถ้าที่เล่นละครช่วงนั้นด้วยกัน มีไม่ถึง 5 คน ก็เลยมีแฟนละครที่เยอะมากในช่วงสมัยก่อน สมัยก่อนเราเล่นละคร เรตติ้ง 30-40 นะ มันเป็นอะไรที่หาไม่ได้อีกแล้ว แล้วก็รู้สึกเหนียวแน่น ทุกวันนี้ยังมีหลายคน ที่โตมากับเรา มีครอบครัวไปแล้ว ไม่สามารถมาหาเราเหมือนน้องๆรุ่นนี้แล้ว เขาก็ได้แต่ดูกันอยู่ในบ้าน บางคนเล่นโซเชียลไม่เป็น ก็ไม่รู้จะติดต่อเรายังไง ก็ได้แต่ดูในข่าว หรือดูตามละคน มันก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย"
มีคิดถึงวันเก่าๆ ยังคงอยากมีผลงานอยู่ในวงการ เพราะความผูกพัน และคิดว่าแฟนคลับก็คงดีใจที่ยังได้เห็นตัวเองมีผลงานอยู่
"ก็คิดถึง มันมีอะไรหลายอย่าง แล้วรูปอีก มันสัมผัสได้ บางทีเขาส่งรูปเขามา แต่งตัวเหมือนเราบ้าง ทำผมแบบเราบ้าง ดูแล้วก็รู้สึกว่ามันคลาสสิคมากค่ะ สิ่งเหล่านี้มันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องเก็บไว้ เราต้องอยู่ในวงการนี้ เพราะอย่างน้อยมันเป็นสิ่งที่เราผูกพัน ไม่ใช่ว่าเบื่อก็ไม่อยากเล่น เลิก ออกจากวงการ เราคิดว่าสิ่งที่เขาให้เรา ตั้งแต่อดีตมาเกือบ 30 ปี เขาคงดีใจถ้าเห็นเราอยู่เรื่อยๆ อยู่ในละคร ในรายการ ในทีวี เหมือนกับพอเขาเห็นเรา เขาก็จะนึกถึงเขาในวัยเด็ก ในวันวานของเขา"
"แต่ตอนนี้ก็มีแฟนคลับรุ่นใหม่ ที่ติดตามในผลงานช่วยหลัง ซึ่งน้องๆก็ยังมีเรี่ยวแรงที่จะตื่นเช้ามาหา แล้วก็ไปเป็นกำลังใจให้ สลับกันไป กลุ่มนี้ว่าง กลุ่มนี้ไม่ว่าง ก็แตะมือกัน ส่วนรุ่นโตกว่านี้ก็เชียร์อยู่บ้านแล้วกัน อาจจะเลี้ยงหลานแล้ว หรือเลี้ยงลูกอยู่บ้าน (ยิ้ม)"