ใครจะไม่คิดว่าดีว่าเมืองไทยอย่าง “แก้ม วิชญาณี” เจ้าของซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “รักไปทำไม” ที่ได้ยังได้ “โอม ค็อกเทล” รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เหมือนเดิมนั้น จะขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะอยู่บนเวทีไหนเวทีนั้นจะต้องลุกเป็นไฟท่วมชนิดที่ว่าถ้าใครไม่พร้อมประสานเสียงกับเธอ ก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปได้เลย แต่งานนี้เจ้าตัวถึงกับออกปากเองว่าทุกวันนี้แม้ภายนอกทุกคนจะเห็นว่าเธอมั่นใจ แต่จริงๆ แล้วหลังเวทีเธอไม่มั่นใจอะไรเลยสักอย่าง เหตุเพราะเธอกดดันตัวเอง อยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ให้เหมาะสมกับคำว่า “เพอร์เฟกชั่นนิส”
“ถ้าเรารู้สึกว่าถ้าเรายังอยากทำตรงนี้ต่อไป เราก็จะทำเต็มที่ให้ดีที่สุดกับเส้นทางการเป็นนักร้อง คือถามว่ามีท้อไหม คือมันท้อได้ไม่นาน คือไม่ใช่ว่าเราจะท้อไม่ได้ ท้อได้นะ แต่ไม่ควรท้อนานเกินไป เราต้องเดินต่ออยู่ดี (ความท้อมันเกิดจากอะไร?) คือแก้มเป็นคนที่ทำงาน และเป็นคนกดดันตัวเอง ว่าจะทำได้ไม่เต็มที่ กลัวในสิ่งต่างๆ แม้คนอื่นจะบอกว่ามันดีแล้ว แต่เราเป็นพวกมืออาชีพที่ทุกอย่างต้องดี หมายถึงในเรื่องการทำงานนะ เราต้องถามทุกคนว่าโอเคแล้วหรือยัง คือมองบนเวทีเหมอนเราเป็นคนมั่นใจ แต่พออยู่หลังเวทีเราไม่ได้เป็นคนมั่นใจขนาดนั้น อย่างบนเวทีเราทำเต็มที่ แต่ก่อนขึ้นเวทีเราต้องการกำลังใจ”
“เพราะทุกวันนี้ที่มีแรงเราให้ทำงานได้ก็คือกำลังใจคนรอบข้างก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถขับเคลื่อนทำในสิ่งต่างๆ แต่ไม่ได้หลงไปกับสิ่งที่เขาชมเรานะ แต่แก้มขอเรียกว่าเป็นแรงซัมพอร์ตให้เรา ซึ่งบางทีมันก็ไม่ดีเพราะเราจะมาคอยแต่กำลังใจนั้น แต่เรามองว่ามันคือพลังบวก แก้มคิดว่ามันกำลังใจมากกว่าเป็นคำยกยอเรา แต่มันก็ไม่ได้เป็นทุกช่วงนะที่เราต้องการกำลังใจ แต่มันก็จะมีบางช่วงที่เรามั่นใจบ้าง มากขึ้นเพราะเราเป็นคนไม่มั่นใจตัวเอง ซึ่งถามว่ากลัวอะไร ก็กลัวว่าตัวเองเฟลนี่แหละ กลัวทำออกไปแล้วคนอื่นไม่โอเค”
แค่หนึ่งคอมเม้นท์ด้านลบทำให้ “แก้ม” นอยด์ไปทั้งวัน เผยเหตุกดดันตัวเอง เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุขกับเสียงเรา
“ถามว่าสิ่งที่เราทำออกไปคนส่วนใหญ่โอเค แต่ก็จะมีคนส่วนน้อยที่เขาอาจจะไม่โอเค มันก็มีบ้าง มันมีทั้งที่เราคิดไปเองและก็มีสิ่งที่คอมเม้นท์กลับมาด้วย และเราเป็นคนนอยด์ ไม่ค่อยชอบนิสัยตรงนี้ของตัวเองเหมือนกัน เพราะชอบไปขยายจุดน้อยๆ มุมลบๆ จนทำให้ตัวเองหมดกำลังใจ ประมาณว่าคนชมร้อยคอมเม้นท์แต่เราไปสนใจคอมเม้นท์เดียวในด้านลบ อะไรประมาณนี้”
“การที่เราตั้งเป้าว่าจะเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสก็เพราะว่าเราอยากให้ทุกคนโอเคกับเรา อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการได้ยินได้แก้มร้องเพลง มันเลยทำให้แก้มต้องกดดันตัวเองอยู่ตลอดเพื่อที่จะทำให้ผลงานออกมาให้ถูกใจคนฟังมากที่สุด”
วินัยคือสิ่งสำคัญ ถึงจะใช้คำว่า “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ปัดศัลยกรรม เพราะออกกำลังกายทุกวันเพื่อหน้าที่การงาน แฮปปี้ในที่สุดก็มีเอวเล็กที่สุดในชีวิตด้วยโพเอม
“คือที่ผ่านมาและจนถึงวันนี้เราดูแลตัวเองมากขึ้น ถามว่าเหนื่อยไหม มันก็เพื่อตัวเราเอง มันก็ไม่ได้เหนื่อยมาก เพราะมันจะเหนื่อยตอนออกกำลัง มันจะต้องใส่สุดพลัง มันต้องอยู่ในกฎตลอด แต่รู้สึกว่าที่ทำมันก็เพื่อตัวของเราเอง เราต้องทำต่อไป ให้มันคงที่ต่อไป (คงคอนเซ็ปท์ผู้หญิงอย่าหยุดสวย?) ใช่ค่ะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะจ๊ะ เพราะทุกวันนี้เราต้องดูแลไม่ให้ขาด ซึ่งที่สำคัญคือการพักผ่อนอย่าให้ขาด และดูแลตัวเอง คุมอาหารต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่าเรากินแต่ผลไม้ (ยิ้ม) แต่ลมือเราก็กินปกติเช้า กลางวัน เย็นจะเน้นแป้ง และโชคดีน้องแม่บ้านเขาก็ทำมาเป็นมือๆ ให้เลย หรือบางที่เราก็กินอาหารคลนไปเลย แต่ก็ไม่ใช่ทุกช่วงนะ ใครจะมากินคลีนได้ตลอด ซึ่งถามว่าชอบกินไหม ก็ชอบนะ แต่อาจจะไม่ตลอดหรอก”
“ซึ่งมันก็เหนื่อยตรงที่ต้องมีวินัยนี่แหละ แต่ก็ไม่เป็นไร แรกๆ มันก็เหนื่อย เพราะต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ หมายถึงว่ามันจะมีช่วงที่เราทำได้เป๊ะ แต่ถ้าเราต้องทำงานทุกวัน เราก็ไม่สามารถไปออกกำลังได้ตอนเช้า อาจจะต้องเสียวินัยไปบ้าง เพราะอย่างกินตามคอร์ส ถ้าเราไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย เช้ามาเราก็จะกินขนมปังโฮมวีทกับน้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เป็นลมนะ (หัวเราะ) กินเสร็จแล้วก็ไปออกกำลังกาย และตอนเที่ยงเราก็กินข้าวกล้อง เมนูก็เปลี่ยนไปไม่ผัดด้วยน้ำมันพืช ใช้น้ำมันรำข้าวผัดแทน และในระหว่างวันเราก็จะมีผลไม้กิน ไม่ถึงกลับไม่กินอะไรเลยนะ ไม่มี เพราะก็มีการกินชาบูเกิดขึ้น (หัวเราะ) เราเคร่งแต่ไม่ครัดมาก”
“เราเลือกออกกำลังกายมากกว่าการเพิ่งศัลยกรรม เพราะถ้าเรามีแรงออกกำลังกายอยู่ เราก็จะทำ แต่คนที่เพิ่งศัลยกรรมเขาก็ไม่ผิดนะ ไม่มีใครผิดหรอกถ้าจะทำให้ตัวเองดูดี แต่ที่เราเลือกออกกำลังกายก็เพื่อสุขภาพของเราด้วย และมันสนุกด้วย มันมีกิจกรรมให้เราทำ คือถ้าเราไปให้คุณหมอทำ แป๊บเดียวมันเสร็จแต่มันต้องเสียเงินเยอะด้วย (ยิ้ม) มันต้องมีวินัยให้ตัวเองมากๆ เพราะว่าเราเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ เราต้องดูแลตัวเอง เพื่อที่จะให้สุขภาพโอเค ให้ร้องเพลงได้ มีแรงในการออกเสียง ไม่ใช่ได้แค่รูปร่างอย่างเดียว”
“คือในวันที่ได้เป็นผู้หญิงของโพเอมคือต้องขอบคุณชุดที่ช่วยเรา รัดคอเซ็ทด้วย ซึ่งเป็นทรงของโพเอมเขาด้วยและโชคดีที่สามารถรัดร่างเราได้ (ยิ้ม) แก้มว่าแบรนด์เขาอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าใครๆ ก็สามารใส่โพเอมได้ ไม่จำเป็นต้องตัวเล็กมาก ซึ่งพอได้ใส่ชุดนี้แล้วก็จะเป็นทรงของแต่ละคน และตัวเรารู้สึกแฮปปี้อยู่แล้วเนอะว่าได้ใส่โพเอม ย้อนกลับวันที่เขาติดต่อมาให้เราใส่ เรารู้สึกว่าเราจะมีอก เอว สะโพก และคิดว่าตัวเราจะรัดเอวได้เท่าไร และพี่ที่ใส่คอเซ็ทให้คือรัดจนสุด เอวเล็กมาก เรารู้สึกว่าถ้าฉันอยากเอวเล็ก ฉันต้องอยู่ให้ได้ในชุดนี้ (หัวเราะ) แต่ไม่ถึงกับอึดอัดมันคืออยู่กับชุดนั้นๆ ด้วย เขาดึงเอาที่เราไหวด้วย”
“เราภูมิใจในความสำเร็จของเราทั้งงานและความดูแลตัวเองจนมีวันนี้ เพราะเราทำทุกวันให้เต็มที่ แม้ว่าบางทีหรือบางวันมันอาจจะไม่ดีที่สุดก็ตามแต่เราทำเต็มที่ให้ดีที่สุด ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องยังไง แต่อยากทำทุกวันให้มันดีที่สุดก็พอ (แล้วตอนนี้รูปร่างโอเคยัง?) ยังๆ ต้องลงกว่านี้อีก หมายถึงดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีกว่านี้”