“รัฐบาลสอดแนมประชาชน เพื่อต้องการให้ประเทศและประชาชนปลอดภัย แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว คุณคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่าง ความมั่นคงกับความเป็นส่วนตัว”
นั่นคือคำถามที่ “ฟ้าใส - ปวีณสุดา ดรูอิ้น” เจ้าของตำแหน่งมิส ยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2019 ต้องแสดงทัศนคติเพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาในรอบ 5 คนสุดท้าย เพื่อช่วงชิงมงกุฎมิส ยูนิเวิร์ส ปีล่าสุด ซึ่งจัดขึ้นทีเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา
และด้วยคำตอบของฟ้าใสที่ว่า
“ฉันเชื่อว่าทุก ๆ ประเทศนั้น รัฐบาลจะมีมาตรการหรือนโยบายที่จะรักษาความปลอดภัยของพวกเรา และฉันก็ยังเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยนี้ไม่ควรข้ามเส้นของความเป็นส่วนตัว เพราะว่าเราทุกคนเองมีสิทธิ์ที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราเอง อย่างไรก็ตามความมั่นคงนั้นก็จำเป็นและสำคัญ ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นว่า การที่เราทุกคนจะสามารถอยู่ในสังคมที่ดีขึ้นได้นั้น รัฐบาลควรจะพิจารณาเรื่องของขอบเขตของความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงให้พอเหมาะพอดีเพื่อความสงบสุขของสังคม”
คำตอบดังกล่าว ถูกมองว่าเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สาวงามจากเมืองไทย ชวดมงกุฎระดับโลกครั้งนี้
โดยเพจดังอย่าง “อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก” ระบุว่า
“เอาจริงๆ การเรียบเรียงคำตอบของฟ้าใสมันดีมาก สละสลวยและสวยงามมากนะครับแต่ทัศนคติยังขาดความเป็นสากลอยู่ ด้วยอเมริกาและประชาคมโลกให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากซึ่งความเป็นส่วนตัวจะโดนก้าวละเมิดไม่ได้มันไม่ใช่ความคิดที่สุดโต่งนะครับ ผัวเมียกันยังห้ามขอดูหรือแอบหยิบมือถือกันไปดูเลย สิ่งที่ฟ้าใสตอบมันแสดงถึงทัศนคติแบบไทยๆ ที่ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่”
ขณะที่ ดร.เดนนี่ รอย ที่ปรึกษาอาวุโสประจำ East-West ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ กลับมองเห็นว่าคำตอบดังกล่าวถือเหมาะสมแล้ว เพราะคำถามให้เลือกระหว่าง ความเป็นส่วนตัว กับ ความปลอดภัย เป็นประเด็นที่ยากจะตอบ เพราะถ้าระบุชี้ชัดลงไปข้างใดข้างหนี่ง อาจส่งผลให้เจ้าของคำตอบมีปัญหาในประเทศของตัวเอง โดยมองว่าคำถามที่เกี่ยวกับการเมือง ถือเป็นคำถามที่ไม่เหมาะมาถามบนเวทีนางงาม
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า
..... คำถามที่ประเทศไทยได้รับนั้น มักเป็นคำถามเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งทำให้นางงามตอบได้ยาก.....
ปีแล้วปีเล่าที่สาวงามจากเมืองไทย ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว
ย้อนรอยตั้งแต่ปีที่ “น้ำตาล - ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ที่ผ่านเข้าไปถึงรอบ 6 คนสุดท้าย ถัดจากปีของ “แนท - อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” ที่มาไกลได้สุดทางแค่รอบ 10 คนสุดท้าย กับคำถามที่ว่า
“ผู้นำระดับโลก ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน หรืออดีต ที่คุณชื่นชมคือใคร ? และเหตุผลว่าทำไม?”
ถัดมาในปีของ “มารีญา พูลเลิศลาภ” ก็ต้องเจอกับคำถามที่ว่า
"อะไรคือความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญที่สุดในยุคของคุณ เพราะอะไร"
แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าว คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ !!!
แต่เป็นความจงใจที่จะเขียนสคริปท์ให้สาวงามของไทยต้องเจอกับคำถามเหล่านี้
เหตุที่เป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะนับตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐประหารในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งแล้ว หากว่าการเมืองของไทย ก็ยังหนีไม่พ้นการถูกเพ่งเล็งว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากทหาร และประชาชนถูกแทรกแซงจากทุกช่องทางอยู่ดี
และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ เวทีมิส ยูนิเวิร์ส เป็นเวทีประกวดระดับสากล ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะถูกโยงใยว่า มีเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
การจำเพาะเจาะจงให้สาวงามจากไทยแลนด์ เจอกับคำถามสุดหินครั้งแล้วครั้งเล่านั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่า อาจจะแฝงนัยว่ามีเจตนาที่จะบล็อกไม่ให้มงกุฎระดับโลก ถูกสวมอยู่บนศีรษะของสาวไทย !!!???
เพราะไทยอาจจะไม่ได้มีผลประโยชน์ระหว่างชาติอันใด ที่จะเอื้อให้กับสหรัฐอเมริกา เท่ากับฟิลิปปินส์กับแอฟริกาใต้
นั่นก็อาจจะเป็นเหตุปัจจัยหลักที่ทำให้เวทีมิส ยูนิเวิร์สในรอบ 4 ปีหลัง จะเป็นการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันระหว่าง 2 ประเทศดังกล่าว (ยกเว้นปี 2016 ที่ "อีริส มิตเตอร์นาร์" ตัวแทนสาวงามจากฝรั่งเศส เป็นผู้คว้าตำแหน่งนี้ไป)
โดยในปี 2015 "เปีย อลองโซ วัวร์ตซบัค" ตัวแทนสาวงามจากฟิลิปปินส์เชื้อสายเยอรมัน เป็นผู้คว้ามงกุฎไปครอบ ท่ามกลางดรามาระดับโลก เพราะในเสี้ยววินาทีก่อนหน้านั้น พิธีกรประกาศว่า ตำแหน่งมิส ยูนิเวิร์ส เป็นของ "เอเรียดนา อาเรวาโล" ตัวแทนสาวงามจากโคลอมเบีย
ปี 2017 มงกุฎมิส ยูนิเวิร์ส ตกเป็นของ "เดมิเลจห์ เนลปีเตอร์ส" เป็นสาวงามจากประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นมงที่ สองนับจากปี 1978
ปี 2018 มงกุฎมิส ยูนิเวิร์ส ก็เวียนกลับมาเป็นของ สาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์ อย่าง "แคทรีโอนา เกรย์" ส่วนแอฟริกาใต้ แชมป์เก่าได้อันดับที่ 2
จนในปีล่าสุด ก็วกกลับมาที่ "โซซิบินิ ทันซี" สาวงามจากแอฟริกาใต้อีกครั้ง
พูดง่ายๆ ว่าต่อให้ฟ้าใส แสดงทัศนคติต่อคำถามได้ดีงาม ถูกใจคณะกรรมการมากกว่านี้ขนาดไหน !!??? ก็ไมได้หมายความว่า จะสามารถคว้ามงที่สามมาฝากสาวไทยได้
ตราบใดที่เบื้องหลังความงาม ยังมีผลประโยชน์ทางการเมืองเคลือบแฝงอยู่ !!!
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 14-20 ธันวาคม 2562
