แฟนนางงามกว่า 500 คนแห่ต้อนรับ "ฟ้าใส ปวีณสุดา" กลับบ้านเนืองแน่น เจ้าตัวแย้มย้อนฟังคำตอบของตัวเอง มั่นใจทำได้ดีที่สุดแล้ว ไม่รู้ "บิ๊กตู่" ชอบคำตอบแบบนี้ ภูมิใจติดท็อป 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 ไม่ผิดหวังชวดมงฯ โวอย่างน้อยเป็นหนึ่งเดียวในเอเชีย รับถูกเพื่อนนางงามไม่คุยด้วย หลังถูกเลือกจากสปอนเซอร์ให้เป็นตัวอย่างแต่งหน้า ฝากถึงรุ่นต่อไป "เธอต้องสตรอง"
บรรยากาศ ณ อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 10 เนืองแน่นไปด้วยแฟนๆ นางงามที่รวมตัวกันกว่า 500 ชีวิต มารอรับขวัญใจชาวไทยอีกคนอย่าง “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2016 กลับเมืองไทย หลังจากที่ประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ซึ่่งจัดขึ้น ณ เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา โดย ฟ้าใส เข้ารอบลึก TOP5 แม้จะชวดมงฯ แต่ก็ยังได้ใจแฟนๆ ที่ต่างก็เห็นในความพยายามและทุ่มเท
ซึ่งหลังจากที่ฟ้าใสลงจากเครื่องบินในเวลา 15.10 น. ทันทีที่ก้าวเข้าสู่บริเวณเวทีที่จัดไว้เพื่อต้อนรับ เสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ก็ดังกระหึ่ม ทำเอาเจ้าตัวหายจากอาการเหน็ดเหนื่อย ยิ้มลืมหุบกันเลยทีเดียว โดยหลังจากที่กล่าวทักทายแฟนนางงามที่มารอต้อนรับ สาวฟ้าใสยังเอ่ยปากขอโทษที่ทำให้คนไทยผิดหวัง ไม่สามารถคว้ามงกุฎมาครองได้ แต่ก็ยืนยันว่าทำดี่สุุดแล้ว
โดยในวันนี้คุณแม่ของเหล่านางงามอย่าง “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” ในฐานะ Head Master ของ Expert team หรือกลุ่มพี่เลี้ยงนางงาม ที่คอยเทรนฟ้าใสมาตั้งแต่ต้น ก็มาคอยต้อนรับด้วยเช่นกัน หลังจากนั้น ฟ้าใสจึงได้ให้สัมภาษณ์กับกองทัพสื่อมวลชน
"ภูมิใจมากๆ เลยค่ะ ท็อป 5 มิสยูนิเวิร์ส 2019 ตอนนั้นคือถ้าได้เข้าก็ดีใจค่ะ แต่ถ้าไม่ได้เข้าก็ภูมิใจอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าตอนนั้นมีตัวเก็งอยู่เยอะเหมือนกัน และการตอบคำถามแต่ละคนก็ตอบได้ดีมาก ก็อยู่ที่คณะกรรมการจะชอบคำตอบแบบไหนมากกว่า"
"ถามว่าเข้ารอบลึกๆ กดดันไหม ณ ตอนนั้นพอรอบ 20 แล้วเข้ารอบ 10 และตัวเต็งหลายๆ คนเริ่มหลุดไป ก็เริ่มหวั่นใจเหมือนกันนะคะ เพราะหนูเข้ารอบ 10 คนไปในคนที่ 9 ก็คิดว่าขอให้เข้าไปได้เรื่อยๆ (หัวเราะ) อย่างน้อยพอได้เข้าไปรอบ 5 คนก็ดีใจมากๆ ค่ะ เพราะว่าเป็นหนึ่งเดียวในเอเชียด้วย"
"ไม่ได้ไปต่อก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะหนูรู้สึกว่าหนูทำเต็มที่ทุกวันและทุกก้าวแล้ว แต่ถ้าหนูไม่เต็มที่หนูก็จะผิดหวังว่าทำไมวันนั้นฉันไม่ทำให้ดีกว่านี้ แต่หนูว่าวันนั้นหนูทำเต็มที่มากๆ แล้วหนูก็ภูมิใจมากๆ ค่ะ"
ตอบคำถามได้ดีที่สุดแล้ว
"ส่วนเรื่องคำถาม เอาตรงๆ สำหรับหนูหลายๆ คำถามหนูคิดว่าง่าย ซึ่งถ้าหนูได้คำถามอื่นๆ หนูก็สามารถตอบได้เลยในระดับนึงเหมือนกัน แต่ในเมื่อเราได้คำถามนี้มา เราก็ต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะตอบคำถามนี้ให้ดีที่สุด สำหรับหนูก็ย้อนกลับไปฟังตัวเอง หนูก็เชื่อว่าตอนนั้นหนูก็ตอบได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วค่ะ"
ตกใจกับคำถาม เพราะเซนซิทีฟ แต่เลือกตรงกลางดีกว่า
"ก็ค่อนข้างตกใจนะคะ เพราะมันค่อนข้างเซนซิทีฟมากๆ และหนูก็ยืนยันเหมือนเดิมว่ามันไม่มีทางที่จะ 100% หรือรู้สึกกลัวในบ้านของเรา หรือกลัวในความปลอดภัย หรือกลัวที่จะไม่มีความส่วนตัวเลย สำหรับหนูก็เลยยืนยันที่เดิมค่ะว่ามันควรจะมีจุดกลางที่จะที่จะพบกันได้"
"ถามว่าเราตั้งใจจะตอบแบบนั้นจริงๆ หรือใจก็อยากเลือกแบบใดแบบหนึ่ง ถ้าเป็นพี่อยากจะเลือกแบบไหนล่ะคะ ระหว่างความเป็นส่วนตัวกับความปลอดภัย (ยิ้ม) คือเป็นหนูก็เลือกตรงกลางดีกว่า เพราะหนูก็เข้าใจว่าความปลอดภัย ณ ปัจจุบันมันก็มีโลกเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และ ณ ปัจจุบันคือมีกล้องวงจรปิด ซึ่งถ้าเกิดหลายๆ คนไม่มีจุดนี้มันอาจจะมีอะไรที่เพิ่มขึ้นมาก็ได้ หนูก็คิดว่ามันน่าจะมีจุดกลางที่มันสามารถพบกันได้ มันก็จะทำให้เรารู้สึกปลอดภัย มันก็ต้องมีความส่วนตัวด้วยเหมือนกัน"
กังวลเรื่องตามากกว่า เจ็บถึงขนาดลืมตาไม่ได้ น้ำตาไหลออกมา
"สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับหนูก็คงจะเป็นความกังวลเรื่องตามากกว่า เพราะไม่เคยคิดว่ามันจะเจ็บขนาดนั้นถึงขั้นตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วลืมตาไม่ได้ เพราะมันเซนซิทีฟกับไฟมากๆ อีกวันนึงนึกว่าจะหายดี แต่พอลืมตาแล้วน้ำตาไหลออกมาเอง วันนั้นก็คือวันที่ปิดตาค่ะ แต่ทางกองเขาก็เข้าใจ เพราะเราบอกตั้งแต่ก่อนที่จะมาแล้วว่าเรามีปัญหาเรื่องตา อาการก็แย่ถึงขนาดน้ำตาไหล ก็โชดดีที่เราได้พักวันนึงก่อนที่จะเป็นวันจริง ก็เลยอาการดีขึ้นเยอะค่ะ"
"ถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ต้องเล่าให้ฟังว่าช่วงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตอนนั้นมิถุนายน ก็เพิ่งกลับมาจากพัทยา ช่วงเก็บตัวเขาให้ใส่คอนแทคเลนส์ใส ซึ่งหนูเป็นคนที่มีปัญหากับคอนแทคเลนส์ใสมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และช่วงนั้นนอนน้อยด้วย กิจกรรมเยอะด้วย และใส่คอนแทคเลนส์ตลอด ก็เลยทำให้ตาแห้ง กลายเป็นว่าเราถอดคอนแทคเลนส์ไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอช่วยถอดออก"
"และหลังจากนั้นกระจกตาก็เลยถลอกมาตั้งแต่ตอนนั้น เราก็พยายามรักษา แต่กลายเป็นว่าเหมือนรักษาไม่ถูกทาง แล้วพอไปหาหมอหลายๆ คนเขาก็แนะนำว่าทำไมไม่ทำเลเซอร์ล่ะ ซึ่งมันแตกต่างจากเลสิกเนื่องจากเลสิกจะต้องทำให้แผลถลอกหายก่อน และช่วงทำเลเซอร์นั้นหมอก็เลยแนะนำว่าในเมื่อเจ็บตัวแล้วก็ปรับสายตาไปเลย เราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องคอนแทคเลนส์อีก ซึ่งตอนนั้นก็ตั้งใจว่าจะทำวันที่ 8 พ.ย. แต่เนื่องจากว่าวันที่ 19 ต.ค. เขาประกาศมาว่าจะประกวดแล้วนะ แล้วเลเซอร์ชนิดนี้ต้องใช้เวลา 10 วัน และพักผ่อน 7 วันห้ามออกกำลังกาย ห้ามแต่งหน้า มันก็เลยขึ้นอยู่กับว่าหนูจะเลือกตาหรือเลือกที่จะเตรียมตัวเพื่อจะไปมิสยูนิเวิร์ส"
"ถามว่ามีผลกับหนูไหม พี่คิดว่ามันมีผลไหมคะกับวันที่หนูโชว์บนเวที และด้วยคอนแทคเลนส์ข้างเดียวค่ะ จากนั้นหนูก็ใส่ข้างเดียวตลอด เพราะข้างขวาใส่ไม่ได้เลย"
รับตรงๆ เพื่อนนางงามไม่คุยด้วย หลังถูกเลือกจากสปอนเซอร์ออกไปเป็นตัวอย่างแต่งหน้า อึดอัด แต่ไม่มีผลกับการประกวด สปอนเซอร์เลือกคนที่มีฟอลโลเวอร์เยอะที่สุด
"ถามตรงๆ ก็ตอบตรงๆ นะคะ หนูไม่เคยรู้สึกเลย จนกระทั่งวันที่ช่างแต่งหน้าสกินแคร์เขาก็เรียกหาว่าไทยแลนด์อยู่ไหน ห้องก็เงียบสนิท ทุกคนก็หันมามอง หนูก็เลยรู้สึกตอนนั้นเลย รู้สึกว่าทำไมเจาะจงไทยแลนด์ อันนี้หนูก็รู้สึกอึดอัดว่าทำไมเจาะจงหนู แต่ก็ต้องเข้าใจว่าคือคนเล่าให้ฟังนะคะว่าหนูมีฟอลโลเวอร์มากที่สุด เขาก็เลยอยากจะขายผลิตภัณฑ์ของเขา ก็ไม่ได้เจาะจงไทยแลนด์โดยเฉพาะ แต่เจาะจงนางงามที่มีฟอลโลเวอร์มากที่สุดค่ะ"
"การตอบรับจากเพื่อนนางงามในช่วงวันนั้นอาจจะมีนิดนึงที่ไม่อยากจะคุยด้วย แต่เพื่อนที่สนิทอย่างญี่ปุ่น ลาว เมียนมา สวีเดนเขาก็เหมือนเดิม เขามาเขาก็อยากได้มิตรภาพที่ดีและประสบการณ์ที่ดี เขาก็ทำเต็มที่ของเขา และรู้ว่าไม่ใช่สปอนเซอร์ที่เป็นคนตัดสินใจว่าใครจะชนะ เพราะจะเป็นคณะกรรมการมากกว่า ถามว่าไม่มีใครแกล้งเราใช่ไหม ไม่มี เท่าที่หนูรู้นะคะ (หัวเราะ)"
ไม่ค่อยได้คุยมิสแอฟริกาใต้ ชมอีกฝ่ายสมมงฯ ตอบคำถามได้ดี
"ไม่ค่อยได้คุยกันมากค่ะ เพราะตอนทำกิจกรรมเราแยกกลุ่มกัน ก็เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุบกับเขามากเท่าไหร่ แต่ก็ยินดีนะคะ เพราะเขาตอบคำถามได้ดีมากจริงๆ ค่ะ"
มีโอกาสอยากทำงานในวงการ
"ถ้ามีโอกาสก็อยากจะรับนะคะ (หัวเราะ) ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางผู้ใหญ่จะเอ็นดูหนูและให้งานยังไงบ้างค่ะ ถามว่าชอบทางด้านไหนละครหรือนางแบบ ก็ถ้ามีโอกาสก็อยากทำหมดนะคะ แต่ว่าใจจริงที่ชอบตั้งแต่เด็กๆ เลยคือการพากย์เสียง"
ภูมิใจกับการทำหน้าที่ของตัวเอง พร้อมแชร์ประสบการณ์ให้น้องๆ ในรุ่นต่อไป
"ภูมิใจมากค่ะ และหนูก็เชื่อว่ารุ่นน้องที่จะมาประกวดในอนาคตเขาก็ต้องการคนที่มีประสบการณ์ที่จะช่วยแนะนำ ซึ่งหนูก็พร้อมที่จะเป็นคนนั้นที่จะช่วยแชร์ประสบการณ์ และถ้าช่วยได้ก็จะเต็มที่ค่ะ (เข้าอยู่ในทีม expert ด้วยเลยไหม?) อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับทีม tpn แต่ว่าหนูอยากให้แม่เกด (ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม) อยู่ในทีม expert เหมือนเดิมนะคะ เพราะว่าแม่เกดช่วยได้เยอะมากๆ"
ฝากถึงน้องๆ เธอต้องสตรอง
"เธอต้องสตรองมากๆ พูดได้คำเดียวคือสตรองมาก ถ้าอันนี้ไม่ใช่ฝันของเธอจริงๆ ก็คงไม่ไหว อันนี้พูดจริงๆ เลย แต่ถ้าเป็นฝันของคุณเชื่อเลยว่าน้องๆ จะเต็มที่มากๆ และจะทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาตัวเอง เพราะว่าไม่มีใครที่รู้จุดด้อยของเรามากกว่าตัวเองแล้ว"
"พอคนจับจ้องก็ไม่มีความกดดันจากแฟนๆ ค่ะ กลายเป็นว่ามาจากตัวเรามากกว่า เพราะเราก็อยากจะทำให้ดีที่สุด เพราะเราก็หวังไว้มาก แต่ในความกดดันเราก็ต้องมีความพอดีเหมือนกัน เพราะส่วนตัวหนูเวลากดดันจะอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ต้องมีการผ่อนคลาย ร้องเพลง เต้นบ้าง"
เข้าใจคนที่ผิดหวัง แต่ได้ท็อป 5 หนึ่งเดียวในเอเชียภูมิใจที่สุดแล้ว
"จะบอกว่าหนูก็เข้าใจ เพราะหนูก็เคยรู้สึกอย่างเช่นปีพี่มารีญา (มารีญา พูลเลิศลาภ) หนูเองก็รู้สึกว่ากว่าจะมูฟออนได้ก็สักพักนึง เพราะคาดหวังไว้มาก แต่หนูก็จะบอกว่าท็อป 5 เลยนะคะจาก 90 ประเทศ และเป็นหนึ่งเดียวในเอเชียที่ไปยืนอยู่ท็อป 5 สำหนับหนูคือภูมิใจมากแล้ว และเชื่อว่าตัวแทนประเทศไทยในอนาคตก็จะไปได้ไกลยิ่งขึ้น เพราะว่ามี tpn และทีม expert อยู่ ก็เป็นกำลังใจให้รุ่นน้องด้วยนะคะ และขอบคุณทุกคนจริงๆ นะคะที่คอยรัก คอยเชียร์ ซัปพอร์ตฟ้าใสมาตลอด"
ดีใจ "บิ๊กตู่" ชอบคำตอบ
"จริงเหรอคะ พอดียังไม่มีโอกาสอ่านข่าวเลย แต่ก็ดีใจที่ท่านนายกฯ ชอบการตอบคำถามของหนู หนูก็ดีใจมากๆ ที่ได้ฟีดแบ็กเชิงบวก (หัวเราะ)"
ลุยสานต่อโครงการเกี่ยวกับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่
"ทำต่อค่ะ จริงๆ ก่อนไปประกวดมิสยูนิเวิร์สฟ้าใสตั้งใจจะทำโครงการเกี่ยวกับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ แต่ด้วยเวลากระชั้นชิด ก็เลยต้องมูฟออกไปก่อน แต่พอกลับมาแล้วก็ตั้งใจไว้ว่าจะทำโครงการนั้นต่อค่ะ และอีกหลากหลายโครงการก็ฝากติดตามด้วยนะคะ"
ยอมรับงงดรามาชุดประจำชาติ จากมาเลเซียเป็นฟิลิปปินส์
"อันนี้พูดตรงๆ หนูก็งงเหมือนกัน เพราะในการโหวตเขาก็ไม่ประกาศ มิสคอนตินอลลิตี้ที่เพื่อนๆ โหวตกันเขาก็ไม่ประกาศ อาจจะประกาศภายหลังก็ได้ อันนี้หนูไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เท่าที่ได้ยินมาก็คือมาเลเซียที่ขึ้นมาเหมือนเป็นทีมงานที่เลือกว่านี่คือชุดประจำชาติดีเด่นที่เขาชอบในใจ แต่จริงๆ แล้วจากการโหวตออนไลน์ ก็คือฟิลิปปินส์เป็นคนชนะ แต่อาจจะเป็นติดท็อป 20 ด้วยและอาจจะมีเวลาที่จะเตรียมตัวเปลี่ยนชุดน้อยด้วย เขาก็เลยให้คนที่่ทีมงานเขาเลือกขึ้นมาแทน แต่ไม่รู้ว่าบอกมาเลเซียหรือเปล่า เพราะหนูไม่ได้อยู่ข้างหลัง หนูคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ"