"ฝน ฮอร์โมน" เปิดใจโกรธเพจกุข่าวเป็นเมียน้อย คบคนมีเมีย เจ็บตัวแล้วยังเจ็บใจ ยันคบฝ่ายชายตั้งแต่ต้นปี แต่รู้จักกันกว่า 2 ปีแล้ว เรียกแฟนได้ รออีกฝ่ายเดินได้ จะเดินหน้าฟ้องพร้อมกัน เตรียมสืบหาชื่อนามสกุลคนคอมเมนต์ เล็งเชือดด้วย ลั่นไม่รับคำขอโทษ จะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง ไม่ใช่ดาราคนแรกที่เจอแบบนี้
หลังจากที่ "ฝน ฮอร์โมน" ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล ประสบอุบัติเหตุรถหรูเฟอร์รารี่ลื่นชนแบริเออร์กลางเกาะถนนศรีนครินทร์ ขณะที่ผู้ขับรถคือ "นายสราวุธ เสรีธรณกุล" ไฮโซเจ้าของแบรนด์รังนก ได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีเพจดังโพสต์ข้อความระบุว่าสาวฝนคบคนมีเมียแล้ว ทำให้ฝนออกมาโพสต์ชี้แจง โดยยืนยันว่าจะไม่รับคำขอโทษจากเพจที่กุข่าว แต่จะฟ้องให้เป็นคดีตัวอย่าง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอตัวฝน ซึ่งออกอีเวนต์เป็นครั้งแรกหลังอุบัติเหตุในงาน Jaspal x Megan Hess สยามพารากอน โดยเจ้าตัวเผยนาทีเฉียดตาย โดยยืนยันว่าไม่ได้ดื่ม และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเร็วมากแค่ 1 วินาทีเท่านั้น
"หนูเอ็กซเรย์แล้ว ทำอัลตร้าซาวด์ ก็คือไม่ได้หัก ไม่ได้แตก ไม่ได้ผ่าตัดอะไร แต่ปวดหมอนรองกระดูก ก็ทานยาตามอาการ ไม่ต้องค้างหรือแอดมิด แต่คืนแรกอยู่รพ. เพราะมันชนแรง หมอกลัวว่าอาการทางสมองหรือเปล่า กระทบกระเทือน เลยขอดูอาการประมาณ 15 ชม. ก็โอเค ไม่เป็นไร กลับบ้านได้"
"ตอนเกิดอุบัติเหตุ ทั้งคนขับทั้งหนูรู้ตัวร้อยเปอร์เซ็นต์ คือขับมาทางก่อสร้างแล้วก็ลื่นแบบ 1 วินาที รถไม่ได้ปาดซ้ายปาดขวา เหมือนแบริเออร์เป็นตัวหยุดเลย มันก็เลยดูแรง"
ขำๆ ไม่ต้องไปโมฯ หน้าใหม่ที่เกาหลี เพราะเซฟตี้ดี
"ตอนนั้นตกใจว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่ถามว่าจำได้ไหม จำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เพราะเราเป็นคนติดต่อโทรศัพท์หาญาติ ติดต่อคุณแม่ด้วย ไม่ได้สลบ ไม่ได้น็อกทั้งคู่ ส่วนรถที่สภาพพังยับ ตอนแรกเราไม่คิดว่ารถจะหนักขนาดนี้ เราลงรถมาแล้วตกใจว่ามันหนักมากเลย ก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็เลยถามทางเฟอร์รารี่ เขาก็อธิบายว่าพอเป็นรถอย่างนี้ พอชนปุ๊บเครื่องข้างหน้าจะตกลงพื้น ถ้าเป็นรถบางรุ่นมันจะอัดเข้าตัว แล้วพวงมาลัยมันยกขึ้น เป็นระบบเซฟตี้ของเรา กระจกก็เป็นกระจกนิรภัย มันเลยไม่เข้าหน้า ก็เลยไม่ต้องไปเกาหลี (หัวเราะ)"
ยันบริเวณดังกล่าวหลุมบ่อเยอะ ซิ่งเร็วไม่ได้อยู่แล้ว
"เรื่องความเร็ว ไม่ได้ขับเร็วมาก เพราะถนนแถวนั้นหลุมบ่อเยอะ ซิ่งไม่ได้อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่มีอะไรลดแรงกระแทก เพราะเราไม่ได้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา มันหยุดภายใน 1 วิ เหมือนช่องนั้นเป็นทางเข้าออกรถก่อสร้าง มันเลยโดนขอบปูนแล้วหยุดเลย มันก็เลยดูแรง ตอนนั้นมันปุ๊บเลย เหมือนทีเดียวเลย 1 วิ ไม่ทันได้ตกใจเลย ผู้ชายก็ขาหักค่ะ กระดูกแขนร้าว ต้องใส่เหล็กที่ขา เราไม่ได้ดื่มอะไรเลยค่ะ"
ไม่ทันคิดเรื่องมีพระดี
"ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ หนูคิดแค่ว่าจะเอาตัวเองไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ก็เลยไม่ทันคิดเรื่องอื่นเลย ถามว่ากลัวการขับรถไหม หนูก็ยังขับรถไปทำงานอยู่เลยค่ะ แต่ก็ขับขี่แบบปลอดภัยค่ะ"
รับโกรธเพจกุข่าวเป็นเมียน้อย คบคนมีเมีย เจ็บตัวแล้วยังเจ็บใจ
"เรื่องฟ้องเพจ ตอนนั้นหนูยังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย ตื่นมา อ้าว ข่าวเต็มเลย ข่าวอุบัติเหตุเข้าใจว่าเป็นการรายงานตามปกติ แต่อยู่ดีๆ ก็มีเพจนี้ เหมือนเป็นเพจเมาท์ดารา เพื่อนเป็นคนส่งมาให้ดู เพื่อนบอกว่ารู้สึกไม่โอเคเลย ทั้งคอมเมนต์ทั้งเนื้อหา หนูก็เลยเข้าไปอ่าน"
"พูดจริงๆ ก็โกรธค่ะ เพราะว่ามันไม่เป็นความจริงเลย แล้วมันไม่ได้เสียหายแค่หนู หรือพี่กี้ที่เป็นคนขับ แต่เสียหายไปถึงพี่ชายเขา (เฮียโต้ง) และภรรยาของพี่ชายเขา พอเห็นรูปฝั่งคนที่รู้จักเฮียโต้งก็โทร.มา แล้วฝั่งที่รู้จักกับภรรยาเฮียโต้งก็โทร.มา กลายเป็นว่าทุกคนวุ่นวายกันไปหมด นอกจากอุบัติเหตุใครกันแน่ที่เจ็บ และยังมีข่าวมือที่สามออกมาด้วย ตกใจกันหลายฝ่ายมาก" โกรธมากค่ะ เพราะส่วนตัวรู้สึกอะไรถูกอะไรควร มันก็ควรเป็นไปตามนั้น คนกำลังเจ็บอยู่ เจ็บตัวแล้วตื่นมายังเจ็บใจด้วย"
เปิดใจคบกัน เรียกแฟนได้ ยืนยันไม่เคยแต่งงาน มีเมีย
"ก็คบกันอยู่ค่ะ จะเรียกว่าเป็นแฟนกันก็ได้ จริงๆ เวลาไปไหนมาไหนหนูไม่ได้ปิด แค่ไม่ได้ลงรูปคู่ตั้งแต่ไหนแต่ไร นอกนี้ก็เลยเห็นรูปหมดเลย ส่วนเพจนั้นหนูไม่รู้จักกับแอดมินเป็นการส่วนตัว เลยให้ทนายเป็นคนรวบรวมเอกสาร เพื่อดำเนินคดี ยืนยันว่าพี่กี้ไม่เคยแต่งงานค่ะ และไม่มีภรรยา เพราะไม่เคยแต่งงานเลย"
งงเพจมโน สั่งให้ลบข้อความ ทั้งที่ไม่ได้ติดต่อไป
"ถามว่าได้คุยกับพี่เขาไหม ตอนนั้นเขายังนอนไอซียูอยู่เลย ยังคุยไม่ได้ ถามว่างงไหม ที่เราไม่เคยทำอะไรให้ใครแต่เขาเอาเราไปโยง มันมีเพจที่โพสต์รูปผิด เพราะว่าเขาเสิร์จนามสกุลจากกูเกิ้ล หนูไม่แน่ใจนะ ที่เห็นแน่ๆ คือมีการโพสต์รูปผิดก่อน แต่เพจที่เมาท์ดาราเขาโพสต์รูปถูกต้อง ซึ่งเป็นรูปหนูกับพี่กี้ แต่เป็นเนื้อข่าวที่ปนไปเรื่อยๆ และบอกว่าทางหนูมีการโทรศัพท์มาให้ลบโพสต์ ซึ่งหนูไม่ได้มีคอนแท็กกับเพจนั้น และไม่ทราบว่าใครเป็นแอดมิน เขาทั้งโพสต์เอง และก็ออกมาบอกเองว่ามีคนสั่งให้ลบ ซึ่งเขาทำเองทุกอย่างเลย"
ลั่นรอฝ่ายชายเดินได้ จะฟ้องพร้อมกัน
"คุยกับทนายแล้ว กำลังเตรียมเอกสารอยู่ เพราะเราก็ไม่รู้ขั้นตอนกฎหมายว่ามันมีขั้นตอนอะไรบ้างก็ต้องให้ทางทนายเป็นคนช่วยจัดการ ส่วนตัวหนูต้องไปแจ้งตำรวจไอที เราจะฟ้องรวบต้องรอพี่กี้ออกจากโรงพยาบาลก่อน หนูจะฟ้องแน่นอน รอให้ทางพี่กี้พอจะเดินได้บ้าง ก็จะไปฟ้องพร้อมกัน เพราะตอนนี้ยังกายภาพอยู่ ส่วนจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ต้องรอคุณหมอบอก เพราะว่าผ่านานมาก เขาผ่าขากับแขน ส่วนสมองปกติดี คอไม่หักไม่ร้าว แต่กระดูกต้นขาหักสามท่อน ซึ่งทางเพจก็ไม่ได้มีใครติดต่อเรามา แล้วเขาก็ปิดเพจหนีไปแล้วด้วย"
สืบหาชื่อนามสกุลจริงคนคอมเมนต์ก่อนฟ้อง
"ในส่วนของคอมเมนต์บางทีมีทั้งแอคเคาท์จริง แอดเคาท์ปลอม ก็ต้องไปสืบชื่อนามสกุลที่ถูกต้อง และโปรไฟล์ที่ถูกต้อง เพื่อเจอตัวบุคคลนั้น"
"ถามว่าอยากให้เขารับผิดชอบอะไร หนูไม่ทราบว่าทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญา ทำอะไรได้บ้าง ต้องให้ทางตำรวจและทนายคุยให้ เพราะว่าหนูไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลย"
ไม่รับคำขอโทษ เพราะไม่ใช่คนแรกที่เจอเรื่องแบบนี้
"หนูรู้สึกว่า เราไม่ใช่คนแรกที่เจอเรื่องนี้ พี่ๆ น้องๆ ในวงการบันเทิงเจอเรื่องแบบนี้มาเยอะ แล้วก็ไม่มีใครทำอะไรเลย อาจจะคิดว่าปล่อยผ่านไป ไม่เอามาทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เป็นครั้งที่ร้อยแล้วที่เจอแบบนี้ หนูรู้สึกว่าถ้าทำให้มีกรณีตัวอย่างสักครั้งหนึ่ง คนที่ทำก็น่าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร"
"ส่วนจะให้เขารับผิดชอบแบบไหน หนูไม่รู้จริงๆ ว่าทางกฎหมายดำเนินการอะไรได้บ้าง ต้องให้ทางตำรวจเป็นคนตัดสินใจ เพราะว่าเราไม่มีสิทธิตัดสินใจว่าอยากให้เป็นอะไร แต่มันมีโทษอยู่แล้ว แต่หนูไม่รู้ว่ามันมากน้อยขนาดไหน"
ฝ่ายชายก็อยากให้จัดการเป็นคดีตัวอย่าง
"เราก็ปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี ซึ่งพี่เขาก็รู้สึกว่าอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะมันเสียหายทั้งชื่อเสียงของหนูและทั้งของพี่กี้ แล้วเฮียโต้งกับภรรยาก็งงไปหมด"
รู้จัก 2 ปีกว่าแล้ว แต่เพิ่งคุยจริงจังเมื่อช่วงต้นปี สัมพันธ์คืบหน้าไปเรื่อยๆ
"จริงๆ รู้จักกันมาประมาณสองปีกว่า แต่มาคุยกันจริงจังประมาณต้นปีนี้ แล้วก็คืบหน้ามาเรื่อยๆ ถามว่าเขาชนะใจเรายังไงบ้าง หนูเป็นคนที่เวลาคุยกับใครจะคุยนาน ซึ่งที่ผ่านมาก็เลยอาจจะไม่ค่อยมีข่าว เพราะเราทำความรู้จักกันอยู่"