“เอ็มมี่” ขอไม่พูดถึง “ธีร์” อีกต่อไป วอนคนเลิกไปต่อว่าเขาได้แล้ว เดินหน้าเป็นกระบอกเสียงช่วยคนอื่นเหมือนเดิม แต่ไม่มีเงินช่วยใครแล้ว ขอบคุณผู้ใหญ่เมตตาป้อนงานให้ เผยยังไม่กล้าไปเจอหน้าลูก ตั้งแต่ใส่กำไล EM ฝากคนโกงเงินดูไว้ทำครอบครัวเดือดร้อน ลั่นขอทิ้งความซวยทั้งหมดไว้ในปีนี้
หลังจากที่สาว “เอ็มมี่ แม็กซิม” อมลวรรณ กิตติศิริรัตน์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดรามากับอดีตดารา “ธีร์ ภูมิธนะวัชร์” จนได้ลั่นวาจาเอาไว้ว่า ได้ยินชื่อแล้วขยะแขยง ต่อจากนี้จบแล้ว ถ้าตายจริง จะไปเผาผีให้ ล่าสุดสาวเอ็มมี่เผยว่าต่อไปนี้จะไม่พูดถึงธีร์อีกแล้ว และอย่าไปต่อว่าเขาเลย มันเป็นเงินของเขา มันเป็นสิทธิ์ของเขา ที่จะช่วยหรือไม่ช่วย
"ก็บอกแล้วว่าจากนี้ต่อไปก็จะไม่พูดถึงคนนี้อีกค่ะ ไม่อยากพูดถึงเขาแล้ว คือคนอย่างเอ็มมี่ ได้พูดแล้วก็คือจบแล้ว คือเอาตรงๆ ทุกวันนี้เอ็มมี่ไม่เห็นคอมเมนต์ที่บอกว่าเราไปอะไรกับคนป่วยนะคะ สิ่งที่เห็นคือมีแต่คนให้กำลังใจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะต้องพูดก็คือขอบพระคุณทุกกำลังใจ ขอบพระคุณที่เข้าใจ ก็เอาเป็นว่ามันจบแล้ว เราไม่ได้เลือกดูแต่คอมเมนต์ดีๆ นะ แต่เลื่อนดูแล้วมันไม่มีใครด่า ไม่มีใครต่อว่าเรา มีแต่คนให้กำลังใจเรา คือทุกคนก็พูดเหมือนกับเรา ว่าคนเราเมื่อเคยช่วยเหลือกัน ก็แค่กลับมาช่วยเหลือกัน มันแค่นั้นเองจริงๆ"
กระแสก็ตีกลับไปด่าเขาเหมือนกัน
"เอาเป็นว่าอย่าไปต่อว่าเขาเลยแล้วกัน คือมันเป็นเงินของเขา มันเป็นสิทธิ์ของเขา ที่เขาจะช่วยหรือไม่ช่วยเอ็มมี่ก็ได้ แต่คือแค่วันนั้นเราจะติดคุกแค่นั้นเอง มันแค่เป็นความรู้สึกว่า เราไม่รู้จะนึกถึงใครแล้ว ก็เลยนึกถึงคนที่เราเคยช่วยเหลือ จุดประสงค์ของเอ็มมี่คือการที่เราขอความช่วยเหลือ จากคนที่เราเคยช่วยเหลือ มันไม่น่าจะผิดนะ ถูกต้องไหมคะ แต่ถ้าเราไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เราไม่รู้จักเลย อันนั้นน่าอาย แต่สรุปคนที่เขามาช่วยเรา กลับกลายเป็นคนที่เราไม่เคยรู้จัก แต่คนที่เราเคยช่วยกลับกลายเป็นแบบนี้ ก็เอาเป็นว่ามันจบแล้ว เราก็ขอจบแล้วดีกว่า แล้วก็จะเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้ ใครรักก็ขอให้ติดตาม เราเชื่อว่าทุกคนบนโลกใบนี้ ชอบคนจริง ชอบคนตรง เพราะฉะนั้นเราเป็นคนแบบนี้ค่ะ"
ยังคงเป็นกระบอกเสียงในการช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
"ทุกๆ คนยังได้รับความช่วยเหลือจากเอ็มมี่ เพราะยังมีคนอินบ็อกซ์มาเยอะ ก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่อง มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากช่วยใครอีกแล้ว เพราะช่วยแล้วก็โดนด่า กลายเป็นสร้างภาพ แต่ก็ยังมีหลายคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็ยังตั้งหน้าตั้งตาช่วยเหลือคนอื่น แต่ก็เป็นได้แค่กระบอกเสียงนะ เพราะเงินไม่มีโดนโกงไปหมด ถ้ามีเงินเราช่วยแน่นอน ไม่ต้องโพสต์บริจาค โพสต์ขอให้คนอื่นช่วยเหลือด้วย ช่วยเองค่ะ แล้วก็ยังเป็นจิตอาสาในเรือนจำเหมือนเดิม ส่วนเรื่องคดีความก็ไปตามศาลนัดทุกครั้งค่ะ”
ตอนนี้เริ่มมีคนติดต่องานเข้ามาบ้างแล้ว ขอบคุณผู้ใหญ่เมตตาให้ทำงานแม้จะมีกำไล EM ติดตัว
"ก็เหมือนเขาสงสารมั้ง เริ่มมีผู้ใหญ่เมตตาค่ะ ก็มีงานคอนเสิร์ต กลับมารับเล่นคอนเสิร์ตเหมือนเดิม แล้วก็มามีงานละคร แต่ตอนแรกก็เครียดมากว่าเขาจะให้เราเล่นไหม เพราะมี EM (กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EM : Electronic Monitoring ใช้ติดตัวผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว ) เขาจะตัดเราไหม สรุปเขาก็บอกว่าไม่ซีเรียส เขาเข้าใจ ก็ต้องขอบพระคุณมากๆ คือทุกคนที่เขาเห็นเรา ติดตามกันมาเกือบ 10 ปี ทุกคนก็รู้แล้วว่าเราเป็นเด็กแบบนี้ โก๊ะ แล้วก็ตรงๆ เหมือนเขาก็สงสารมากกว่า แล้วก็คงจะเอ็นดูมั้ง อย่างที่เราบอกว่าแอ็กติ้งเราอาจจะกวนๆ หน่อย เพราะเราเป็นคนตรงๆ ถ้าให้ปรับก็คงยาก ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่รักและเมตตา จับมือเราไปแบบนี้นานๆนะ เพราะก็คือกันมา 10 กว่าปีแล้ว"
ไม่กล้าไปเจอหน้าลูกหลังโดนใส่กำไล EM ที่ข้อเท้า เชื่อถ้าอธิบายลูกคงเข้าใจ ทุกวันนี้มีกำลังใจสู้ได้ก็เพราะลูก
"ทุกวันนี้ยังไม่กล้าไปเจอหน้าลูก ตั้งแต่ติด EM เพราะฉะนั้นอยากให้คนที่เขาโกงรู้ไว้ด้วย ว่าทำให้คนที่มีครอบครัว ไม่ได้เจอหน้าลูก แต่ตอนนี้กำลังรวบรวมความกล้าอีกไม่เกิน 2-3 วันนี้จะไปเจอลูกค่ะ คือไม่กล้าให้ลูกเห็นที่ข้อเท้า แต่แม่บุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) บอกว่าต้องไป เพราะกำลังใจ และสิ่งที่ลูกต้องการคือแม่ ถ้าลูกถามก็คงจะอธิบายว่ามันเป็นแบบนี้นะ แต่ลูกเราเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจ ยิ่งลูกสาวยิ่งเข้าใจอะไรง่ายมาก เหมือนเขาเกิดมาเพื่อนเติมเต็มเอ็มมี่จริงๆ กำลังใจที่สู้มาได้ทุกวันนี้ก็คือลูก แล้วตอนนี้แม่เราก็กำลังมีชีวิตที่ดีขึ้น"
ขอทิ้งความซวยทั้งหมดไว้ในปีนี้
"ตอนนี้ก็รู้สึกว่าทิ้งความซวยทั้งหมดไว้ในปีนี้ ในวันนี้ จากนี้ต่อไปขอสู้ แล้วก็กลับมาเป็นเอ็มมี่คนเดิม สตรองเหมือนเดิม แล้วก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่คิดว่าเราเป็นไอดอลในการทำให้ทุกคนลุกขึ้นมาสู้ แล้วก็ฝากถึงทุกคนในเรือนจำด้วยนนะ หลายคนที่เขาท้อแล้ว ณ วันนี้เอ็มมี่ก็จะไปให้ความสุขทุกๆ คน ในเรือนจำเหมือนเดิมค่ะ แต่ไปพร้อม EM นะ ให้ขณะที่พวกมึงออกมา กูอาจจะเข้าไปก็ได้ อันนี้ไม่รู้นะคะ ก็รอดูในวันข้างหน้า ก็เต็มที่กับชีวิตอยู่แล้ว สุดจัดปลัดขิกค่ะ (หัวเราะ)"