"นุ่น ศิรพันธ์" ควง "ท็อป พิพัฒน์" ขอบคุณทุกคนให้เกียรติ ยกเป็นไอดอลคู่รักรักษ์โลก บอกทำมา 10 ปีแล้ว เผยเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยทำให้ได้สามีดีๆ มาหนึ่งคน ฝ่ายชายแฮปปี้รัฐจริงจังเรื่องนี้ ไม่ต้องแก้ผ้าแล้ว
ถือว่าเป็นคู่รักรักษ์โลกคู่แรกๆ เลยก็ว่าได้ ที่ออกมารณรงค์ไม่รับถุงพลาสติก โดยทำไปเมื่อ 10 ปีก่อน จนถึงตอนนี้ทุกองค์กรต่างตื่นตัว ทั้งภาครัฐและคนดัง จนถูกยกให้เป็น "คู่รักไอดอลคนรักษ์โลก" ล่าสุด "นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา" ก็ควงสามี "ท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร" มาเปิดใจ ขอบคุณที่ให้เกียรติ
นุ่น : "ก็ขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติพวกเรา อันนี้เป็นเรื่องที่เราทำมา 10 กว่าปีแล้ว และเป็นสิ่งที่เราชอบด้วย เป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ใช่ว่าทำมา 10 กว่าปีแล้วจะพอแล้วนะ มันควรจะทำต่อไปเรื่อยๆ ถ้าวันนี้เรายังมีพื้นที่ที่มีคนฟัง ก็อยากจะบอกสิ่งที่เราทำอยู่ อยากทำให้เข้มข้นมากขึ้น เรื่องสิ่งแวดล้อมดีนะคะ เพราะอย่างน้อยนุ่นก็ได้มีสามีมาหนึ่งคน (ยิ้ม) เราได้พ่อหนุ่มอีโค่มา ถ้าใครยังโสดๆ อยู่ก็อาจจะเอาหัวข้ออีโค่มาใช้เป็นชีวิตประจำวันก็ได้ อาจจะได้ผู้ชายดีๆ เข้ามา (หัวเราะ)"
ท็อป : "ส่วนผู้ชายถ้าเกิดอยากทำอะไรดีๆ เพื่อชนะใจสาวๆ ลองหันมามองเรื่องสิ่งแวดล้อม เผื่ออาจจะได้ภรรยาเหมือนผมก็ได้"
ลั่นทำมา 10 ปีแล้วแต่คนเพิ่งจริงจัง ขอบคุณคนดังและภาครัฐที่จริงจัง
นุ่น "เราคิดว่าดีมากแล้ว วันนี้มีการตื่นตัวและอยากขอบคุณศิลปินดาราอีกหลายคน ทั้งภาครัฐที่จริงจังเรื่องนี้นะคะ เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องยากที่จะพูดแล้วให้คนเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะพวกเราถูกสปอยให้เป็นคนสบายๆ มันเลยยาก ถามว่าช้าไหม แต่ก็คิดว่าช้าๆ แต่มั่นคงดี ถ้าเป็นก้าวที่ช้าแต่หนักแน่น มันก็ก้าวต่อไปได้กว้างขึ้น"
ท็อป : "วันที่ 1 มกราคมรัฐบาลขอความร่วมมือหลายบริษัท หลายหน่วยงาน หลายๆ ที่ร่วมกันงดแจกถุงพลาสติก ผมคิดว่าในช่วงแรกอาจจะมีปัญหาบ้าง อาจจะลืมในการพกถุงผ้าไป แต่ไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่น่าทำ เพราะถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน สุดท้ายแล้วพวกเราก็จะแย่ ถ้าเกิดรัฐบาลเห็นว่าพวกเราไม่เอาด้วย ก็กลัวว่าการที่เราตั้งความหวังว่าต่อไปจะออกเป็นกฎ มันก็อาจจะไม่เกิดขึ้น"
ไม่ต้องแก้ผ้าแล้ว เพราะรัฐบาลจริงจังเรื่องนี้
ท็อป : "ผมเคยบอกไว้ว่าถ้าเกิดวันที่ 1 ไม่ได้มีการร่วมกันจริงๆ เราจะไปแก้ผ้า เพื่อไปบอกว่าเอาเถอะ แต่ตอนนี้เราเห็นแล้วว่าจริงจัง ผมเชื่อว่าวันที่ 1 รัฐบาลเอาแน่นอน ผมไม่ต้องแก้ผ้า (หัวเราะ) แต่พวกเราในฐานะลูกค้าและประชาชนจะเอาด้วยหรือเปล่า ก็อยากจะฝากความร่วมมือในครั้งนี้ พกถุงผ้าไม่ได้ใหญ่มากนะเดี๋ยวนี้ ถุงเล็กๆ คิดว่าไม่น่าจะยาก อยากจะให้ร่วมมือกันนะครับ"
นุ่น : "ถามว่าถ้าไม่มีวิกฤต ก็คงไม่มีวันนี้ เอาเถอะไหนๆ มันก็มาถูกทางแล้วนุ่นว่าสิ่งแวดล้อมเราอย่าไปกดดัน ถ้าวันที่ 1 มกราคมแล้วเราพกถุงผ้า แล้วเจอคนที่ไม่พก แล้วรู้สึกโกรธ อย่าไปบอกว่าทำไมเป็นคนแบบนี้ ต้องใจเย็นๆ และใจดีต่อกัน"
ท็อป : "ผมมีวิธีการเสริมเพื่อให้พวกเราทำเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น อาจจะไม่ต้องฉีดยาแรง เวลาที่เราไปซื้อของตามร้าน ถ้าของในนั้นไม่จำเป็นต้องซ้อนถุง ถ้าจำเป็นต้องรับถุงก็เอาที่พอดี ที่ไม่จำเป็นและมากเกินไปก็ลด ลองมองตรงนี้และปรับไปเรื่อยๆ จะทำให้การปรับตัวเองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำได้ง่ายขึ้นครับ"