"พีช" ฉุน สายการบินต่างประเทศดูถูก เหตุใส่เสื้อมัดย้อมขออัปเกรดตั๋ว จวกถึงใส่กางเกงบอล ก็ไม่ควรได้รับการปฏิบัติแบบนี้

ออกอาการไม่พอใจ จนทวิตและติดแฮชแท็กขอบ่นหน่อย หลังถูกสายการบินต่างชาติ ปฏิเสธการให้บริการ เนื่องจากไปขออัปเกรดตั๋วแถมถูกตอบกลับมาด้วยคำพูดดูถูกว่าแพง งานนี้ "พีช พชร จิราธิวัฒน์" เผยระหว่างควงแขนคุณแม่คนสวย "ส้ม ชนัดดา" มาร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แบรนด์เซนนิตี้ (Senity) ณ ห้องคาเมลเลีย บอลรูม (Camellia Ballroom) ชั้น 1 โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ โดยเจ้าตัวเปิดใจ ต่อให้ใส่กางเกงบอลไปถามก็ไม่ควรได้รับการปฏิบัติแบบนี้

"เป็นขากลับ จริงๆ แค่อยากรู้ว่าอัปเกรดยังไง แต่พนักงานที่โน่นเขาอาจจะไม่เข้าใจคอนเท็กวัฒนธรรมมั้ง เขาก็มองเรา ก็พูดว่า แพง จบแค่นั้นเลย เราแค่รู้สึกว่าเรามาถามราคา ก็บอกตัวเลขสิ"

"เราไม่ได้พูดว่าเราจ่ายไหว มันก็ไม่ควรพูด คุณบอกตัวเลขมา เราจะซื้อไม่ซื้อมันก็อยู่ที่ดุลยพินิจของเรา แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาให้ความคิดเห็นว่าแพงแล้วไม่ขาย ด้วยการที่เห็นผมใส่เสื้อยืด ใส่เสื้อมัดย้อม ผมอาจจะไม่ได้ใส่สูท แต่คุณไม่ควรตัดสินลูกค้าของคุณจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นงานบริการแบบไหนก็ตาม มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร ผมรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ไม่ดี เราก็เลยจำเป็นต้องพูด วันนั้นผมก็ไม่ได้คอมเพลนอะไรเพราะรีบ เดี๋ยวจะไปเช็กอินไม่ทัน เลยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดก็ได้ ในเมื่อถ้าไม่ขายก็ไม่ซื้อ ตอนเขาบอกว่าแพง เราก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรเขา มันก็ไม่จำเป็นต้องไปนั่งพูดอะไร เขาบอกว่ามันแพง"

"ตอนนั้นไม่เหวอ แต่ผมก็แค่รู้สึกว่ามันไม่ถูกมารยาท เป็นใครก็ตามไม่ควรพูดแบบนี้กับคนอื่น ถามว่าเสียความรู้สึกไหม ในฐานะที่เราเป็นลูกค้า เราจ่ายเงินมาแล้ว เราไม่ควรได้รับการปฏิบัติแบบนี้ เราเป็นคนที่ไปใช้บริการก็อยากให้เขาพูดดีๆ กับเรา คนที่บริการก็ควรจะพูดดีๆ เพราะคุณจะได้ตังค์จากเขา เราซื้อตั๋วไปแล้ว ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้"

คาดได้รับการปฏิบัติไม่ดีเพราะการแต่งกาย ไม่ควรมีความเห็นดูถูกใคร ต่อให้ใส่กางเกงบอลก็ควรได้รับการปฏิบัติตัวเท่ากับคนอื่น
"ใช่ แต่ผมแค่รู้สึกว่าเขาไม่ควรมีความคิดเห็นในการดูถูกการแต่งกายคนอื่น ไม่ว่าผมจะใส่เสื้อกล้ามหรืออะไรก็ตาม ผมใส่กางเกงบอล ผมก็ควรได้รับการปฏิบัติตัวเท่ากับคนอื่น ครั้งหน้าผมก็อาจจะไม่ได้บินกับสายการบินนี้ไปเลย"

"ผมไม่ได้หวังว่าจะมีฟีดแบ็กอะไรกลับมา ผมแค่รู้สึกว่ามันควรจะต้องพูด อย่างน้อยคุณจะพัฒนา ถ้าผมพิมพ์อีเมลล์อย่างเดียวไปหา น่าจะไม่อ่าน ก็เลยโพสต์ไปใช้วิธีนี้อาจจะได้อ่านมากขึ้น ปกติผมไม่เคยคอมเพลนนะ นานๆ ที เป็นเคสแปลกๆ อาจจะจำเป็น เป็นครั้งแรกเลยที่เจอแบบนี้ คือผมอาจจะไม่รู้ว่าวัฒนธรรมเขาเป็นแบบนี้หรือเปล่า มีแค่ผมกับพี่กอล์ฟผู้จัดการครับ โดนกันอยู่สองคน"

เผยถูกจับจ้องสัมพันธ์ "อาย กมลเนตร เรืองศรี" คิดไปไกลได้เลย เพราะไม่ได้มีอะไรกัน เป็นเพื่อนใหม่ที่ดี
"ไม่จับจ้องผมกับบอม (ธนิน มนุญศิลป์) หรือ นาย (ณภัทร เสียงสมบุญ) บ้างล่ะ คือเป็นทริปที่ทุกคนไปกันแบบแรนดอมครับ เริ่มจากที่น้องนายมาชวนผม และทุกคนที่ไปแจมก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ก็ไปเจอกันที่โน่น ก็รู้สึกว่าแก๊งนี้สนุกดี เฮฮา พลังงานเยอะดี ผมก็เลยรู้สึกว่าโชคดี ได้เจอเพื่อนดีๆ ได้มีเพื่อนใหม่ที่ดีครับ ส่วนที่คนคิดไปไกล คิดได้เลยครับ เพราะมันไม่มีอะไร​ เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ ผมรู้สึกโชคดี อย่างน้อยก็ได้เจอเพื่อนใหม่ที่ดี"

"ถ้าถามโอกาสพัฒนา มันไม่ได้เริ่มจากความรู้สึกที่ว่าเราจะต้องจีบเขานะ เขาจะต้องจีบเรานะ ก็เป็นเพื่อนกัน และแฮปปี้ที่จะเป็นแบบนี้ต่อไป แบบนี้ดีแล้ว เรามีเพื่อนเยอะดีกว่าที่จะมีความสัมพันธ์ที่วันนึงมันไม่เวิร์ก ก็น่าเสียดาย"

คุยแล้วสนุก ถูกทางกัน
"เราสนิทกันตอนที่ไปนี่แหละครับ คือคุยแล้วรู้สึกสนุก ถูกทาง มันตลก แล้วทริปนี้ทุกคนมากันแบบแรนดอมมาก มาเจอกันที่สนามบิน พอเห็นก็งงว่าอ้าวมาด้วยเหรอ คนเริ่มต้นทริปสำหรับ​ผมคือนาย ณภัทรมาชวนผม แล้วไม่บอกอะไรเลย บอกแค่ว่าพี่ไปตุรกีกันไหม มันเจ๋งมากเลยนะ ก็เลยคิดว่าโอเคไปก็ได้ไหนๆ ก็ว่างพอดี หลังจากนั้นตัวละครก็ค่อยๆ เติมมาทีละคน แต่มันสนุกมากเลยนะ เราได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคน อย่างบอมก็เคยเจอกันบ้างตามงาน แต่ไม่ได้คุยกันมาก พอมาที่นี่เลยได้คุยกันเยอะ และเขาเป็นเพื่อนที่ดี อย่างมิ้นท์ก็เหมือนกัน พอมาเจอครั้งนี้เราก็รู้สึกดี แฮปปี้ที่ได้เจอกัน"

ขำๆ บอมแฮปปี้แต่งเป็นหญิง อยากร่วมทริปอีก สะใจ
"มันมีความสุขมากเลยนะ กลัวชุดจะขาด ชุดก็ไปยืมเขามาด้วย คือมันเป็นชุดที่มิ้นท์เขาใส่ บอมก็บอกอยากลองใส่บ้าง ชุดเกือบแตกเลย (หัวเราะ)​ ผมว่าน่าจะใช้ไม่ได้แล้ว ตลกดี เขาเป็นคนชอบเอ็นเตอร์เทน ถือว่าเป็นแก๊งเพื่อนใหม่ เดี๋ยวก็คงมีนัดเจอกันเรื่อยๆ แหละ นี่ก็มีคุยกันว่าครั้งต่อไปเราจะไปที่ไหนกันดี เนื่องจากว่าความสนุกสนานมันสะใจดี"

โสดดีแล้ว ไม่ลำบากคนอื่น
"ใช่ครับ แบบนี้ดีแล้ว ไม่ไปลำบากคนอื่น ส่วนที่คนมองว่าโสดได้ไม่นาน ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ คือผมรู้สึกว่าผมเป็นตัวปัญหาของคนอื่นเขา เหมือนเป็นคนไประรานชาวบ้าน อยู่กับใครไม่ค่อยได้"

โสดแม่โอเค สบายใจอยู่คนเดียว ทำอะไรก็ได้
"แม่ผมโอเคกับทุกอย่างที่ผมทำอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นความตั้งใจจะพัก แค่รู้สึกว่าเป็นแบบนี้ดีแล้ว เราทำอะไรด้วยตัวเองได้ เราจะไปไหนก็ได้ เราจะนัดใครไปเดินเล่น นัดเพื่อนคนไหนว่างก็ไปเที่ยวกัน เราไม่ต้องควบคุมอะไรเลย ชีวิตมันดี สบายใจที่จะทำอะไรก็ได้"

ที่่ผ่านมาติดแฟน ค้นพบแล้วต้องเป็นแบบนี้
"ใช่ อันนี้ผมยอมรับจริงๆ จนผมมาค้นพบเลยว่ามันต้องเป็นแบบนี้ คนเราควรเป็นแบบนี้ มันดีจริงๆ ผมชอบการที่ผมตัดสินใจอะไรก็ได้"

เขินมาก ออกงานคู่แม่
"เขินสิ เขินมาก ถามว่าต้องเตรียมตัวยังไง ผมซ้อมที่บ้านหน้ากระจก ไม่ใช่ ล้อเล่น จริงๆ ก็ไม่ได้อะไรมากหรอก ก็ตื่นเต้น เราก็ไม่รู้ว่าถ้าพูดตลกเล่นมุกไปแม่จะเก็ตหรือเปล่า กลัวเตี๊ยมแล้วเดี๋ยวจังหวะมันไม่ได้เดี๋ยววืด ถามว่าแม่ผมหรือเปล่าที่ต้องตื่นเต้น จริงๆ แม่ผมค่อนข้างเซียนกว่าผมนะ ออกงานกับแม่ก็ไม่เหมือนออกงานคนเดียว ออกงานคนเดียวนี่เต็มที่ กระโดดตีลังกาเลย"

ไม่รับงานแม่ลูกที่ต้องแสดงความรักต่อกัน เขินและเกร็ง ทำตัวไม่ถูก
"ไม่ได้เลยนะ เคยไปแล้ว น้ำตาไม่แตกนะ แต่เขิน เกร็ง เคยไปงานวันแม่ที่ต้องก้มกราบ เขินมาก คนดูเยอะเหลือเกิน อึดอัดๆ ทำตัวไม่ถูก ไม่เป็นตัวเองเลย ร้องเพลงวันแม่แล้วต้องบอกรักแม่ รู้สึกว่าเก็บไปบอกที่บ้านก็ได้มั้ง ผมเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กแล้วนะ"

"แม่สะใจมาก เขาจะยิ่งชอบมาก ยิ่งรู้ว่าเรามีอาการแบบนี้ เขาก็จะยิ่งแกล้ง ทำไมไม่ทำมากกว่านี้ล่ะลูก เราก็จะแบบทำไมต้องมาแกล้งกันเวลานี้ด้วย อยู่ที่บ้านเราไม่ค่อยแสดงความรักต่อกัน เราก็ไม่ได้พูดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็คุยกันปกติ มันคงแปลกดีนะ ตื่นเช้ามาเจอกันพูดว่า สวัสดีจ๊ะ รักนะจ๊ะ เขินไปนะ"