xs
xsm
sm
md
lg

“ไอซ์ อธิชนัน” หวั่นใจ เบ้าตาร้าว หากกายภาพไม่หาย ต้องโดนกรีดหน้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไอซ์ อธิชนัน” อัปเดตอาการเบ้าตาร้าว ต้องทำกายภาพ หวั่นต้องกรีดหน้า โอดซวยซ้ำซ้อนโดนผู้รับเหมาก่อสร้างโกง หอบเงินหนีหายเกือบล้าน

หลังจาก “ไอซ์ อธิชนัน ศรีเสวก” ประสบอุบัติเหตุโดนกระบอกแรปน้ำหนักเกือบ 7 กิโล หล่นกระแทกหน้าระหว่างถ่ายทำซีรีส์ ทำให้เบ้าตาร้าว ซ้ำยังโดนผู้รับเหมาก่อสร้างหอบเงินหายไปอีก ล่าสุดไอซ์ก็เดินทางมาที่อินฟินิตี้ คลินิก บาย ดร. ปาล์ม @ ไทยซินสแควร์ เอกมัย เจ้าตัวก็ได้อัปเดตบาดแผลที่เบ้าตาว่า ตอนนี้กำลังทำกายภาพอยู่ แต่ถ้าก้อนเนื้อยังไม่หาย ก็ต้องใช้วิธีกรีดเพื่อเอาออก ส่วนเรื่องผู้รับเหมาก่อสร้าง ตอนนี้ก็ได้เจ้าใหม่มาดูแลบ้านต่อแล้ว

“เอาจริง ๆ ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธ.ค. ปีที่แล้วที่ไปเที่ยวพม่า ก็โดนเหล็กแทงเท้าขวาเป็นแผลเนื้อเปิดติดกระดูก ก็เดินไม่ได้ไปพักนึง พอกลางถ่ายละครมีอุบัตุเหตุตบกับพี่เบนซ์ ปุณยาพร ในเรื่องมนตรามหาเสน่ห์ เป็นคัทสุดท้ายจะปิดตัวอยู่แล้ว เราตบกันแล้วก็ลื่น ส้นเท้าหลังไปขูดกับบันไดไม้เนื้อเปิดอีก หลังจากนั้นพอรีโนเวทบ้าน ก็โดนผู้รับเหมาโกงด้วย ซึ่งเราก็ได้ยินหลายท่านบอกว่าเวลารีโนเวทมักจะมีปัญหากับผู้รับเหมา”

แพ้ความไว้ใจ คนรู้จักพ่อทำพิษ โกงค่ารับเหมา ตีราคาสูง หอบเงินหนีหาย
“เราคิดว่าเราไว้ใจเขาได้ เพราะเขาเป็นคนรู้จักของคุณพ่อไอซ์ เขาเป็นสถาปนิคคิดว่าเขาไว้ใจได้ แต่พ่อก็บอกว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่ได้เจอกันประมาณ 30-40 กว่าปี ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นยังไง ปรากฎว่าสุดท้ายเขาก็โกงเราจริงๆ คือเขาตีราคาค่อนข้างสูง แล้วเราเป็นผู้หญิงคงไม่รู้เรื่องก็ปล่อยๆ ไป แล้วส่วนหนึ่งก็ไว้ใจเพราะคิดว่าคุณพ่อรู้จัก จนเรารู้สึกว่าเขาเบิกเงินงวดแรกไป ไม่ถึงเดือนก็เบิกอีกงวดแล้ว ก็ไม่คิดอะไรโอนให้เขา อีกงวดนึงมาอีกแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องแล้ว”

“ครั้งแรกไอซ์ยังไม่พูด ครั้งที่สองรู้สึกตะหงิดๆ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรขนาดนั้น พอมาครั้งที่ 3 เริ่มคุยกับคุณพ่อแล้วว่าทำไมรู้สึกว่าเขาเบิกเงินเยอะจังเลย แป๊บๆ ก็เบิกคุณพ่อมานั่งดูด้วย ก็บอกว่าก็จริงของลูก เขาก็รู้สึกว่าเกินไป คุณพ่อก็บอกให้เราตัดสินใจเลย ไอซ์ก็คุยกับเขาว่าทำไมรู้สึกว่าเบิกเงินเร็วจังเลย ทั้งๆ ที่เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ ควรจะได้เกือบเสร็จแล้ว หรือส่วนนี้ควรจะเสร็จแล้วเหลืออีกส่วนหนึ่ง เขาก็แบบตะกุกตะกักแล้วโยกไปให้ช่างอีก ช่างก็บอกว่าช่างก็เบิกมาทางนี้ ช่างเบิกมาอีกเท่านี้บวกราคาไปโน่นนี่นั่น เราก็รู้สึกว่ามันไม่โอเค เราก็เลยเรียกช่างมาคุยก็จับได้ว่า เขาเองนั่นแหละที่มาบวกเพิ่ม ซึ่งเราก็ได้ไปดูหน้างานค่ะ เพราะเป็นบ้านที่เราอยู่รีโนเวท แบบที่เราอยู่อยู่แล้ว เราก็คอยดูแต่รู้สึกว่ามันเริ่มเยอะไปละ เราไม่โอเคแล้ว พอเราเริ่มจับได้เขาก็เริ่มตีโพยตีพาย แล้วเขาก็หายไปเลย”

ทำสัญญาแต่ไม่รอบคอบ โดนโกงไปเกือบล้าน
“เสียหายไปเกือบล้านค่ะ ถามว่ามีสัญญาไหมจริงๆ ก็มีค่ะ แต่อย่างที่บอกเราก็สะเพร่าด้วยแหละ มีเซ็นต์สัญญาเรียบร้อยแต่ว่าเหมือนในสัญญามันต้องระบุที่อยู่ เราก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอก เขาเป็นคนรู้จักก็ไว้ใจ เหมือนเราก็เด็กด้วยแหละก็ไม่ได้คิดอะไรมากด้วยความไว้ใจเป็นคนรู้จักของคุณพ่อด้วยเราก็ปล่อย พอมาดูสัญญาจริงๆ ว่าต้องเอาละ ปรากฎว่าไม่ได้มีรายละเอียดอะไรของเขาเท่าไหร่ เท่าที่ควร”

ไม่คิดฟ้องร้อง โกงได้โกงไป ถือว่าเสียค่าโง่ ห่วงความรู้สึกพ่อมากกว่า
“หนูไม่ฟ้องค่ะ หนูถือว่าถ้าเขาจะโกงหนู ทำหนูได้ก็ให้เขาทำไป คุณพ่อก็รู้สึกแย่ค่ะเสียใจ มันก็ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว แล้วคุณพ่อเองก็ไม่ได้เจอเขา 30-40 ปี เราก็ไม่ทราบว่าเขาจะมาเป็นแบบนี้กับเรา ทุกวันนี้ก็ปล่อยเราก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีกส่วนหนึ่งเพื่อที่จะไปจ้างคนมาทำใหม่”

ตอนนี้ได้ผู้รับเหมาเจ้าใหม่แล้ว ทำสัญญาเรียบร้อย
“โอเค เรียบร้อย แฮปปี้แล้ว ถามว่าใกล้เสร็จหรือยัง ใกล้แล้วค่ะ ไปได้เยอะมากแล้วค่ะ”

ซวยซ้ำซ้อนเคลียร์เรื่องบ้านจบ มาเกิดอุบัติเหตุโดนกระบอกแรปหล่นกระแทกหน้า กลางกองถ่าย ต้องแคนเซิลงานยาวๆ
“พอจบเรื่องบ้านปุ๊บ ก็หน้าอย่างที่ทุกคนเห็น จริงๆ ต้องบอกว่าก่อนที่ไอซ์จะโดน วันอาทิตย์ไอซ์ไปกฐินต่างจังหวัดนครศรีธรรมราชไปทอดกฐินมาเลย แล้ววันจันทร์ก็ถ่ายละครก็โดนเลย หนักมากมันเป็นแรปแบบที่ใช้ในโรงงานท่อนใหญ่ แล้วคือจะเป็นซีนสุดท้ายของวันนั้นแล้ว เขาคงรีบๆ ด้วยค่ะ เหตุการณ์ก็คือ ไอซ์นอนอยู่กับพื้น เหมือนเราเป็นศพแล้วโดนแรปตัว ก็โดนแรปตั้งแต่เท้าขยับตัวไม่ได้ เขาก็กำลังจะแรปที่หน้า อีกคนยื่นถือปลาย อีกคนยืนถือม้วน แล้วเรานอนอยู่กับพื้น แล้วเขาก็ค่อมตัวเรา แล้วเขาก็ดึง แต่ไอซ์คิดว่าน่าจะเป็นความรีบร้อนแล้วก็อาจจะสะเพร่านิดหน่อย มันก็เลยรีบๆ ดึงม้วนหลุดมือ แล้วมันดังโพ๊ะลงมา"


"ตอนแรกทุกคนไม่ได้อะไรมากมาย เพราะคิดว่ามันตกพื้นเพราะเสียงมันดังมาก แป๊บเดียวไม่ถึงห้าวินาทีก็เป็นเหมือนที่เห็น มันปูดออกข้างแบบใหม่มาก แล้วเราก็ตกใจ เรารู้สึกว่ามันตึงไปเลยจากปกติเรามองปุ๊บเราต้องเห็น 360 องศา แต่หนูมองข้างล่างหนูมองไม่เห็นแล้ว ใจหาย อย่างแรกที่คิดคือเรื่องงาน เพราะอย่างวีคนั้นวันจันทร์ไอซ์ถ่ายเรื่องรัก ลวง หลอน อังคาร-พุธ ไอซ์ต้องไปเป็นแบบแต่งหน้า คือเราดีลกับลูกค้าญี่ปุ่นไว้นานมาก แล้วมันคือวันรุ่งขึ้น วันถัดไปที่เราที่เราต้องไปเป็นแบบแต่งหน้า แล้วเป็นรายการสด เราก็เครียดหนูก็ถึงกับน้ำตาไหลเพราะว่า เราเป็นคนค่อนข้างจะห่วงเรื่องงาน วันนั้นคือซีนสุดท้าย แต่ยังไม่จบคัทดี หนูเลยแบบว่าเจ็บน้ำตาไหลแล้ว ก็ให้เต็มที่เอาน้ำแข็งประคบแล้วก็ถ่ายต่อให้เสร็จ เพราะเป็นซีนที่ยากมาก แล้วไอซ์ทนที่โดนแรปอย่างนั้นมาครึ่งวันแล้ว และทุกคนก็เหนื่อยด้วยกันมาหมดแล้ว ถ่ายให้จบก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาล แล้วค่อยมาเคลียร์งานต่อไปจะทำยังไง เพราะวีคนั้นงานเยอะมาก ก็ต้องแคนเซิลยาว”

บอกเป็นซีนที่ต้องถ่ายเห็นหน้า เลยต้องเล่นเอง แล้วปกติก็ไม่ค่อยใช้สแตนอินอยู่แล้ว
“เป็นซีนที่เห็นหน้าหนูเลย แล้วปกติไอซ์ไม่ค่อยใช้สแตนอิน จะเล่นเองตลอด”

เผยทางทีมงานช่อง 8 ดูแลรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้หมด
“ช่อง 8 ก็ดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ค่ะ ทุกวันนี้ไอซ์ต้องไปกายภาพหน้าอยู่ คือ เหมือนจะดีขึ้น แต่ถ้าเกิดลองจับดูจะเป็นก้อนแข็งๆ อันดับแรกก็คือทานยา ทานมาประมาณ 2-3 อาทิตย์ แล้วเวลาว่างก็ต้องประคบร้อนตลอด แล้วพอหลังจาก 2-3 อาทิตย์ ก็คือไปกายภาพโดนใช้เครื่องอัลตราซาวด์แล้วก็เลเซอร์ทำเกือบทุกวันเลย เพราะว่าก้อนที่มันแข็งอยู่ ถ้าดูภายนอกมันจะไม่รู้ แต่ถ้าจับมันจะเป็นก้อน แล้วคุณหมอบอกว่าก้อนอันนี้ ถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่หาย หนูก็ต้องกรีดออก เพราะว่าไม่งั้นมันจะกลายเป็นหินปูนเกาะแข็งๆ ก็ต้องทำไปจนกว่ามันจะดีขึ้นเลยค่ะ ตอนนี้ถ้าหนูเผลอตัวยิ้มแบบสุดมันจะปวด เพราะว่ามันยังมีตึงๆ อยู่ ก็คือใต้ตาร้าวค่ะ”

โอดมีผลต่อการใช้ชีวิต และการมองเห็น
“ตอนแรกหนักอยู่ค่ะ เพราะว่าวีคแรกๆ คือหนูเส้นเลือดในตาแตกด้วย เลือดมันไหลออกทุกวัน จนถึงตาดำเลย คอนแทคเลนส์ก็ใส่ไม่ได้ แล้วคือเราเป็นคนสายตาสั้นค่อนข้างเยอะทั้งเอียงด้วยสั้นด้วย มันใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ทำงานก็ไม่ได้ คือลำบากมาก เพราะหลังจากประสบอุบัติเหตุประมาณ 4-5 วัน ด็ต้องไปถ่ายละคร แต่ทางกองก็น่ารักค่ะ เห็นว่าเราแต่งหน้าไม่ได้ เขาก็ปรับบทให้เราใส่แว่นตาดำถ่ายเอา แต่ว่ามันก็จะลำบากตรงที่ว่าหนูมองอะไรไม่เห็นเลย เราก็จะเป็นภาระของเพื่อนในซีนว่าต้องช่วยจูงเรานิดหนึ่ง เพราะว่าเรามองไม่เห็น ก็จะลำบากค่อนข้างมาก มีพร่ามัวบ้างช่วงแรกๆ”

บอกทำงานกายภาพแล้วจะดีขึ้นไหม ก็ต้องลุ้นเอา
“ต้องลุ้นค่ะ คุณหมอบอกว่าจริงๆ ก็ไม่ค่อยเจอเคสแบบนี้ ส่วนใหญ่เขาจะกายภาพที่แขนขา ที่ตัวกันมากกว่า อย่างของหนูก้อนที่มันเกิดขึ้นมันค่อนข้างจะใหญ่ ก็คือสุดท้ายแล้วถ้าไม่หายจริงๆ ก็ต้องกรีด หน้าก็ต้องเป็นแผล”

ตอนนี้สภาพจิตใจโอเคขึ้น กลับมาแต่งหน้าได้แล้ว หลังเครียดหนัก ตื่นมาเจอตัวเองตาเขียวช้ำทุกวัน
“หนูเครียดมากจริงๆ ตอนช่วงแรกๆ ที่เป็น เราตื่นมาแล้วเห็นหน้าเราตาเขียว ตาช้ำทุกวัน เราก็เครียด แล้วไหนจะงานอีกที่เรารับไว้ล่วงหน้านานแล้ว แล้วเราก็ทำงานให้เขาไม่ได้ สภาพจิตใจตอนนั้นก็แย่มาก แต่ตอนนี้แต่งหน้าได้แล้ว ก็ถือว่าโอเคขึ้นค่ะ”

ขำๆ ความซวยยังไม่จบ โดนกริชในละคร แทงเข้าเอวในฉาก เห็นผกก.ไม่สั่งขัด เลยเล่นต่อ
“ก็ยังไม่หมดนะคะ หลังจากที่โดนอันนี้ปุ๊บ ก็มีถ่ายละครในซีน แล้วมันก็คงอย่างที่บอกว่ามันเป็นความซวยของหนูจริงๆ (หัวเราะ) คือเป็นซีนที่เหมือนกับเราฆ่าตัวตาย แล้วเราก็ทิ้งกริช คือกริชหลุดมือ แล้วปกติทิ้งหลุดมือไปมันต้องนอนกับพื้น แต่อันนี้มันตั้งอยู่ จนหนูลงไปแล้วก็แทง คือแทงเข้าเอว แล้วเขาก็ยังไม่สั่งคัท เราก็ได้ ดึงกริชออกแล้วเล่นต่อ (หัวเราะ) คือถ้าไม่ได้ยินเสียงคัทเราก็ไม่หยุด คือมันเป็นซีนดรามามากๆ เขาก็คงไม่กล้าขัดเรา เราก็โอเคได้”

มีไปเช็คดวง บอกราศีพิจิกปีนี้ดวงดีมาก โอดสงสัยต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะรวย คาดถ้าไม่ได้ไปกฐิน อาจจะตาบอดไปแล้วก็ได้
“จริงๆหนูไปทำกฐินมานะ ก่อนที่จะโดน แต่หนูก็คิดว่าถ้าไม่ได้ไปทำกฐิน คุณหมอบอกว่าถ้ามันเข้าตาก็คือตาแตก ตาบอดเลย เพราะว่ามัน 6-7 โลได้ จริงๆ เขาบอกว่าราศีหนูปีนี้ดวงดีมากเลยนะ ราศีพิจิก เพิ่งจะอ่านดวงว่าดวงดี ล่าสุดก็อ่านมาว่าจะเป็นมหาเศรษฐี สงสัยมันจะต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะรวย”

“จริงๆ หนูว่ามันเป็นความสะเพร่าด้วย แล้วก็อาจจะเป็นความไม่ระวังของเราด้วย แล้วมันไม่เชิงของเราคนเดียว ของคนอื่นด้วย อะไรด้วย หลายๆ อย่างรวมกัน อุบัติเหตุยังไงมันก็เกิดขึ้นได้ ถามว่าโกรธไหม ก็ไม่ได้โกรธนะ”

ตอนนี้ทำประกันอุบัติเหตุเรียบร้อยแล้ว เพราะทำงานตรงนี้ อะไรมันก็เกิดได้ ไม่ซีเรียส
“ถามว่าจะดูแลตัวเองยังไง หลังจากนี้เหรอค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ เคยมีอุบัติเหตุกับการเล่นละครมาครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็มีทำประกันอุบัติเหตุไว้ ก็คือพร้อม (หัวเราะ) แต่ว่าคือเราทำงานตรงนี้ ยังไงเหตุการณ์มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว หนูไม่ค่อยได้ไปซีเรียสอะไรกับมัน”

จะหมดปีแล้วก็ใช้ชีวิตแบบช้าลง ระวังตัวมากขึ้น แต่ปลงแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
“(หัวเราะ) ยังระวังอะไรไม่ได้มากค่ะ จริงๆก็ใช้ชีวิตให้ช้าลง ทำอะไรให้ระวังมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วหนูก็คิดมาตลอด ว่าอะไรมันจะเกิดก็คือเกิด หนูก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับมัน”

เผยหวานใจไฮโซนิน ตกใจมากตอนรู้เรื่อง รีบขับรถมาหาทันที
“เขาก็ช็อคค่ะ ตอนเกิดอุบัติเหตุ เราถ่ายที่รามคำแหง มันไกลบ้านเรามาก แล้วเดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยให้คุณแม่ไปกองด้วย แต่วันนั้นขอคุณแม่แต่เช้าเลยว่าไปกองเป็นเพื่อนหน่อย พอเกิดอุบัติเหตุตอนค่ำๆ แล้วตาคุณแม่ไม่ดีขับรถไม่ได้ ก็โทรไปหาพี่นินว่าเกิดอุบัติเหตุค่ะ นางก็ตกใจรีบมาเลย เพราะเขาเห็นเราตั้งแต่โดนตอนแรกเขาก็ตกใจมาก แล้วคุณหมอมาบอกว่าร้าวอีก ก็ไปกันใหญ่เลย”














กำลังโหลดความคิดเห็น