หลายปีที่ผ่านมาวงการบันเทิงจีนมีซูเปอร์สตาร์เป็นฝ่ายหญิงซะส่วนใหญ่ ดาราอย่าง ฟ่านปิงปิง, กงลี่ หรือ กระทั่ง จางจื่ออี๋ แทบจะเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมบันเทิงของแผ่นดินใหญ่ ส่วนฝ่ายชายถ้าไม่เป็นดารากังฟูอย่าง ดอนนี เยน ก็มักจะเป็นดาวตลกประเภทสวีเจิ้ง หรือ หวังเป่าเฉียง และเหล่าดาราจากฮ่องกงที่ย้ายมาปักหลักหากินอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่กันหลายคน
แต่ในปีนี้ดาราชายของจีนกำลังเริ่มสร้างฐานความนิยมขึ้นมาบ้าง เป็นดารายุคใหม่ที่โด่งดังขึ้นมาพร้อมกับการเติบโตของวงการบันเทิงจีนในยุคใหม่ พวกเขาดูแตกต่างจากดาราในยุคก่อน
เซียวจ้าน มีพื้นเพเป็นชาวฉงชิ่ง เขาเกิดเมื่อ 5 ตุลาคม 1991 ส่วนสูง 183 ซม. ตอนเด็กๆ เซียวจ้าน เคยเรียนวาดภาพและไวโอลินมาก่อน จนเมื่อเข้าสู่ชั้นมหาวิทยาลัยจึงได้ศึกษาต่อที่สถาบันอย่าง Modern International Art Design Academy ที่ Chongqing Technology and Business University ซึ่งก็เป็นในขณะที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยนั่นเอง ที่เขาได้เริ่มเข้าไปสัมผัสกับโลกของงานสายบันเทิง กับการเข้าไปเป็นสมาชิกของชมรมนักร้องประสานเสียง
เมื่อจบการศึกษา เซียวจ้าน จึงได้เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพและกราฟิกดีไซเนอร์ จนเมื่ออายุได้ 24 ปี จึงได้เข้าร่วมแข่งขันร้องเพลงในรายการ ‘X Fire’ และถูกคัดเลือกให้ร่วมเปิดตัวเป็นศิลปินในนามวงบอยแบนด์ ‘X NINE’ ที่มีชื่อเต็มว่า "เอ็กซ์จิ่วเช่าเหนียนถวาน" หรือ 9 มังกร ร่วมกับสมาชิกอีก 8 คน ได้แก่ อู่เจียเฉิง, เผิงฉู่เยว่, จ้าวเหล่ย, กัวจื่อฝาน, เซี่ยจือกวาง, กู่เจียเฉิง, เหยียนสวี่เจีย และเฉินเจ๋อซี ในวง X NINE ตัวของ เซียวจ้าน มีบทบาทเป็นนักร้องนำ และยังถือว่าเป็น “วิชวล” ของวงด้วย
แต่สุดท้ายกลายเป็นงานแสดงที่ทำให้เซียวจ้าน สร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว โดยเขาได้เริ่มรับงานแสดงครั้งแรก จากการรับบทนำในซีรีส์เรื่อง “อิทธิฤทธิ์คนอัจฉริยะ” หรือ Super Star Academy ในปี 2016 หลังจากนั้นจึงได้มีผลงานอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2018 ก็ได้ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่อง “ฮ่องเต้ที่รัก” Oh! My Emperor ซึ่งแม้จะรับบทรอง แต่ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากบทท่านอ๋องที่ทรงอำนาจแต่ก็อ่อนโยน
จนในปี 2019 โอกาสก็มาถึง เมื่อ เซียวจ้าน ได้เลือกให้รับบทนำในละครจีนกำลังภายในแฟนตาซีเรื่อง “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายสุดฮิต Mo Dao Zu Shi โดยเขาได้สวทบทเป็นหนึ่งในพระเอก 2 คนในเรื่องร่วมกับ หวังอี้ป๋อ
เดิมทีปรมาจารย์ลัทธิมาร เป็นนิยายแนว “วาย” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของตัวละครชาย 2 ตัว แต่พอมาเป็นฉบับซีรีส์ผู้สร้างจึงได้เปลี่ยนเนื้อหาให้ออกมาในลักษณะของ “มิตรภาพระหว่างชายหนุ่ม” แทนที่จะเป็นเรื่องความรักแบบในนิยาย แต่ก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว โดยไม่เสียอรรถรสของนิยายไป
โดย เซียวจ้าน สามารถถ่ายทอดบท “เว่ยอู๋เซี่ยน” ผู้รักอิสระและไร้การควบคุมออกมาได้อย่างเต็มไปด้วยเสน่ห์ จนได้รับชื่นชมจากทุกฝ่าย ปรมาจารย์ลัทธิมาร ไม่เพียงประสบความสำเร็จในจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ยังสร้างกระแสไปทั่วเอเซีย กวาดความนิยมในหลาย ๆ ประเทศ และทำให้นักแสดงในเรื่องโด่งดังไปตาม ๆ กัน แน่นอนว่า เซียวจ้านกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วพริบตา
ไม่เท่านั้นในปีนี้ เซียวจ้าน ได้รับงานแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกด้วย โดยเขาได้รับบท “จางเสี่ยวฝาน” ในภาพยนตร์เรื่อง “กระบี่เทพสังหาร” หรือ Jade Dynasty” ที่สร้างจากบทประพันธ์ของเซียวติ่ง กำกับโดยผู้กำกับชาวฮ่องกง เฉิงเสี่ยวตง เข้าฉายในประเทศจีน 13 กันยายน 2562 สามารถกวาดรายได้วันแรกไปถึง 100 ล้านหยวน (430 ล้านบาท) จนตอนนี้สามารกวาดรายได้ไปถึงระดับ 400 ล้านหยวนแล้ว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาวงการบันเทิงจีนประสบความสำเร็จในบ้านเกิดมานาน ตลาดหนังจีนเติบโตจนกลายเป็นตลอดหนังอันดับ 1 ที่รอวันแซงสหรัฐฯ ขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ของโลกในเร็ว ๆ นี้ และในช่วงปีที่ผ่านมาสินค้าบันเทิงจีนก็เริ่มแสดงให้เห็นอนาคตในการส่งไปขายยังต่างประเทศได้เช่นเดียวกัน ซีรีส์จีนหลาย ๆ เรื่องเริ่มได้รับความสนใจในแบบที่เกาหลีเคยทำได้มาก่อน
การสร้างผลงานเพื่อขายในช่องทางสตรีมมิงโดยเฉพาะกำลังทำให้ผลงานบันเทิงจากจีนดังไปเร็วมาก บริษัทบันเทิงอย่าง Tencent เองก็กำลังก้าวไปสู่การเป็นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งทั้ง The Untamed ที่ฮิตระเบิดไปแล้ว รวมถึงซีรีส์ใหม่อีกหลาย ๆ เรื่องในอนาคตของเซียวจ้าน อย่าง Joy of Life, The Wolf และ Douluo Continent ก็ล้วนเป็นผลงานของที่นี่ทั้งหมด จึงคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะมองว่า Tencent กำลังพยายามผลักดันให้หนุ่มคนนี้เป็นดาราแม่เหล็กคนต่อไป และอาจจะกลายเป็นโฉมหน้าของวงการบันเทิงจีนในอนาคตด้วย
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2562