"โบว์" รับตัดโอกาส "มะลิ" เจอ "ลิซ่า" ไม่อยากให้ลูกได้อภิสิทธิ์ปาดหน้าแฟนคลับเพราะคำว่าเด็ก!

"โบว์ แวนดา" ไม่แคร์ตัดโอกาส "มะลิ" ไม่อยากได้อภิสิทธิ์เข้าถึงตัว "ลิซ่า" ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ติดต่อมา แต่อยากฝึกความอดทน อยากให้ลูกทำตามกฎกติกาสังคม

ได้รับกระแสชื่นชมอยู่ไม่น้อย สำหรับ "โบว์ แวนดา สหวงษ์" หลังออกมาเผยในรายการ 3 แซ่บว่าไม่ได้พาลูกสาว "น้องมะลิ พาขวัญ สหวงษ์" ไปเจอไอดอลในดวงใจ "ลิซ่า ลลิสา มโนบาล" แห่งวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BLACKPINK ทั้งที่มีผู้ใหญ่ที่เอ็นดูมะลิให้ความช่วยเหลือ เพราะอยากให้ลูกทำตามกฎกติสังคม โดยในงานอีเวนต์เพื่อการกุศล “MCM Christmas Charity” ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ณ ธารา ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม โบว์ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว ไม่อยากให้คิดว่าเป็นเด็กแล้วต้องได้รับสิทธิพิเศษ อยากฝึกลูกให้มีความอดทน

"จริงๆ ไม่อยากให้มองว่าเป็นสิทธิพิเศษหรือไม่พิเศษ บางคนที่เขามีโอกาสเจอไม่ว่าจะเป็นดาราหรืออะไรก็ตาม บางทีเขารู้จักเป็นการส่วนตัวเขาก็เลยได้เข้าไป ซึ่งอันนั้นไม่ใช่สิทธิพิเศษ นั่นคือการที่เขารู้จักกัน แต่ด้วยความที่เราไม่เคยรู้จักน้องลิซ่าเป็นการส่วนตัว แต่ว่าน้องลิซ่าเป็นไอดอลของมะลิ เราเลยมีความรู้สึกว่าในมุมมองของเด็ก ผู้ใหญ่ หรืออะไรก็ตาม ไม่อยากให้มองว่าเป็นเด็กแล้วจะได้ คือเข้าใจสำหรับผู้ใหญ่ที่รู้ว่าน้องมะลิชอบมาก พอมีโอกาสก็อยากให้น้องไป แต่เราก็ยังมีความรู้สึกว่าไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่สิ่งหนึ่งที่มีก็คือความชอบในตัวน้องลิซ่าเหมือนกันทุกคน ฉะนั้นการจะได้เจอลิซ่าก็ต้องทำตามกฎตามระเบียบ บางคนมารอเป็นวันๆ แล้วเราเองไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่แบบคนอื่นเขาทำ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะต้องได้เจอ"

"เราก็บอกเขาว่าถ้าหนูอยากเจอ ก็ต้องทำเหมือนทุกคน ทำเหมือนแฟนคลับพี่ลิซ่าที่เขาอยากจะเจอ ก็ต้องไปต่อคิว ไปนั่งรอ หรือถ้าน้องอยากจะเจอจริงๆ วันหนึ่งน้องเต้นเก่งๆ ฝึกฝนตัวเอง แล้วถ้าโชคดีมีโอกาสพิเศษน้องอาจจะได้ร่วมงานกับพี่ลิซ่า อันนี้เป็นความฝันเรานะคะ(หัวเราะ) แต่ก็พยายามให้กำลังใจเขาอย่างนั้นว่า เต้นเก่งๆวันหนึ่งอาจจะมีช่องทางที่ได้เจอพี่ลิซ่า แล้วถ้าวันนั้นได้เจอและได้ถ่ายรูป เวลาใครถามเขาก็จะมีความภูมิใจว่าเขาได้เจอพี่ลิซ่างานนี้"

"แต่ว่าการที่เราได้โอกาสพิเศษจากผู้ใหญ่ที่สามารถเข้าไปได้ บางทีเราก็พูดลำบาก ถ้าคนถามว่าเจอพี่ลิซ่าหรือยัง แล้วน้องบอกว่าเจอแล้วค่ะ คนก็อาจจะอ้าว ไปเจอที่ไหน เราก็เลยบอกว่าอยากให้น้องทำตามกฎระเบียบ แล้วก็พยายามเข้าวันหนึ่งถ้าน้องได้ถ่ายรูปกับพี่ลิซ่านั่นแหละมันจะเป็นความภาคภูมิใจของเขาเอง"

เผยขอบคุณผู้ใหญ่ที่ติดต่อมา อยากให้ลูกเรียนรู้ถึงความอดทน และกฎกติกาสังคม
"มีติดต่อเข้ามาครั้งเดียว แต่เราก็ขอบคุณผู้ใหญ่ท่านนั้นจริงๆ ที่เห็นน้อง แล้วอยากจะพาน้องไปเจอ แต่ว่าเราก็อยากให้ลูกเรียนรู้ถึงความอดทน เรียนรู้ถึงกฎกติกาของสังคม"

กันดรามาที่อาจเข้ามาในอนาคต
"ใช่ จริงๆ ไม่ใช่โลกสวยต้องโน่นนี่ ไม่ใช่นะคะ เราก็เคยชื่นชอบดารา เราก็เคยไปดูคอนเสิร์ต เราก็เคยไปต่อคิวแล้วค่อยเข้าไป และเราก็อยากให้น้องรู้สึกว่าเวลาน้องทำอะไรน้องต้องทำเหมือนทุกๆ คนที่ชื่นชอบแบบน้องเหมือนกันแค่นั้นเอง"

ไม่ได้มองว่าตัดโอกาสน้องมะลิ อยากให้เจอและภูมิใจในความพยายาม
"ไม่ โบว์ว่าเมื่อวันนี้ไม่ได้เจอ ถ้าวันหนึ่งเขายังชอบลิซ่าต่อไปเรื่อยๆ เขาก็จะมีความรู้สึกว่า มันต้องมีไม่ได้ โอกาสใดโอกาสหนึ่งที่ลิซ่าจะมา และคนที่ฉันชื่นชอบนี่ มันก็จะทำให้น้องพยายามที่จะได้เจอ และถ้าเขาได้เจอมันก็จะเป็นความรู้สึกที่ว่า เนี่ยคือความพยายามของฉัน เนี่ยคือสิ่งที่ฉันตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อพี่ลิซ่า มันจะเป็นความทรงจำที่ดีกว่าการเดินลัดเลาะไปหลังเวทีแล้วได้ถ่ายรูปแต่โชว์ไม่ได้ หรือได้ถ่ายรูปแต่บอกใครไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่เอา"

"ถามว่ามะลิทราบเรื่องนี้ไหม เราไม่ได้บอกเขา(หัวเราะ) เราก็จะพยายามบอกเขาอย่างเดียวว่าอดทน ถ้าน้องเต้นเก่ง พยายามฝึกฝนน้องได้เจออยู่แล้ว ก็จะให้กำลังใจเขามากกว่า"

เผยถึงกรณีช็อตประทับใจ พามะลิไปเกาหลี ผ่านหน้าบ้านที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการ BLACKPINK House มะลิเข้าไปเคาะไหว้ ขอให้พี่ลิซ่าออกมา
"คือเราไม่ได้กดดันพี่ลิซ่านะคะ แต่ว่ามันเป็ความหวังดี คือพอดีเราไปแถวนั้น แล้วคนไทยที่อยู่เกาหลี เขาเป็นแฟนคลับมะลิ เขาบอกว่า มีบ้านสีชมพูที่อยู่ตรงนี้ ใครมาก็ต้องไปถ่ายรูปนะ และใครชอบBLACKPINK ต้องมาถ่ายรูปที่นี่ และด้วยความเป็นเด็ก เขาถามมะลิว่าไปหาพี่ลิซาไหม มะลิก็คิดว่าถ้าไปแล้วไปเคาะประตูเดี๋ยวพี่ลิซ่าก็คงออกมา เราก็แบบ มันเป็นโมเมนต์ที่ขำด้วย และอยากร้องไห้ด้วย เพราะเขาก็เคาะๆ ออกมาเถอะๆ พอไม่ออกมา เขาก็ก้มลงกราบ แล้วบอก ออกมา จงออกมา พี่ลิซ่าจงออกมา เราก็รู้สึกว่าเป็นช็อตประทับใจ และรู้สึกว่า เดี๋ยวสักวัน มันต้องเป็นวันของน้อง"