“เคน ธีรเดช” หายไปนาน หวนกลับมารับละคร-หนัง ไม่หวั่นถูกเปรียบเทียบความดัง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ไม่สนต้องเป็นพระเอก 100 ล้าน ไม่ได้อยู่ในจุดที่ทำงานเพื่อให้หนังประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ เปิดใจปล่อยบ้านที่ญี่ปุ่นให้เช่า อดีตเคยถูกด่าบ้า ซื้อทำไม
ห่างหายจากงานแสดงไปนานทีเดียว สำหรับพระเอกพ่อลูกสองอย่าง “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” ที่กลับมาคราวนี้มีทั้งละครและหนังที่กำลังจะเข้าโรงฉายในอีกไม่นานนี้ กับเรื่อง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก รักมั้ยลุง แต่หลายๆ คนก็จับเอาไปเปรียบเทียบกับหนังที่ประสบความสำเร็จมากของเจ้าตัวกับเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอ แต่หนุ่มเคนก็บอกว่าตนไม่ได้สนใจตรงนั้น ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องได้ร้อยล้าน เพราะตนแค่ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเท่านั้น
“การรับงานละครของผมก็คือถ้าหากเป็นงานที่ผมชอบ หรือเป็นบทที่ผมรู้สึกว่าถูกใจ ผมก็จะรับเล่นครับ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรื่องและบทมากกว่า นั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำครับ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องใหม่เพิ่งปล่อยทีเซอร์ออกมากระแสค่อนข้างดีเลยครับ เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ จะเข้าฉายแล้ว วันที่ 12 เดือนธันวาคมนี้ ซึ่งบทบาทของผมในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างอบอุ่น นุ่มๆ เป็นคนที่ค่อนข้างขี้กลัว และไม่กล้าที่จะออกไปเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ แถมยังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ มากกว่า จนกระทั่งเขาได้ไปเจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยเปิดโลกให้เขาครับ"
“ทำให้นึกถึงรถไฟฟ้ามาหานะเธอเหรอครับ จริงๆ ตอนที่เล่นเรื่องนั้นพระเอกชื่อลุง แต่สำหรับเรื่องที่กำลังจะฉายผมต้องเป็นลุงจริงๆ นางเอกเรียกตัวละครผมว่าลุง มันก็เลยอาจจะเชื่อมโยงกันได้ กดดันไหมว่าคนจะเอาไปเปรียบเทียบกัน ไม่เลยครับ คือผมไม่ได้รู้สึกว่าผมอยู่ในจุดที่จะต้องทำงานเพื่อให้หนังเรื่องนั้นเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ เพราะถ้าผมคิดอย่างนั้นผมก็คงจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
“อีกอย่างการที่ใครสักคนจะสามารถทำภาพยนตร์ให้ประสบความสำเร็จได้หลักร้อยล้านมันเป็นเรื่องที่ยากมากนะ ดังนั้นผมจึงอยากทำสิ่งที่ผมอยากทำมากกว่าเพื่อที่ผมจะได้สนุกไปกับมัน ส่วนเรื่องรายได้ก็แล้วแต่เลยครับ ผมถือว่ามันเป็นโอกาสที่ผมได้รับมากกว่าในการทำงาน ก็ไม่ได้ซีเรียสว่าเรื่องที่เราเล่นจะต้องได้ร้อยล้านซะทุกเรื่อง ผมไม่ได้สนใจเลยครับ”
เผยปล่อยบ้านที่ญี่ปุ่นให้คนเช่ามานานแล้ว แต่ไม่ได้คิดทำเป็นธุรกิจ
“จริงๆ บ้านที่ญี่ปุ่นเราให้เช่าอยู่แล้วครับ ให้เช่ามาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้บอกใครไง เพียงแต่ช่วงหลังๆ มานี้เหมือนคนเขาเริ่มรู้กันเอง เราก็เลยตัดสินใจเอามาลงเลยดีกว่าว่าเช่าได้นะ ตอนนี้ก็มีคนเข้าอยู่แล้วครับเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากว่ามันเป็นบริเวณใกล้ๆ กับบริเวณของสกีรีสอร์ต บ้านมันอยู่ในแอเรียที่คนเขาไปท่องเที่ยวกันอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ปล่อยให้เช่าทั้งสองหลังเลยครับ”
“ก็เจอปัญหาผู้เช่าบ้าง คือทางเราก็มีบริษัทที่อยู่ที่โน่น เขารับหน้าที่ดูแลให้สำหรับปล่อยบ้านให้เช่า แต่ไม่ใช่บริษัทของผมนะ ซึ่งอย่างที่บอกปัญหามันก็มี แต่ก็จะมีทีมที่เขาคอยดูแลให้อยู่หน้างานเหมือนกัน และถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นเขาก็นำเรื่องมาแจ้งเรา ส่วนเราก็แค่รับฟังรับทราบปัญหา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหาไม่ค่อยมีหรอกครับ เพราะคนที่มาเช่าจริงๆ เขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างรักบ้าน คืออาจจะมีปัญหาบ้างแต่ก็แค่ส่วนน้อย เหตุการณ์ที่ทำให้ทุกข์ใจไม่มีนะครับ (หัวเราะ) ถามว่ามีวางแผนจะสร้างเพิ่มไหม ตอนนี้ยังไม่มีครับ ไม่มีเงินแล้ว ต้องทำงาน”
“แต่ถามว่าอยากลงทุนเพิ่มไหม คือสิ่งที่ผมทำผมไม่เคยมองว่ามันจะเป็นการลงทุนหรือรายได้นะ มันเป็นความชอบของผมมากกว่า ผมซื้อบ้านหลังนี้ไว้ตั้งนานแล้วเป็น 10 กว่าปีแล้วมั้ง ซึ่งตอนที่ซื้อช่วงแรกๆ คนอื่นยังหาว่าผมบ้าหรือเปล่า ผมไปซื้อทำไม แต่บังเอิญว่าทุกวันนี้ที่ตรงนั้นมันกลายเป็นที่ฮิต และทุกคนก็มักจะพูดถึงแต่ประเทศญี่ปุ่น มันก็เลยกลายเป็นที่สนใจขึ้นมา แต่โดยส่วนตัวแล้วจริงๆ บ้านก็คือเราเอาไว้ใช้ เอาไว้พักผ่อนเวลาไปเที่ยวนั่นแหละ ส่วนเรื่องรายได้มันก็คือสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นตามมา เพียงแต่มันไม่ใช่รายได้หลัก หรือไม่ใช่อาชีพของผมก็เท่านั้นเอง”