เจอมรสุมข่าวฉาวเล่นงาน จนเป็นเหตุให้นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “พี สะเดิด” ต้องหอบหลักฐานร้อง ปอท. หลังมีคนออกมากล่าวหาว่าเจ้าตัวหาเงินทำบุญแต่เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง ล่าสุดหนุ่มพีได้มาเปิดใจในรายการ “คุยแซ่บshow” ทางช่อง one31 เคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเผยถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาเคยตกต่ำ จนต้องหันหน้าเข้าวัดถือศีล ทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ อีกทั้งโชคร้ายตรวจเจอมีเชื้อมะเร็งเต้านมก่อนจะหายได้ด้วยแรงศรัทธา
ล่าสุดไปแจ้งความ ปอท. ที่มีคนโพสต์ประมาณว่าสร้างโครงการเพื่อนำเงินไปสร้างวัดไผ่ แล้วนำเงินไปบำรุงศาสนาพุทธในต่างแดน แต่ความจริงคือใช้ชื่อโครงการบังหน้าหารายได้ให้ตัวเอง โดยเรียกเงินจากวัด เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?
“จริงๆ ผมทำกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องบุญมาด้วยความศรัทธา เพราะว่าชีวิตตัวเองดีขึ้นด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา แล้วครูบาอาจารย์ก็ฝากเอาไว้ อยากให้ทำ เพราะว่าในยุโรป ศาสนาเราจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต อาจารย์ฝากไว้ 7 ปี ซึ่งผมทำมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ทำในเอเชีย ผมก็ทำ ทำในเกาหลี หรือออสเตรียเลีย ก่อนที่จะไปยุโรป เสร็จแล้วพอจบโครงการ 7 ปี ก็มีอันนี้โพสต์ขึ้นมาในคอมเมนต์เพลงใหม่ของผม ซึ่งเขาก็ด่าๆ ผมก็ตั้งสติดู อ่าน ก็ไปแจ้งความไว้ เพราะว่ามันรุนแรง เพราะเราก็อยากปกป้องคนทำงาน โครงการเป็นของเรา ผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นดารา หรือหน่วยงานต่างๆ สายการบิน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงต่างๆ ที่ร่วมด้วย เขาจะเสื่อมเสียไปด้วย”
ในเนื้อหาคอมเมนต์รุนแรงขนาดไหน เขากล่าวหาเราว่าโกงเงินบริจาคหรอ?
“บอกว่าผมโกง ทำกิจกรรมโครงการถ่ายทอดศาสนา สืบสานวัฒนธรรมไปโกงเงินวัดมา จะโกงได้ไง เพราะเราไปผมแทบจะควักเนื้อด้วยซ้ำ เพราะว่าทีมงานมากมาย แล้วก็การทำกิจกรรมทุกครั้งล้วนแล้วแต่มีผู้ใหญ่อยู่ มีลายเซ็นผู้ใหญ่ มีหนังสือถูกต้องหมดทุกอย่าง ผมทำด้วยความศรัทธาจริงๆ”
แล้วคิดว่าต้นเหตุมาจากไหน?
“เรื่องการนินทามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เราก็พยายามนิ่ง จนอาจารย์บอกว่าให้อดทนนะ การทำกิจกรรมครั้งนี้มันจะมีแรงเสียดทานเยอะ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาคอมเมนต์”
พอไปแจ้งความมีโอกาสได้ติดต่อคนนี้ไหม หรือคนนี้ติดต่อกลับมาหาเราไหม?
“หลังจากที่ผมแจ้งความ 1 วัน คนคนนั้นเขาก็ออกมาขอโทษ เพราะว่ามีผู้หลัก ผู้ใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศให้ข้อมูลจริงสำหรับเขา แล้วก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราแทบจะไม่เคยทำอะไรที่เสื่อมเสีย”
แล้วเขาเอาข้อมูลอันเป็นเท็จมาจากไหน?
“มาจากบุคคลกลุ่มหนึ่งในต่างแดนที่ไม่ประสงค์ดีกับเรา จริงๆ ผมได้ข้อความเหล่านี้มาจากพี่ๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ว่าเขาพูดถึงเราในทางที่ไม่ดี แต่ผมก็ฟังหูไว้หู แล้วก็อดทน ขอให้มันผ่านไป นิ่งไว้ก่อน คือแจ้งความมีประเด็นก็เลยตั้งใจไปเพื่อที่จะปกป้องเพื่อนๆ พี่น้องที่ไปร่วมบุญกับเรา”
แล้วนอกจากที่เขาออกมาขอโทษ เขาได้รับผิดชอบในเรื่องอะไรอีกไหม?
“ถือว่าเป็นการรับผิดชอบที่เขาสำนึกได้ เขาก็สารภาพว่าเขาฟังมา แล้วเขาก็เชื่อเลย แล้วก็บุคคลคนนี้ก็เป็นที่นับหน้าถือตาของคนที่อยู่ต่างประเทศด้วย เป็นคนดีด้วย แล้วฟังมา ตีความไปเลยว่าเราไม่ดี พอถูกแก้ไขแล้ว เขาก็ขอโทษเราด้วยสัจจริง ก็ถือว่าจบด้วยดี เพราะว่าผมไม่มีเจตนาที่จะไปทำร้ายใคร แต่เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมันก็ต้องแก้ไขเป็นจุดๆ ไป”
เข็ดไหมกับการทำบุญ?
“ไม่เข็ดครับ ผมก็ยังทำ ผมเพิ่งกลับมาจากยุโรป และฝรั่งเศส เมื่อ 5-6 วันที่แล้ว หลังจากไปแจ้งความมามันก็ต้องดำเนินต่อ มันเหมือนเราตั้งปณิธานว่าเราศรัทธาตรงนี้ ครูบาอาจารย์ช่วยเรา ทำให้มีสติ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับผมอันแรกก็คือทำให้ผมมีสติ แล้วเราก็ได้ปัญญาจากการได้สัมผัสศาสนา นอกจากทำให้ตัวเองดีแล้วก็อยากตอบแทนแผ่นดิน และผู้คน”
ในช่วงหนึ่งชีวิตพีมีชื่อเสียงมาก แล้วมีช่วงที่ตกต่ำลงไปช่วงหนึ่ง เกิดอะไรขึ้น?
“เป็นช่วงที่เจอวิฤกติของชีวิต เหมือนวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเจอ บางคนอาจจะเจอหลายช่วง บางคนเจอช่วงเดียวแล้วเข็ดเลย อยากจะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง มันก็เป็นเหตุการณ์ในวัยรุ่นแค่นั้นเอง ตอนนั้นเคยเป็นนักร้องมาแล้ว แล้วเจอวิกฤติช่วงหนึ่ง เพราะว่าเที่ยวตามประสาวัยรุ่น เสร็จแล้วได้ไปเจอเพื่อนอยู่ในร้านเหล้า คุยกันเรื่องวัด แล้วก็ชวนกันไปวัด แล้วก็ได้ไปเจอครูบาอาจารย์ เขาก็ทักโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ว่าเป็นแบบนี้ๆ ไปปฏิบัติศีล 5 ดู เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ลองปฏิบัติดู 3 เดือน เห็นผลแน่นอน ถ้าไม่เห็นผล ชีวิตไม่ดีขึ้น ไม่ต้องกลับมาที่วัด ท่านก็ออกแนวผู้ชายๆ นักเลงหน่อย เราก็ทำได้หักดิบเลย เชื่อไหมช่วงนั้นออกอัลบั้ม2 ของแกรมมี่ เพลงมันดังขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันเราก็ประพฤติตัวใหม่ด้วย แล้วก็ทำงานอย่างที่ควรจะทำ ก็คือไปโปรโมตเพลง ขยันเต็มที่เลย”
แล้วเรื่องสาวๆ มีไหม?
“มีความอยาก ทุกอย่างมันเป็นความอยากหมด มันเป็นกิเลส มันก็มีเข้ามาในรูปแบบต่างๆ ของแฟนเพลงมีอยู่แล้ว มาในรูปแบบมาขอเรา มาจีบเราจะยกที่ ยกทางให้ ยกปั๊มน้ำมันให้ก็มี แต่ผมก็ปฏิเสธมันไม่ดีหรอก ก็พยายามอดทนที่จะก้าวผ่านไปให้ได้”
ตอนนั้นพีเคยป่วยเป็นโรคอะไร?
“ตอนนั้นมีก้อนเนื้อเกิดขึ้นที่นม 2 ข้าง ตอนแรกก็ไม่ได้ใส่ใจ ผมก็ไปทัวร์คอนเสิร์ต เมื่อก่อนใส่เสื้อยืดสีขาวตัวเดียว แล้วพอเหงื่อออกเยอะรู้สึกมันใหญ่ขึ้นมา ก็ไปหาหมอเช็กเลือดก็มีค่ามะเร็งเต้านม ไปตรวจ 3 ครั้งก็มีค่ามะเร็งขึ้น หมอเตรียมจะผ่า แต่ก็ไม่ได้ผ่า ก็ไปปรึกษาอาจารย์ที่เคยทักผมตอนนั้น มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ก็โทร.ไปถามท่านเป็นอะไรไหม ผมมีก้อนเนื้อ มีเชื้อมะเร็ง เขาบอกไม่เป็นอะไรหรอก ลองภาวนาดู แล้วก็ลองกินผัก มันไม่เป็นอะไรหรอก ระยะเวลาก็ 5-6 เดือนเหมือนกัน เวลาไปทัวร์คอนเสิร์ตต้องใช้เทปปิดเพื่อไม่ให้มันนูนขึ้นมา ก็ทำอย่างท่านบอกมันก็ดีขึ้น กลับไปตรวจก็ไม่มีแล้ว”
ล่าสุดไม่ต่อสัญญากับค่ายเก่า ออกมาเป็นนักร้องอิสระได้นานหรือยัง?
“4-5 เดือน กับค่ายเก่าทำงานมา 18 ปี”
น้อยใจค่ายเก่าหรือเปล่าถึงออกมา?
“ใจหายมากกว่าที่ออกมา เพราะว่าเราผูกพัน ก็เหมือนเป็นบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ผมอยู่เกือบครึ่งชีวิต พี่ๆ ที่อยู่ที่นี่ผูกพันกัน มันเป็นชีวิต ทุกคนทำงานด้วยความสุขไม่ได้มีความน้อยใจอะไรเลย ผู้ใหญ่ทุกคนยังเมตตา ยังให้งาน ทุกอย่างเหมือนปกติ แค่ไม่มีกระดาษแผ่นนึงเท่านั้นเอง”
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจมาเป็นศิลปินอิสระ?
“โตแล้วมั้งครับ อยากจะทำอะไรที่ค้างอยู่ในใจมานาน อยากจะเขียนเพลง สิ่งที่ตัวเองอยากคิด อยากเขียน อยากจะเล่นดนตรี อยากจะทำอย่างที่ตัวเองไม่อยากทำ”
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama