เมื่อพูดถึงหนังเกรด 3 ของฮ่องกง ภาพของความวาบหวิว สไตล์หนังเรตอาร์ก็ปรากฏชัดขึ้นมาทันที
แต่จริง ๆ แล้ว หนังเกรด 3 หรือ Catagory III (แคททากอรี ทรี) ก็คือหนังที่ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ลงไปดูทั้งหมด บางเรื่องอาจจะเต็มไปด้วยภาพโป๊, บางเรื่องมีการพ่นคำพูดหยาบคายกันทั้งเรื่อง หรือบางครั้งเป็นหนังการเมืองที่พูดเรื่องจริงจัง และบ้างเรื่องก็เน้นภาพที่โหดเหี้ยมเกินที่เด็ก ๆ จะรับชมได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงหนังประเภทหลังเป็นหลัก และนี่ก็คือเหล่าหนังเกรด 3 สายโหด แห่งฮ่องกง
The Story of Ricky เป็นหนังเกรด 3 ระดับตำนานเรื่องแรก ๆ ของวงการ เพราะสร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับกฏหมายจัดหมวดภาพยนตร์ของฮ่องกงที่ถูกตราขึ้นเมื่อร่วม 30 ปีก่อนนั่นเอง
หนังเกี่ยวกับคนคุกเรื่องนี้เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ต้องโทษในคดีร้ายแรง จนต้องย้ายสมโนครัวเข้ามาอยู่ในเรือนจำ และต้องต่อสู้เอาตัวรอดในหมู่นักโทษสุดโหดที่แต่คนมีวิทยายุทธกันอย่างกับหนังกำลังภายในก็ว่าได้
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดัง หนังเต็มไปด้วยภาพโหด ๆ มากมาย การต่อสู้ถึงเลือดถึงเนื้อ อวัยวะหลุดออกมากันเป็นชิ้น ๆ แต่อย่างน้อยภาพในหนังก็โหดแบบการ์ตูน และความไม่ค่อยสมจริงของเทคนิคพิเศษก็คงพอจะให้หนังไม่ได้ดูรุนแรงเกินไป
หนังเกรด 3 รุ่นบุกเบิกอีกเรื่องก็คือ Dr. Lamb (ด็อกเตอร์ แลมป์) หนังฆาตกรสยองที่สร้างมาจากคดีฆ่าต่อเนื่องดังในฮ่องกง หนังได้ เยิ่นต๊ะหัว มาแสดงเป็นคนขับรถแท็กซี่ ที่ในตอนค่ำคืนจะกลายเป็นฆากรสุดโหด คอยหาเหยื่อเป็นสาว ๆ ก็เลยมีช่องให้หนังได้ใส่ทั้งฉากฆ่ากันแบบโหด ๆ และยังมีฉากข่มขืนให้ชมสลับฉากกันด้วย Dr. Lamb ก็เหมือนกับหนังเกรด 3 หลาย ๆ เรื่องคือมีความรุนแรงพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ระดับเรต X หรือ NC 17 ของฝั่งอเมริกัน ถือว่าเป็นหนังเรด R แก่ ๆ เท่านั้น ซึ่งหนังก็ประสบความสำเร็จจนทำให้ เยิ่นต๊ะหัว กลายเป็นอีกสัญลักษณ์ของหนังเกรด 3 ไปเลย
หนังเกรด 3 สายโหดอีกเรื่องก็คือ หนังชุด “จับคนมาทำเชื้อโรค” หนังเกี่ยวกับเรื่องราวในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กับข้อกล่าวหาที่ว่ากองทัพญี่ปุ่นจับคนจีนมาทดลองทางวิทยาศาสตร์ ด้วยเนื้อหาทำนองนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนังเอื้อให้ใส่ฉากโหด ๆ เข้ามาแน่นเรื่องอย่างแน่นอน
จับคนมาทำเชื้อโรค โดนหลายๆ ประเทศแบน แน่นอนว่ารวมถึงญี่ปุ่นด้วย แต่ตัวหนังทำเงินให้กับผู้สร้างได้พอสมควร จนมีการสร้างภาคต่อตามมาอีกหลายตอน รวมถึงหนังภาค 4 ที่เล่าเรื่องเหตุสังหารโหดในนานกิงด้วย
สุดท้ายถ้าพูดถึงหนังเกรด 3 ที่เน้นความเหี้ยมเกรียมก็คงต้องพูดถึงตำนานของ ซาลาเปาเนื้อคน และ แอนโทนี หว่อง หนังที่ดัดแปลงจากเหตุฆาตกรรมจริงในฮ่องกง ดังสุด ๆ ในปี 1994
หนังเต็มไปด้วยฉากโหด ๆ มากมาย และยังมีตัวละครเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่องที่ แอนโทนี หว่อง แสดงออกมาได้โรคจิตแบบสุด ๆ จนทำให้เขาได้เล่นเป็นตัวละครประมาณนี้อีกหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นใน อีโบล่า ซินโดรม หนังเกี่ยวกับคนโรคจิตที่พยายามไปเอาเชื้ออีโบล่าในแอฟริกันมาแพร่ในฮ่องกง
หรือ Taxi Hunter ที่คนไทยน่าจะดูแล้วอินได้เช่นเดียวกับคนฮ่องกง เพราะหนังเล่าเรื่องของหนุ่มใหญ่นักล่าและฆ่าแท็กซี หลังภรรยาของเค้าป่วยตาย หลังไปรักษาไม่ทัน เพราะไม่มีแท็กซีไปส่งซักคัน
ปัจจุบัน แอนโทนี หว่อง กลายเป็นดาราขายฝีมือ และเน้นเล่นหนังคุณภาพไปแล้ว แต่เขาก็ยังแวะเวียนมาสู่โลกแห่งความโหดของหนังเกรด 3 ให้แฟน ๆ หายคิดถึงอยู่เป็นระยะ