ตายมา 3 ปีแล้วแต่ครอบครัวของ “สิงห์ sqweez animal” ยังทำใจไม่ได้ แม่ทำบุญให้ทุกวันและยังร้องไห้เสมอ พี่ชายโหยหาแค่ฝันถึงก็ดีใจ ตามล่าดำเนินคดีโจรขโมยเครื่องดนตรีสิงห์ ลั่นมีคุณค่าทางจิตใจ
ถึงแม้ "สิงห์ sqweez animal" หรือ สิงห์ มุสิกพงศ์ ลูกชาย "วีระ มุสิกพงศ์" จะเสียชีวิตมา 3 ปีแล้ว แต่ครอบครัวมุสิกพงศ์ยังคงอยู่ในอากาศโศกเศร้า ล่าสุดก็ได้ทำบุญครบรอบการจากไปของสิงห์ที่วัดสระเกศ ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนๆ ในวงการเดินทางมาร่วมทำบุญด้วย อาทิ วิน sqweez animal, ใหญ่ โมโนโทน, ปลาทู ดิฐวัฒน์ อิสสระ, แบงค์ ศรัณย์ ชัยปาณี พร้อมด้วยครอบครัวของอดีตแฟนสาว "เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์" ซึ่งเจ้าตัวได้นำพวงมาลัยที่เตรียมมาวางไว้หน้ากรอบรูปของนักร้องหนุ่ม และขณะที่กำลังกรวดน้ำ "ศรีวิไล มุสิกพงศ์" คุณแม่ของสิงห์ก็ได้น้ำตาคลอออกมา
โดย 2 พี่น้อง "แชมป์ วีรพัทน์ มุสิกพงศ์" และ "เสือ วีรวิชย์ มุสิกพงศ์" ได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงบรรยากาศการทำบุญวันนี้ รวมไปถึงประเด็นที่ถูกคนขับรถขโมยอุปกรณ์ดนตรีอาทิกีตาร์ 7 ตัว รวมไปพระพุทธและพระเครื่อง หลวงปู่ทวดรวมๆ แล้ว 40 กว่าองค์ได้ถูกขโมยไปจากบ้านพักที่จัดตั้งเป็นมูลนิธิ ย่านดอนเมือง มูลค่านับล้าน โดยโจรยังลอยนวลอยู่
วันนี้มาทำบุญครบรอบ 3 ปีการจากไปของสิงห์
แชมป์ : “ก็ครบรอบสิงห์เสียชีวิต 3 ปีนะครับ แต่ว่าทุกๆปีเราก็จะจัดอยู่แล้ว เราจะมีจัดทั้งวันเกิด แล้วก็วันที่เสียชีวิตปีละ 2 ครั้งครับ วันนี้ก็ครบ 3 ปีพอดีครับ บรรยากาศก็มีเพื่อนๆ ญาติๆ แล้วก็แฟนเพลงของสิงห์ก็มาทำบุญกันตลอดครับ”
แฟนเพลงก็ยังคงคิดถึงสิงห์อยู่ตลอด
แชมป์ : “ครับๆ เท่าที่เห็นจากวิน (วิน ศิริวงศ์ ผู้ร่วมวง สควีซ แอนิมอล) หรือ ติ๊ก (คนใกล้ชิด) เล่าให้ฟังเอง ทุกคนก็ยังคิดถึงสิงห์ ส่วนคนอยู่ที่บ้านก็คิดถึงอยู่แล้วครับ(ยิ้ม) น้องๆแฟนคลับก็จะเป็นน้องๆกลุ่มเดิมที่ยังมาอยู่ครับ”
ผ่านมา 3 ปีแต่ก็ยังไม่ชิน แม่ยังร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นคนเล่นดนตรี
แชมป์ : “มันก็เปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้นนะครับ ก็คิดถึงตลอดทุกวันนี้คุณแม่เดินห้างแล้วเวลามีวงมาเล่นที่ห้าง คุณแม่ก็ยังร้องไห้อยู่ครับ ตัวเราเองเป็นพี่ขาดน้องไปคนหนึ่งก็คิดถึงครับ บางทีฝันยังอยากฝันถึงเลยครับ นานๆ ทีจะฝัน ฝันทีก็ตื่นมาดีใจ ก็รู้ว่ามันไม่มีอะไร ก็คือฝันถึงเพราะคิดถึง ถามว่าในฝันเป็นยังไง ก็ฝันปกติครับ เหมือนได้ทำกิจกรรมอะไรกับเขาไปทำโน่นทำนี่ด้วยกัน แต่บางครั้งในฝันก็รู้อยู่ว่าตอนนี้ไม่ได้มีเขาแล้วนะนี่เป็นฝัน แต่ก็รู้สึกว่าอย่าเพิ่งตื่นเลย ก็แปลกนะนานแค่ไหนก็ยังไม่ชินครับ เกิดมามีกัน 3 คน ตอนนี้เหลืออยู่ 2 มันก็ไม่ชินครับ”
แม่ทำบุญให้ทุกวัน
แชมป์ : “ตามหลักพระพุทธศาสนาก็ต้องไปอยู่แล้วครับ ผมก็ไม่ได้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเท่าไหร่อยู่แล้วแต่เรื่องทำบุญคือคุณแม่จะมาวัดสระเกศแทบทุกวันอยู่แล้ว มาสาธยายพระไตรปิฎก มาสวดทำวัตรค่ำแทบจะทุกวัน ไม่หยุดอยู่แล้ว เรื่องทำบุญนี่ไม่ได้ห่วงเลย คุณแม่ทำอยู่แล้ว”
ส่วนกรณีที่เครื่องเล่นดนตรีของ “สิงห์” ได้หายไปจากห้องเก็บของนั้น ครอบครัวสิงห์เผยว่า ขณะนี้ได้ตามคืนมาได้บางส่วนแล้ว
แชมป์ : “ก็มีเครื่องดนตรีของสิงห์ทั้งหมดเลยครับ กีตาร์ทุกอย่าง ตอนแรกเราไม่ทราบเพราะห้องนี่จะถูกปิดไว้เป็นห้องเก็บของของสิงห์เขาที่มูลนิธิ อย่างที่เรียนไว้ตอนแรกคือแม้แต่คุณแม่เองก็ไม่ได้เข้าไปเพราะจะสะเทือนใจ จนกระทั่งมีของอื่นที่บ้านหาย เราก็เริ่มเอะใจว่าของสิงห์จะเป็นยังไงบ้าง เข้าไปดูปรากฏว่าหายหมดเลย กีตาร์ที่มีอยู่ทั้งหมด 7-8 ตัว ด้วยความที่ว่าผมกับเสือไม่ได้เล่นดนตรี ก็เลยไม่ค่อยทราบรายละเอียดของเท่าไหร่ แต่ดูแล้วคือมันหายไปหมดเลยเหลืออยู่แต่ตัวเดียว ซึ่งดูรู้ว่าเป็นตัวที่สิงห์สะสม ก็เหลือตัวนั้นแต่ตัวเดียวที่เหลือหายหมดเลย ไม่ได้มีการงัดใดๆทั้งสิ้น”
เสือ : “แต่มีการเข้าไปทำความสะอาดอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ได้เข้าไปทุกอาทิตย์ แต่พอเจอของหายก็เลยเข้าไปดูห้องนั้น ก็เห็นของหายไปหมดเลยทั้งแอมป์ คีย์บอร์ด กีต้าร์ ที่เขาสะสมไว้หายไปหมด คือบ้านนั้นไม่มีใครอยู่เลย แต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน”
เสือ : “ตำรวจดำเนินเรื่องอยู่ครับ โชคดีช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีคนเอากีต้าร์ไปซ่อม ซึ่งเป็นคนที่เขาเคยซ่อมกีต้าร์ของสิงห์อยู่ เขาก็บอกว่านี้คือกีต้าร์พี่สิงห์ ซึ่งพอเขารู้เขาก็รีบเอากีต้าร์มาคืนเลย ก็เลยแจ้งแบะแสเพิ่มว่าเขาซื้อมาจากที่นี่ ตอนนี้เลยได้คืนมาบางส่วน”
แชมป์ : “ตามจากตรงนั้นน่าจะเป็นคนในบ้าน น่าจะเป็นคนขับรถเขาเอาไปขาย อย่างที่เสือบอกเมื่อสักครู่เขาเอาไปขายแล้วคนที่ซ่อมกีต้าร์เป็นคนเดียวที่เคยทำให้สิงห์ คนที่เขาซื้อไปเขารีบติดต่อกลับมาเลย เขาน่ารักมากๆ เขาบอกว่ายินดีที่จะเอามาคืน เราก็เริ่มได้เบาะแสจากตรงนั้น ตอนแรกเรามืด 8 ด้าน ตอนนี้ได้คืนมา 6 ตัว แล้วครับ เหลือที่ยังไม่ได้คืนคือกีต้าร์ 2 ตัว แอมป์อีกไม่รู้ว่ากี่ตัว คีย์บอร์ด มีเบสด้วย ส่วนมูลค่าเท่าไหร่ ผมไม่ทราบจริงๆ”
แชมป์ : “มูลค่าทางจิตใจเยอะครับ เพราะตอนแรกคุณแม่ตั้งใจทำเป็นมูลนิธิแล้วยังไม่มีโอกาศทำ เพราะตั้งแต่เปิดมายังไม่มีคนทำงาน มีแต่คุณแม่ที่ให้เงินทุนการศึกษา ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไร ตอนแรกตั้งใจจะทำเป็นห้องโชว์กีต้าร์ของสิงห์”
พระของ “วีระ มุสิกพงษ์” พ่อของสิงห์ก็หาย
แชมป์ : “ใช่ครับ เท่าที่นับได้ ประมาณ 40 กว่าองค์ โชคดีว่าเราถ่ายรูปนั้นไว้ เราเอาภาพมาเทียบกับโทรศัพท์ คนที่เอาไปเขาฉลาดมาก พอเขาหยิบไปเขาจะเลื่อนพระองค์อื่นเข้ามาแทนที่ เขาหยิบไปเรื่อยๆ เพื่อเอาไปขาย เราก็ไปถามร้านที่เขาเอาไปขาย ทางร้านบอกได้แม้กระทั้งทะเบียนรถที่บ้าน ก็คือคนเดียวกัน”
ความคืบหน้าคดี
เสือ : “แจ้งความไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ทางตำรวจก็ดำเนินคดีอยู่ มีสืบสวนไปเรื่อยๆ เรามีหลักฐานเพิ่มเติมตรงที่ คนที่เอากีต้าร์มาคืน เราก็แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ทางนั้นเขาก็ทำรูปคดี”
แชมป์ : “ขั้นตอนแรกเขาจับตัวคนร้าย ตอนแรกที่ไม่มีของกลาง เขาแจ้งได้แค่ว่าบุกรุกในยามวิกาลเพราะมีวันหนึ่งเขาเข้ามาที่บ้านเพราะว่าเขาปั๊มกุญแจไว้ แล้วคนที่บ้านจับได้ก็ดำเนินคดีได้แค่ข้อหานั้น จนเมื่อล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคนที่ผ่านมาที่มีกีตาร์ตัวนี้โผล่ขึ้นมาก็ดำเนินคดีเพิ่ม เพราะมีของกลางก็จะมัดตัวมากขึ้น”
เสือ : “แต่ยังไม่ได้มีหลักฐานมัดตัวได้มากขนาดนั้น”
แชมป์ : “ก็เพิ่งมีกีตาร์ตัวนี้ที่มัดตัวและโยงไปถึงร้านที่เขาเอาไปขาย ก็ยังลอยนวล แต่ความหมายคือถ้าจับอีกครั้งก็น่าจะจับได้ ตำรวจก็น่าจะทำสำนวนต่อ”
คนร้ายมีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับล้าน
แชมป์ : “ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาเอาเงินไปทำอะไรเหมือนกัน เคยแอบเห็นสมุดบัญชีของเขามีเงินเข้าออกหลายล้าน แต่เราก็พูดไม่ได้ว่าเขาทำอะไร เพราะเท่าที่ตำรวจแจ้งมาคือเขาไม่ได้มีประวัติ”
เสือ : “เขามาทำงานขับรถให้ที่บ้านก็เป็นปี 2 ปี แต่จริงๆ คือเขาอยู่ในบริเวณบ้านอยู่แล้ว แต่บริเวณห้องที่ของหายเขาไม่มีกุญแจ และไม่เคยให้เขาเข้าไปอยู่แล้วด้วยเขาคงแอบงัดเข้าไป”
ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากได้ของคืนเพราะมีมูลค่าทางจิตใจ
แชมป์ : “ที่ผ่านมาก็เป็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สิงคอยตามให้เยอะมากๆ คอยป้อนข้อมูลให้ตำรวจเขาทำต่อ ทางครอบครัวก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทางเราอยากได้ของคืน เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ”
เสือ : “เราอยากได้ของๆ พี่ชายคืนมา”
แชมป์ : “เรายินดีที่จะซื้อคืนโดยไม่ดำเนินคดีสำหรับคนที่ซื้อไปโดยไม่ทราบ ผมยินดีที่จะซื้อคืนคุณแม่ก็ได้พูดไว้แล้วว่ายินดี เพราะมันสำคัญกับที่บ้านมากๆ ส่วนคนที่ขโมยไปก็อยากจะบอกว่า บาปกรรมมีจริง ตอนนี้ก็มีการระวังกันมากขึ้นล่าสุดก็ติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม คงทำอะไรเพิ่มมากกว่านั้นไม่ได้ และก็คงต้องไว้ใจคนให้น้อยลงหน่อยครับ”