นักแสดงแอ็กชัน “เทอร์รี ครูว์ส” ได้รับเสียงชมอย่างมากมาย เมื่อเขาตัดสินใจไปให้การต่อคณะกรรมาธิการยุติธรรม ของวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับการตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศได้เช่นเดียวกัน
เทอร์รี ครูว์ส กล่าวระหว่างให้การว่าคนอาจจะไม่เชื่อว่า นักแสดงชายที่ดูเข้มแข็งล่ำสันอย่างเขา ก็ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศเช่นเดียวกัน โดยดาราวัย 49 ปี ไม่ได้พูดชื่อของคู่กรณีออกมาในการขึ้นให้การคราวนี้ แต่ก็น่าจะเป็น อดัม เวนิท เอเยนต์ระดับขาใหญ่ของฮอลลีวูด ที่ครูว์ส ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องร้องทั้งตัวของคู่กรณี และบริษัท WME (William Morris Endeavor) ที่เป็นต้นสังกัดของอีกฝ่ายไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง
เหตุการณ์ที่ครูว์ส บอกว่า เขาถูกลวนลามนั้น เกิดขึ้นในปาร์ตีเมื่อปี 2016 โดยเขาได้พบกับคู่กรณี และกำลังจะทักทายด้วยการจับมือกัน แต่อีกฝ่ายกลับ “บีบไปที่องคชาตจนผมต้องถอยหนี แต่เขาก็กลับทำอีก แล้วก็ยังหัวเราะชอบใจ” แม้สุดท้ายคำฟ้องของครูว์ส จะไร้ผล เพราะเหตุผลเรื่องการหมดอายุความ แต่เวนิท ก็ถูกพักงาน และลดต่ำแหน่งไปในที่สุด
ฝ่ายของเวนิท ได้ยื่นเอกสารเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว โดยเขากล่าวว่า สิ่งที่ตนเองทำไม่ได้ทำให้ครูว์ส เสียหายใดๆ และยังไม่ได้เป็นการกระทำที่เข้าข่าย “การกระทำทางเพศ”
แต่ครูว์ส ก็เชื่อว่า การตัดสินใจพูดเพื่อปกป้องตัวเองครั้งนั้น ทำให้เขาสูญเสียโอกาสทางการแสดงไปในที่สุด “ผมเคยแสดง The Expendables กับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน อยู่ 3 ภาค แล้วโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนั้น ก็โทรศัพท์มาหาผู้จัดการของผม บอกว่า ถ้าอยากแสดงหนังภาค 4 อยู่ ก็ให้ถอนฟ้อง แต่ผมไม่ยอม มันก็คงเป็นปัญหาขึ้นมา”
“พวกล่วงละเมิดมักจะปกป้องคนแบบเดียวกัน ผมจึงตัดสินใจว่า ผมจะต้องทำอะไรซักบ้าง... ผมจะยอมปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไป? หรือลุกขึ้นมาพูด?” ซึ่งสุดท้าย ครูว์ส ก็เลือกที่จะยืนขึ้น เพื่อต่อสู้กับพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ แม้จะทำให้เขาสูญเสียโอกาสทางอาชีพไปบ้างก็ตาม
ดาราหนุ่มใหญ่เป็นที่รู้จักทั้งจากกล้ามมัดโต หน้าตาดูที่เหี้ยมเกรียม แต่กลับเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งเขายังเชื่อว่า ในบางกรณี ผู้ชายอาจจะพบกับปัญหาในการต่อสู้กับพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศมากกว่าผู้หญิง เพราะความเป็น “ผู้ชาย” ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะต่อสู้เพื่อตัวเอง “เหมือนตอนที่ผมพูดเรื่องนี้ออกไป มีคนบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ที่ผมโดนไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศ แต่เป็นการล้อกันเล่นเท่านั้นเอง”
“แต่ผมบอกได้เลยว่าการล้อเล่นของคนคนหนึ่ง อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอับอาย และผมก็เลือกที่จะพูดเรื่องนี้ เลือกที่จะแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเหยื่อนับล้านๆ ทั่วโลก ซึ่งผมรู้ครับว่า มันยากมากที่จะลุกขึ้นพูด ผมรู้ว่า มันคือความน่าอับอายที่มาพร้อมกับการถูกล่วงละเมิด ซึ่งผมก็รู้สึกเช่นเดียวกัน”
คณะกรรมาธิการยุติธรรมได้รับฟังความเห็นของหลายฝ่ายเพื่อออกกฎหมายปกป้องสิทธิของเหยื่อในคดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยกฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มเติมการปกป้องสิทธิของผู้ตกเป็นเหยื่อ เช่น อำนวยความสะดวกเรื่องการเก็บหลักฐาน และอุปกรณ์ในการตรวจร่างกายหลังถูกข่มขืน อย่างที่ ครูว์ส บอกว่า “กฎหมายนี้จะช่วยให้เหยื่อได้เก็บหลักฐานเอาไว้ก่อน เพื่อทำใจจากบาดแผลสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจแจ้งความให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ”