“ไทย ฟินเทค” แถลงเสียหายมหาศาล 10 ล้าน “หมู พิมพ์ผกา” ประจานแอบอ้างใช้รูป “นาย ณภัทร” อ้างมีทุนจดทะเบียน 200 ล้าน มีศีลธรรม ดำเนินธุรกิจถูกต้อง บอกมีการเซ็นสัญญา โอนเงินเกือบ 6 ล้านให้แต่เคลียร์เรื่องคิวไม่ลงตัว รอ 2 เดือนไม่มีอะไรคืบ ธุรกิจเสียโอกาส ตัดสินใจแคนเซิล รับคู่กรณีโอนเงินคืน หักออก 5 แสน ส่วนบริษัทปลดป้ายโฆษณา ริบเก็บโบรชัวร์กว่าหมื่น แต่คาดยังตกหล่น โวยดำเนินธุรกิจต่อไม่ได้ ขาดความน่าเชื่อถือ ด้านหมูสวนทันควัน หนังคนละม้วน
จากกรณีที่ “หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” โพสต์ข้อความที่ระบุว่าลูกชาย “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ถูกเว็บไซต์ www.thishop.com เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์สำหรับนักศึกษา นำภาพโปสเตอร์และโฆษณาต่างๆ มาแอบอ้าง อีกทั้งยังมีภาพลูกชายบนโบรชัวร์ทำการตลาดกับนักศึกษา ทั้งที่ลูกชายไม่ได้เซ็นสัญญา หากพบอีกจะดำเนินการตามกฎหมาย
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. “มิสเตอร์จอห์นสัน วู” รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ “ไทย ฟินเทค” ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ภายใต้เว็บไซต์ www.thishop.com (ดิสช็อป) เปิดแถลงการณ์เรียกร้องชื่อเสียงที่เสียหายกลับคืนมา โดยมี “นายปิยะ บุญชู” ทนายความร่วมให้ข้อมูล ยืนยันการกระทำหมู พิมพ์ผกา สร้างความเสียหายทางธุรกิจมูลค่ามหาศาล กว่า 10 ล้าน
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “จากที่เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2561 หมู พิมพ์ผกา กับ นาย ณภัทร ได้เผยแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดียจนสำนักข่าวหลายสำนักนำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยข้อความบางส่วนที่บอกว่าจะยกเลิกใช้ภาพตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. จนถึงวันที่ 14 มิ.ย. แล้วมีการพูดว่านาย ณภัทร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ www.thishop.com พร้อมบอกว่าถ้าไม่เลิกนำชื่อนายไปทำให้นักศึกษาหลงเชื่อเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนขอนักศึกษาอย่าหลงเชื่อ แล้วก็ขอให้คนที่มีหลักฐานส่งหลักฐานมา เพื่อจะนำไปดำเนินทางกฎหมายนำไปฟ้องร้องทางกฎหมาย ทั้งนี้ข้อความทั้งหมดนี้ดังกล่าวไม่เป็นความจริงทุกประการ บริษัทจึงขอชี้แจงให้กับประชาชนและทุกฝ่ายรับรู้ถึงรายละเอียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้”
“วันที่ 29 มีนาคม 2561 บริษัทของเราได้ทำสัญญาว่าจ้างกับบริษัท เก้าโมงเช้า จำกัด โดยมีพิมพ์ผกา เป็นกรรมการ และผู้มีอำนาจเป็นคู่สัญญา เพื่อจัดหานายณภัทรเป็นนายแบบโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับ thishop.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของบริษัท ในเงื่อนไขที่ว่าจะถ่ายรูปแบบโฆษณา ภาพนิ่ง ภาพยนตร์โฆษณาบันทึกเสียง เป็นต้น ทั้งหมดเป็นสัญญาระยะเวลา 1 ปี เรามีการทำสัญญาว่าจ้างชัดเจน กับบริษัทเก้าโมงเช้าเป็นผู้มีอำนาจ เราเซ็นในวันที่ 29 มีนาคม 2561 ในสัญญามีเวลา 1 ปีในราคา 6,900,000 บาท บริษัทเรามีการโอนเงินให้กับบริษัท เก้าโมงเช้าอย่างเป็นทางการเรียบร้อย และมีหลักฐานชัดเจน”
“หลังจากนั้นเนื่องจากว่า นาย ณภัทร ไม่มีคิวว่างในการถ่ายภาพโฆษณาให้บริษัท หมู พิมพ์ผกา จึงมอบรูปภาพของนาย ณภัทรให้บริษัทเราเพื่อที่จะทำการผลิตชิ้นงานโฆษณา ก็เลยเอารูปภาพนี้มาผลิตเป็นป้ายโฆษณาหรือโบชัวร์ต่างๆ โอเคอันนี้ไม่มีปัญหา มาถึงที่ปลายเดือน พ.ค 2561 ทั้งสองฝ่ายมีการเจรจาว่าจะยกเลิกสัญญากันเนื่องจากสาเหตุมีบางประการและมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน อย่างเช่นการจัดสรรคิวของนาย ณภัทร ไม่ตรงกับความต้องการของบริษัท และหมู พิมพ์ผกา มีความคิดเห็นไม่ตรงกันในการออกแบบโฆษณาต่างๆ ของบริษัท”
“และสุดท้ายหมู พิมพ์ผกา มีแนะนำบริษัทเอเจนซี่ ที่ทำโฆษณาให้กับบริษัทเรา ซึ่งบริษัทเราตรวจสอบแล้วปรากฏว่าราคาเอเจนซี่ที่หมู พิมพ์ผกาแนะนำมาราคาสูงกว่าราคาเอเจนซี่ที่เราใช้อยู่หลายเท่า สุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายมีความตกลงที่จะยกเลิกสัญญากันในปลายเดือน พ.ค. 2561 ถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันด้วยดีในการยกเลิกสัญญากัน ก็หลังจากนั้นบริษัทเก้าโมงเช้ามีการคืนเงินให้บริษัทเราเป็นจำนวนเงิน 5,800,000 บาท และมีหลักฐานในการคืนเงิน ว่าได้คืนเงินให้กับบริษัท และมีการหักเงินจำนวน 500,000 บาท ซึ่งบริษัทเรายินยอมจะโดนหัก จำนวนเงิน 500,000 นั้นไป ถือเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องรูปภาพของนาย ณภัทรในช่วงเวลานั้น”
“หลังจากยกเลิกสัญญาแล้ว ทางบริษัทก็พยายามที่จะถอดป้ายโฆษณาและรวบรวมชิ้นงานโฆษณาทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนาย ณภัทรนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียในวันที่ 14 มิ.ย.61 ของน.ส.พิมพ์ผกา เสียงสมบูรณ์ และ นาย ณภัทร ที่ลงข้อความในโซเชียลมีเดียไม่เป็นความจริง เพราะว่าเราเคยมีการเซ็นสัญญามาก่อน ไม่ได้เป็นการแอบอ้างแต่อย่างใด”
“ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ วันที่ 14 มิ.ย.61 น.ส.พิมพ์ผกาและนาย ณภัทรได้ลงในโซเชียลมีเดีย ว่าเราแอบอ้างนำรูปนี้ไปหลอกลวงลูกค้า ทำให้ลูกค้าหลงเชื่อ เพื่อที่จะซื้อสินค้าราคาแพง ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเราค่อนข้างมั่นใจว่ารูปภาพตัวนี้ในวันที่ 14 มิ.ย.61 มันไม่มีปรากฏสู่สายตาสาธารณชนแล้ว เพราะทางบริษัทเราได้ถอดป้ายนี้นานแล้ว ซึ่งข้อความที่ถูกเผยแพร่ออกมาไม่เป็นความจริง ซึ่งบริษัทค่อนข้างมั่นใจในหลักฐานชัดเจนว่าเรามีจ้างบริษัทผู้รับเหมาบริษัทโฆษณาที่จะถอดป้ายนี้ลงตามเวลานั้น ซึ่งบริษัทผู้รับเหมาก็ได้ส่งรูปภาพให้กับบริษัทเราชัดเจนว่ามีการถอดป้ายนี้ลงแล้ว และมีการเปลี่ยนป้ายใหม่ด้วย”
“ทั้งหมดนี้บริษัทเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับจากที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เราได้พยายามที่จะติดต่อเพื่อที่จะพูดคุยกันกับน.ส.พิมพ์ผกา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เราก็อยากให้น.ส.พิมพ์ผกาออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องนี้นะครับว่าเราไม่ได้แอบอ้าง รวมถึงบางคอมเมนต์ผ่านโซเชียลมีเดียของน.ส.พิมพ์ผกาว่าบริษัทเราแอบอ้าง บริษัททำให้ลูกค้าหลงเชื่อ ทำให้ลูกค้าผ่อนชำระสินค้าในราคาแพง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆ จากทางน.ส.พิมพ์ผกาจนถึงปัจจุบันนี้ครับ”
“ทีนี้ผมในฐานะตัวแทนของบริษัทก็อยากจะชี้แจงว่าบริษัทเราเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างไทยกับฮ่องกง มีการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการตามกฎหมาย มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ปัจจุบันนี้ก็ดำเนินธุรกิจทางด้านอีคอมเมิร์ซ การชำระเงินทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ มีการจัดส่งโลจิสติก มีระบบการส่งเสริมระบบโลจิสติก จริงๆ มีธุรกิจหลายอย่างนะครับ ซึ่งเว็บไซต์ที่ชื่อ thishop.com หรือแอปพลิเคชั่นที่ชื่อ thishop เป็นแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าให้กับบริษัท ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ก็ให้บริการกับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม และเว็บไซต์นี้ได้ผ่านมาตรฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยจากนานาชาติ ซึ่งก็ได้ลิขสิทธิ์หลายๆ อย่าง แสดงว่าเว็บไซต์ของเราเป็นเว็บไซต์ที่ปลอดภัยเป็นอย่างสูง และสุดท้ายนี่ผมขอยืนยันด้วยเกียรติว่าบริษัทเราไม่เคยเจตนาที่จะเจตนาแอบอ้างใช้สิทธิใดๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายนะครับ”
บอกสั่งเก็บโบรชัวร์ทันที แต่พิมพ์แจกเป็นหมื่น สั่งพนักงานห้ามแจก ห้ามใช้ แต่คาดยังมีตกหล่น
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “ยังมีบางภาพอย่างเช่นโบรชัวร์เราก็พยายามเก็บนะครับ แต่โบรชัวร์ทำแจกไปเป็นหมื่น เป็นพัน เราก็พยายามจะเก็บ บริษัทเราค่อนข้างชัดเจนว่าเราจะสั่งให้ทีมงานยกเลิกใช้ภาพที่มีรูปนาย ณภัทรตั้งแต่เวลานั้นชัดเจน แต่อาจจะมีบางชิ้นส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ ในหน้างานนั้นๆ เราสั่งประมาณปลายเดือน พ.ค.ครับ หลังยกเลิกสัญญาก็สั่งทันทีเลยครับ”
ทนาย : “ป้ายที่มีการนำไปลงมีเพียงป้ายเดียวนะครับ และเมื่อเราเซ็นสัญญายกเลิกกันแล้ว ทางบริษัทได้มีการถอนป้ายทันทีนะครับ ดังนั้นยืนยันได้เลยว่าช่วงเวลาที่ทีการลงข้อความไม่มีป้ายดังกล่าวจริงๆ”
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “จริงๆ อย่างที่ผมพูดว่าโบรชัวร์มันกระจายไปเยอะมากครับ เราก็พยายามเก็บทุกชิ้น ทุกอันกลับมา แต่อาจจะมีบางส่วนที่เล็กๆ น้อยๆ ที่หลงเหลืออยู่ อันนั้นเราไม่แน่ใจ แต่เรามีคำสั่งชัดเจนว่าห้ามแจกห้ามใช้”
ทนาย : “ซึ่งโบรชัวร์นี่เราได้มีการพยายามอย่างเต็มความสามารถในการที่จะเก็บรวบรวมกลับมาแล้วนะครับ”
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “โบรชัวร์มันกระจายไปมาก เราพยายามเก็บทุกชิ้นกลับมา แต่มันก็คงมีหลงเหลือเล็กน้อยที่อยู่หน้างาน แต่เรามีคำสั่งชัดเจนว่าห้ามแจก ห้ามใช้”
ไม่แถลงก่อนหน้าเพราะพยายามพูดคุยเจรจา แต่ไม่ได้รับความร่ว่มมือ
ทนาย : “ในข้อนี้เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเราได้มีการพยายามพูดคุยกับทางคุณพิมพ์ผกา ให้มีความเข้าใจว่าสิ่งที่คุณเข้าใจมันไม่ได้เป็นความจริง แต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือในการเจรจา”
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “เราไม่สามารถติดต่อคุณหมู เราอยากให้ถามคุณหมูว่าทำไมไม่กล้ามาเจรจากันต่อหน้า เลยปิดช่องทางในการเจรจาประนีประนอมกัน ยินดีที่จะเจรจากันเพื่อที่จะหาทางออกด้วยกัน ตั้งแต่มีเรื่องคืนยังไม่เคยคุยกับคุณหมูโดยตรงเป็นการคุยผ่านทางผู้ช่วย แต่สิ่งที่เราอยากได้คืออยากคุยกับแม่หมูโดยตรงเพื่อที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยกัน ส่วนเรื่องที่เขาก็รอว่าเมื่อไหร่เราจะขอคิวถ่ายรูป คงเป็นการเข้าใจของผม สิ่งที่เราเข้าใจคือรอคิวจากเขา”
เผยทำสัญญาโอนเงินให้ตั้งแต่เดือนเม.ย. แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า เสียเวลาไป 2 เดือน เสียต้นทุน เสียโอกาส ถูกปฏิเสธกี่ครั้งโบ้ยถามทีมงาน
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “ เรื่องรูปนั้นเป็นลิขสิทธิ์ของคนอื่นห้ามนำไปใช้ ถามว่าได้คุยกันมั้ย อันนี้ผมต้องขอไปดูในสัญญาอีกทีครับ เพราะเป็นทีมงานที่ประสานงานกับทีมของแม่หมู เรามีการเซ็นสัญญาปีต่อปี พอเราโอนเงินให้เดือน เม.ย. แต่กว่าจะมีคิว เป็นเดือนมิ.ย. เวลาที่ว่างไป 2 เดือน เท่ากับเวลาเราถูกกินไป 2 เดือน ในการทำธุรกิจของเรามีการลงทุนมีการจ้างกับตัวศิลปิน มันเป็นการเสียต้นทุน เสียโอกาส ถามว่าเราขอคิวน้องไปแล้วถูกปฏิเสธกี่ครั้ง ก็ต้องถามทีมงานครับ”
ยันตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย หมูโอนเงินคืนให้กว่า 5 ล้าน หักไป 5 แสน
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “เราทั้งสองฝ่ายมีการคุยกันตลอด แต่ว่าตกลงไม่ได้ จึงตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญา ตอนยกเลิกสัญญามีโอกาสได้คุยกับพี่หมู วันนั้นทางพี่หมูจะคืนเงินให้เรา 5,800,000 บาท หลังจากพี่หมูตัดไป 500,000 บาท การหักเงินไม่ได้มีปัญหา เราไม่พอใจตรงข้อความ และข้อความที่เขาลงในโซเชียลมีเดีย อันนั้นไม่ได้ใช้แล้ว ส่วนโบรชัวร์ที่เหลืออยู่ เราก็พยายามส่งคนไปเก็บ แต่เรามีข้อห้ามชัดเจนว่าห้ามใช้”
มีหลักฐานสั่งพนักงานเก็บโบรชัวร์ทิ้ง
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “เราก็ได้มีการสั่งให้ทีมงานเอาไปเก็บเอาไปทิ้ง ตรงนี้มีหลักฐานเหมือนกัน”
ขู่หากหมูยังโพสต์อีก จะเก็บเป็นหลักฐานนำไปดำเนินคดี
ทนาย : “เรามีการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของค่าเสียหาย เรากำลังดูว่าค่าเสียหายของบริษัทที่ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ รวมถึงด้านความเชื่อ เสียหายเป็นเงินจำนวนเงินเท่าไหร่ ส่วนการดำเนินคดีอาญา ตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับว่าหลังจากวันที่ 14 มิถุนายนมีการกระทำความผิดซ้ำขึ้นมาอีกหรือไม่ มีการโพสต์ข้อความในลักษณะที่เป็นแบบที่เคยโพสต์มาก่อนหรือไม่ ถ้าเกิดยังมีอยู่เราก็จะนำไปเพื่อดำเนินคดีต่อไป”
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “สิ่งที่เราอยากได้จากเขา คืออย่างน้อยที่สุดอยากให้ทางเขาชี้แจงข้อเท็จจริง ทางบริษัทเราค่อนข้างได้รับความเสียหายมหาศาลจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินธุรกิจเลย เนื่องจากความน่าเชื่อถือของเราถูกลดลงไปอย่างมาก อยากให้แม่หมูออกมาชี้แจงเราไม่ได้ถ้าเราเป็นบริษัทที่ถูกต้องได้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง”
“ถามว่าทำไมไม่ขึ้นชี้แจงว่าน้องนายไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอนที่เราเซ็นสัญญา ก็อยากจะประกาศ นาย ณภัทร เสียงสมบุญ เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัท ก็พยายามเรียนเชิญแม่หมู กับ นาย ณภัทร เข้ามาจัดพื้นที่เล็กๆ เซ็นสัญญา ก็ได้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญา โอนเงิน จนปัจจุบันนี้ทั้งบริษัท ยังไม่ได้เจอหน้าคุณแม่หมู กับนาย ณภัทร เลยครับ ถ้าเขาเคลียร์เรื่องการฟ้องร้องก็ถือว่าเราสงวนสิทธิ์ครับ”
ความต้องการของบริษัท อยากให้หมูประกาศลงไอจี หรือแถลงชี้แจงว่าได้ยกเลิกสัญญาแล้ว
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีครับ แต่ว่าตามที่หลายสื่อนำข่าวนี้ไปเผยแพร่ต่อนะครับ ซึ่งทำให้บริษัทของเราเสียหายมาก ไม่ใช่แค่โซเชียลมีเดีย ผมก็อยากให้แม่หมูมาชี้แจงประกาศและชี้แจงตามสื่อที่เผยแพร่ออกไป เพราะว่าพอเขาโพสต์ออกมาก็มีสื่อที่พูดตามหลายๆ สื่อ ทำให้บริษัทเสียหายมาก”
เผยความเสียหาย 10 ล้าน บริษัทหยุดทำงาน ทำการตลาดไม่ได้ ลูกค้า พาร์ตเนอร์ไม่ยอมรับ
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ วันที่ 14 มิ.ย.มีข่าวออกไป ทางบริษัทต้องหยุดทำงานเลย ทำการตลาดไม่ได้ ลูกค้าไม่ยอมรับ รวมถึงพาร์ตเนอร์และซัปพลายเออร์ ก็มีข้อสงสัยว่าบริษัทนี้ของจริงรึเปล่า เราก็ต้องไปชี้แจง ไปอธิบาย ทุกวันนี้เราดำเนินธุรกิจไม่ได้ และชื่อเสียงได้รับความเสียหายมากที่สุด ตอนนี้บริษัทถูกมองว่าแอบอ้างนำภาพและชื่อเสียงของน้องนายมาหากิน”
“สาเหตุที่ตัดสินใจแถลงข่าวในวันนี้ เราก็พยายามที่จะติดต่อเพื่อคุยและแก้ปัญหาด้วยกัน หาทางออกด้วยกัน ส่วนกรณีวันที่ 13 มิ.ย. มีการใช้โบรชัวร์เป็นรูปหน้านายตามมหาวิทยาลัย เรามีการสั่งชัดเจนว่าห้ามทีมงานใช้ และไม่ได้ปรากฎว่ามีการใช้นะครับ อาจจะบางชิ้นที่หลงเหลืออยู่หน้างาน คือน้องนายมีบุคลิกดี มีชื่อเสียงอาจจะมีทีมงานที่คิดว่าโบรชัวร์นี้ได้ใช้ประโยชน์ ทำให้เขาเกิดยอดได้”
ทนาย : “วันที่ 13 มิ.ย.ที่มีการนำภาพไปใช้อยู่ ตรงนี้เรายังไม่พบข้อมูลตรงนั้น ที่บอกว่ามีการนำภาพไปใช้ เรายังไม่ทราบข้อมูลว่านำภาพไปใช้ แต่เท่าที่เราตรวจสอบ มีคำสั่งว่าห้ามใช้ภาพ เราตรวจสอบมาอย่างเข้มงวด และยังไม่พบว่ามีการกระทำดังกล่าว ถ้ามีหลักฐานก็มาแสดงกัน ซึ่งผมเชื่อว่าหลักฐานมันเกิดขึ้นได้หลายอย่าง เราจะไม่ขอพูดต่อประเด็นนี้ ซึ่งถ้ามี ก็ขออนุญาตตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน ประเด็นคือทางแม่หมูลงข้อความว่าให้นักศึกษาหรือคนที่เห็นภาพ ส่งข้อมูลเข้ามาเลยขอตรวจสอบข้อมูลตรงนี้ก่อนว่า เป็นความจริงหรือไม่”
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “เรื่องกรอบเวลาในการเจรจา เบื้องตนมีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับตัวแทน กับแม่หมูไม่เคยคุยหรือสนทนากันอย่างเป็นทางการ คือเราคุยกับผู้ช่วยครับ เหตุที่ไม่คุยกับทางผู้ช่วย ทางเราอยากคุยให้จบทีเดียวเพื่อประนีประนอม แต่ไม่สามารถเปิดการพูดคุยได้จนมาถึงวันแถลงข่าว ส่วนอะไรทำให้เขาไม่อยากคุยกับเราก็ไม่ทราบครับ”
ทนาย : “ในส่วนนี้เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเรามีการรวบรวมพยานหลักฐาน และรอโอกาสที่จะพูดคุย ถ้าเกิดมีการพูดคุยกันเรื่องดำเนินคดีเราก็จะมาหาหรือกันว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่ ถ้าเกิดการเจรจาประนีประนอมมีข้อยุติที่ดี ผมเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายก็จะแฮปปี้”
มิสเตอร์จอห์นสัน วู : “สิ่งที่อยากพูดเราไปฝากไปทางผู้ช่วยคุณหมูแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกับทางคุณหมูโดยตรง (ถ้าหมูออกมาเคลียร์จะโอเค?) ต้องคุยกันให้ทั้งสองฝ่ายรับได้ครับ”
“ผมขอยืนยันอีกทีว่าบริษัทเราไม่ได้แอบอ้าง เรามีการเซ็นสัญญากันมาก่อน แล้วเรื่องการใช้ภาพ เป็นช่วงที่เรามีสัญญาด้วยกัน แล้วบริษัทเป็นบริษัทที่ซื่อตรง มีจริยธรรม ยุติธรรม ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ฝากถึงลูกค้าเราไม่ได้เป็นบริษัทที่แอบอ้างอย่างที่เป็นข่าว”
ซึ่งภายหลังไทย ฟินเทคแถลงจบ “หมู พิมพ์ผกา” ก็โพสต์ซัดกลับทันทีว่างงในงง และงานนี้เป็นหนังคนละม้วน เตรียมแถลงโต้ในเร็วๆ นี้
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)