แกรมมี่ลดงาน “ตูน” ระหว่างพัก 1 เดือนเหตุเส้นเสียงอักเสบ หวั่นหายไม่ทันตารางงานแต่ไม่อยากกดดัน เชื่อมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ขนาดกระดูกต้นคอแล่บ ยังหายเองได้ เปิดใจ “บิ๊กแอส” ฟ้องกลับ “มิวสิคบั๊กส์” แฉกลับอาจไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์
จากกรณีที่ “ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย ตรวจพบว่าเส้นเสียงมีอาการอักเสบ บวมแดงจนต้องสั่งพักงานรอดูอาการ 1 เดือน สำหรับเรื่องนี้ “นิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล” ผู้บริหารค่ายเพลงจีนี่ เรคคอร์ด และรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการผลิตเเละโปรโมชั่นเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) ได้เปิดใจในงาน Hotwave Music Awards 2018 ยอมรับว่าเป็นอาการเรื้อรังมานาน เป็นอาการสะสม สิ่งที่ทำได้คือรับงานให้น้อยลง
“ก็เจ็บจริง เล่นจริง แล้วจริงๆ แล้วก็ต้องบอกว่ามันมาจากการตรากตรำทำงานหนัก แล้ววิธีการร้องของพี่ตูนก็ไม่มีการประนีประนอมในทุกการโชว์ ทุกการแสดง พี่ตูนเขาใส่เต็ม ทีนี้อาการนี้มันเป็นอาการที่เรื้อรังมานานแล้วนะครับ แล้วจริงๆไปถามได้ เป็นเกือบทุกศิลปิน โอม ค็อกเทลก็เป็น มันอยู่ที่จังหวะว่าเขามีโอกาสพักผ่อนมั้ย ซึ่งตูนไม่มีโอกาสพักผ่อน เพราะว่างานค่อนข้างเยอะ”
“จริงๆ เขาก็คิดว่าตอนไปวิ่งจะได้พักผ่อน ปรากฏว่ามันหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำไป การใช้เสียงมันเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเนี่ย ตอนนี้สิ่งที่เราห่วงมากกว่านี้ก็คือว่ากลัวว่าเวลาที่เราเบรกไปอาจจะยังไม่พอด้วยซ้ำ”
“อาการมันสะสม นักร้องทุกคนจะเป็นแบบนี้ ดา เอ็นโดรฟิน ก็เป็นเหมือนกัน ผ่าตัดก็ได้ แต่ว่าต้องพักไปปีหนึ่งเลย ร้องเพลงไม่ได้ แล้วเสียงอาจจะเปลี่ยน ตอนนี้ก็เลือกจะใช้วิธีพักผ่อน เผอิญตอนนี้กำลังทำอัลบั้มอยู่ด้วย สิ่งที่เรากำลังเลือกก็คือเลือกที่จะเสียเวลาตรงนี้ ไม่งั้นจะต้องไปเสียหนักกว่าเดิม ก็คือต้องไปหยุดเป็นปีเลย ผลลัพธ์อาจจะรุนแรงมากกว่าปกติครับ”
“จริงๆ แล้วในขั้นตอนการรักษา จีเอ็มเอ็มแกรมมี่เรามีหน่วยเหมือนเป็นหลักสูตรวอยซ์แคร์ แต่นั้นเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะที่มีงานจ้างเยอะแยะขนาดนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเขายังมีอาชีพแบบนี้ แล้วมีงานเยอะขนาดนี้ เพราะคนที่มีงานโชว์เยอะขนาดนี้ โอกาสที่จะเข้ารับการรักษาอย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ ถึงจะเขารักษามันก็จะกลับมาอีกได้ ถ้างานมันเข้ามาประดังประเดมากๆ สิ่งที่ต้องทำก็คือว่า รับงานให้น้อยลงครับ”
หนึ่งเดือนห้ามใช้เสียง บอกเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับนักร้องทุกคน ปัดตอบเรื่องรายได้ บอกสิ่งที่สูญเสียไปคือเวลาเข้าห้องอัด และงานใหม่ที่สะดุด
“หนึ่งเดือนไม่ให้เขาใช้เรื่องเสียง พักผ่อนเป็นหลักเพื่อให้มันฮีลตัวเอง ยามีหรือเปล่าอันนี้เราไม่แน่ใจ แต่ว่าคือต้องดูแลเรื่องสุขภาพ แล้วก็ไม่ใช้เสียง ไม่ไปทำร้ายเส้นเสียง การพูดก็ต้องระวังไม่พูดเยอะ ถามว่าการพักหนึ่งเดือนมันพอมั้ย จริงๆ ก็พักมานานแล้วนะ จะสังเกตว่าตูนเบรกไปแล้วเดือนหนึ่ง ไปต่างประเทศเดือนหนึ่ง ก่อนหน้านั้นคือเบรกไปวิ่ง นั้นคือการรักษาเสียง เขาคิดว่าตอนนั้นเขาจะได้พัก แล้วกลับมาก็อัดเสียง แต่ปรากฏว่าหนักกว่าเดิม ก็เป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับอาชีพนักร้อง มันเป็นเรื่องซีเรียสมากๆ เป็นเรื่องใหญ่มากๆ เสียงมันคือเครื่องมือทำมาหากินของเขาเลยก็ว่าได้”
“ก็ถือว่ากะทันหันครับ จริงๆ คิดว่าน่าจะหายแล้ว แต่ไม่หาย (สูญเสียรายรับไปเท่าไหร่?) พอดีมันอยู่ในแผนที่จะไม่ได้รับงานเท่าไหร่อยู่แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่อัดเสียง สิ่งที่สูญเสียก็คือเวลาที่จะไปทำงานเพลง ที่ต้องเข้าห้องอัด มันต้องขยับออกไป งานใหม่ก็สะดุด”
ผ่าตัดหรือไม่อยู่ที่ดุลยพินิจของหมอ เชื่อมีสิ่งมหัศจรรย์คุ้มครอง ขนาดกระดูกต้นคอแล่บ ยังหายเอง หวังว่าครั้งนี้ก็จะหายด้วย
“อันนั้นก็อยู่ในดุลพินิจของหมอครับ จริงๆ บางคนเขาเป็นแล้วเขาก็ทน แล้วพี่ตูนเองเขามีสิ่งมหัศจรรย์คุ้มครองอยู่แล้ว ไอกระดูกต้นคอที่มันแล่บออกมาก แล้วอยู่ดีๆ มันก็หายเอง เราหวังว่าอันนี้มันจะหายเองด้วย(หัวเราะ) ตอนนั้นมันหนักกว่านี้อีกนะ มันร้ายแรงมาก ทุกคนก็เซอร์ไพรส์ว่ามันหายได้ยังไง”
“เราไม่ได้คุยกับเขา เพราะไม่อยากให้เขาใช้เสียง(หัวเราะ) ไลน์ก็ไม่คุย คือเราไม่รบกวนเขาเลยดีกว่า ไม่รบกวนสมาธิ ให้เขามีความสุขกับการวิ่ง แต่วิ่งก็อย่าพูดเยอะแล้วกัน เรื่องไม่ให้สัมภาษณ์ก็คงจะเกี่ยว เขาคงไม่อยากจะพูดอธิบายเยอะ ให้หมอพูดแทนดีกว่า”
เชื่อตูนกลับมาวิ่งแค่แจม เหมือนการพักผ่อน
“เขามีประสบการณ์วิ่งมาทั่วประเทศแล้ว คงรู้ว่าการวิ่งครั้งนี้คือการพักผ่อนจริงๆ ไม่เหมือนคราวที่แล้วที่ต้องพูดคุยกับคนที่มาบริจาคด้วย ร้องเพลงกับเด็กๆ เชียร์อัพทุกอย่างใช้ร่างกายทุกส่วน พูดปลอบประโลมทีมงานทุกคนซึ่งมีการใช้เสียงทุกอณู แต่ครั้งนี้เขาไปแจม ไม่ใช่ภารกิจของเขา ไปวิ่งเพื่อพักผ่อนจริงๆ ทุกวันนี้เขายังวิ่งจากบ้านมาออฟฟิศเลย”
“ถ้าเกิดเขาดีขึ้นก็คงต้องปรับเปลี่ยนการรับงาน ประคบประหงม อยู่ในขั้นตอนที่ไม่โหม ค่อยเป็นค่อยไป คือเรามีโรดแมปอยู่แล้วว่าหลังจากนี้จะทำอะไร รวมไปถึงคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย ซึ่งก็ต้องขยับออกไปก่อน ยังสรุปไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ต้องรอให้เขาหายดีก่อน เท่าที่คุยกับพี่อ๊อฟ บิ๊กแอส แล้วก็รู้สึกเป็นห่วงกลัวจะหายไม่ทันตารางงานที่เราวางไว้ แต่เราก็ไม่กดดัน ไม่ไปวุ่นวายกับเขา”
บอก “บิ๊กแอส” ฟ้องกลับมิวสิคบั๊กส์ หลังจากที่ถูกอีกฝ่ายฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์นำเพลง “ก่อนตาย” ไปใช้ ผู้บริหารแกรมมี่เปิดใจเลยเวลาเคลียร์ แฉอีกฝ่ายอาจไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์
“มันเลยคำว่าเคลียร์ไปนานมากแล้ว เจตนาการฟ้องร้องของเขาไม่ปกติ เคลียร์เท่าไหร่ก็ไม่อยู่ในจุดที่ดี จึงไม่มีการไกล่เกลี่ยแล้ว กลายเป็นว่าตอนนี้วงบิ๊กแอสฟ้องเขากลับ เพราะพบอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่าเขาอาจจะไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามที่เขาพยายามทำ”
“เรื่องคนที่เขียนเพลงไม่ได้ค่าลิขสิทธิ์จากเขา อันนั้นผมไม่ทราบจริงๆ เราต้องรอทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นตามกระบวนการทางกฎหมาย ตอนนี้แบ่งเป็น 2 คดี คือเขาฟ้องเรา และเราฟ้องเขากลับ เขามีหน้าที่มาแก้ต่างในสิ่งที่เราฟ้องกลับ แต่ผมคงพูดรายละเอียดลึกๆ ไม่ได้ เพราะมันส่งผลต่อรูปคดี เรายืนอยู่บนความเป็นจริงว่าจะสู้เขายังไง วงเข้าใจและรู้สึกว่าตลอดว่าเขาคือเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง เพราะเขาเขียนเองกับมือ แต่ดีลกันไว้อย่างไรในสมัยนั้นเราไม่ทราบจริงๆ ที่ผ่านมาวงพยายามไม่ไปวุ่นวาย แต่สิ่งที่ทำวันนี้คือเขาพยายามปกป้องตัวเอง”
“ถามว่าเขาติดต่อมาไกล่เกลี่ยมั้ย เราไม่ทราบจริงๆ ว่ามีติดต่อมาหรือเปล่า รู้แต่ว่าบิ๊กแอสได้ทำการฟ้องกลับแล้ว เป็นคนละคดีแต่มีความเกี่ยวโยงกัน”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)