“ตูน บอดี้สแลม” ถ่อมตน ทำดีไม่เคยหวังรางวัล ยันปิดยอดโครงการก้าวฯ นำเงินมากกว่า 1.4 พันล้านบาทมอบให้ 11 รพ. ตามความตั้งใจเดิม อยากทำประโยชน์เพื่อสังคม อยากให้เกิดมิติใหม่ที่มากกว่าเงินบริจาค
ปิดยอดโครงการก้าวคนละก้าวไปอย่างงดงามและสมบูรณ์ งานนี้ “ตูน บอดีสแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย เผยว่าอยากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมบริจาค ล่าสุดได้นำเงินมากกว่า 1.4 พันล้านบาทมอบให้ 11 รพ. เรียบร้อยแล้ว ส่วนอนาคตจะมีโครงการอะไรอีกหรือไม่ให้ติดตาม และยืนยันว่าตนไม่ได้ทำดีเพราะหวังรางวัล
“เมื่อ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เราปิดยอดโครงการก้าวคนละก้าว เราได้เงินมากกว่า 1,400 ล้านบาท เป็นยอดรวม อยากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ออกมาช่วยกันให้ได้จำนวนเงินมากขนาดนี้ ได้จำนวนเงินเพื่อนำไปช่วยต่อยอดและช่วยชีวิตได้อีกหลายๆ ชีวิต การที่เราออกมาทำตรงนี้กัน เราไม่ได้คิดว่าเราอยากจะได้อะไร เป็นรางวัลติดมือ หรืออยากจะมาเดินสายรับรางวัล รางวัลที่เราได้มาเป็นรางวัลของทุกคน ไม่ใช่รางวัลของเราคนเดียว”
“เราคิดว่าเราทำในสิ่งที่เราทำได้ที่มันน่าจะเป็นประโยชน์ เมื่อมีคนร้องขอ เมื่อมีคนอยากให้เราช่วยเหลือ เราก็ทำมันอย่างที่เราสามารถทำได้ในแบบของเรา จริงๆ เรามองว่าตัวเรามีอะไรพอที่ช่วยตรงนั้นได้อย่างเต็มที่ เราไม่ได้มีเงินทองเยอะพอที่จะไปบริจาคได้ทุกที่ เราไม่ได้รวยขนาดนั้น สิ่งที่เรามีคือเสียงเล็กๆ ที่เราพอจะสื่อสาร จากต้นทางที่ต้องการความช่วยเหลือไปถึงปลายทางคือคนไทยทุกคนได้ เราเลยคิดว่าเราอยากจะทำวิธีการนี้ให้เต็มที่ เราไม่ได้อยากได้แค่เงินบริจาค แต่เราทำเพราะอยากให้เกิดมิติอื่นที่เป็นประโยชน์ด้วย”
นำเงิน 1.4 ล้านบริจาคให้ 11 โรงพยาบาลตามความตั้งใจเดิม
“ผมคิดว่าทุกคนตั้งใจบริจาคเพื่อช่วย 11 โรงพยาบาลที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก เราก็คงนำไปช่วยตามความตั้งใจเดิม ตามที่ทุกคนบริจาคตั้งใจ ไม่ว่าจะให้เท่าไหร่ เราก็อยากให้กับ 11 โรงพยาบาลนี้ เป็นความตั้งใจแรกที่คนร่วมกันบริจาค ผมคิดว่าอย่างนั้น โดยยอดแรกประมาณ 1,300 ล้านบาทเราได้ให้ไปแล้วเมื่อประมาณมีนาคมที่ผ่านมา และยอดเพิ่มเติมประมาณ 100 กว่าล้าน เดี๋ยวจะมีการกระจายตามไปให้ 11 โรงพยาบาล”
“ซึ่งตอนนี้บัญชีนี้ถูกปิดไปเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นบัญชีของรพ.พระมงกุฎฯ คือเราอยากให้มันมีเดตไลน์หน่อย และมองว่า 6-7 เดือนหลังจากที่เราจบโครงการก้าวคนละก้าว น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม แต่ผมคิดว่าทุกคนที่อยากจะช่วยเหลือหรือบริจาค ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ หรือ 11 โรงพยาบาลนี้ หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดของตัวเอง หรือประจำอำเภอของตัวเอง ก็สามารถทำได้เลย ทุกคนทำเลย ทำในแบบของตัวเอง ทำในส่วนเล็กๆ ของตัวเองที่ทุกคนคิดคำนวณแล้วว่าเราจะเป็นประโยชน์กับสิ่งที่อยู่ข้างตัวเรายังไง อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลก็ได้ อาจจะเป็นแค่ครอบครัว สังคม ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน มีอะไรให้เราช่วยเหลือ ก็ไปทำประโยชน์ ผมว่าตรงนี้เราไปทำได้เลย”
อยากทำบุญกับตนก็ยินดี อยากทำประโยชน์ตลอด อยากให้เกิดมิติใหม่มากกว่าเงินบริจาค
“ถ้าคนอยากทำบุญกับผมก็ได้เลย ยังไงก็ได้ แล้วแต่ คืออย่างที่เราบอก ว่าเราอยากจะทำอะไรที่มันเกิดมิติมากกว่าเงินบริจาค โอเคเงินบริจาคเหมือนเป็นการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนที่ปลายเหตุ ซึ่งมันมีความต้องการอยู่จริง ก็ต้องการที่ไปสนับสนุนส่วนนั้นอย่างเร่งด่วนจริง แต่ในระยะที่ยั่งยืน อย่างเรื่องโรงพยาบาลที่เราทำ มันอาจจะแก้ได้ตั้งแต่ต้นทางคือสุขภาพของตัวเอง”
“เลยเป็นที่มาว่าเราอยากทำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย การวิ่ง เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงต้นทาง ก่อนที่จะให้คุณหมอคุณพยาบาลดูแล ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดูแลได้อย่างทั่วถึงหรือเปล่า เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมหรือเปล่า เรามาดูแลต้นทางก่อนดีกว่า เราอยากให้งานที่เราทำ และโครงการที่เราทำมันได้มากกว่ามิติของการบริจาคเงินช่วย แต่สุดแล้ว แต่ถ้าตัวเราจะเป็นประโยชน์กับใครก็อยากทำ”
“ถามว่าจะมีโครงการแบบนี้อีกมั้ย แบบนี้คือการวิ่งจากใต้ไปเหนือ คือเราไม่รู้หรอกว่าวิธีการมันเป็นยังไง ตัวผมเองตั้งใจว่าหากตัวผมเองสามารถทำประโยชน์กับใครได้ ผมก็อยากทำไปตลอด”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)