xs
xsm
sm
md
lg

อื้อหือ “อั๋น” ทิ้งระเบิด สมัครใจลาออกจากผู้ประกาศช่อง GMM25 เพราะมีการเปลี่ยนแปลงภายใน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทำเต็มที่แต่อาจดีไม่พอ “อั๋น ภูวนาท” แจง สมัครใจลาออกจากผู้ประกาศช่อง GMM25 เอง ไม่เกี่ยว “เจ๊ฉอด” บอกไม่ได้โดนบีบออก แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบเพราะมีการเปลี่ยนแปลงภายใน เป็นการตัดสินใจร่วมกันกับกลุ่มผู้บริหาร ลั่นเป็นเรื่องดีเทลที่พูดยาก

โพสต์ประกาศอำลาหน้าจอในฐานะผู้ประกาศข่าวช่อง GMM25 งานนี้ทำหลายฝ่ายมองว่า “อั๋น ภูวนาท คุนผลิน” ลาออกไปอยู่กับ “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ซึ่งมีความสนิทสนมกันเต็มตัวรึเปล่า ล่าสุดอั๋นก็เผยในงานเปิดตัว DPU X: Craft Your Future ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ยันเป็นการสมัครใจลาออกเอง ไม่มีการบีบออก โดยเป็นการแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้บริหารส่วนหนึ่ง

“ผมว่ามันก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จริงๆ มันก็จะเป็นการรวบรวมของกลุ่มประโยคสวยๆ แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงของทิศทาง ของไดเร็กชั่นของข่าว ของช่อง ที่ทางผู้ใหญ่มองว่ามันน่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แล้วก็อะไรกันต่างๆ แล้วก็อาจจะมีบางส่วนที่ไม่เหมาะกับเรา หรืออาจจะมีคนที่เหมาะกับไดเร็กชั่นใหม่มากกว่าเรา ก็คิดว่างั้นเราก็เปิดโอกาสให้คนที่อาจจะทำได้ในไดเร็กชั่นนั้นตามที่เขาคาดหวังแบบนั้นเข้ามาทำ ลองดูดีกว่า”

“ถามว่าเป็นเพราะเปลี่ยนผู้บริหารมั้ย ผมว่าจริงๆ การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมว่าทุกอย่างในโลกโดยเฉพาะสื่อ แล้วก็ข่าว แล้วรายการทีวีด้วย ทุกรายการทั้งหมดเลย ถ้าเรารู้สึกว่าเราอยู่เฉยๆ เมื่อไหร่ หรือว่าอยู่ตัว คุณแพ้เลย มันไม่มีคำว่าอยู่ตัว วันนี้มันใช่ แต่ถ้าทำแบบเดิมซ้ำวันพรุ่งนี้คุณเสร็จแล้ว คุณตายเลย ไม่มีทางที่ทำแบบเดิม แล้วพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้เลย มันต้องเปลี่ยนอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าไดเร็กชั่นมันมีการเปลี่ยนแปลงมั้ย มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เพียงแต่ว่า การเปลี่ยนแปลงแบบที่เปลี่ยนเลย หรือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้”

ทำเต็มที่แต่อาจยังดีไม่พอ เป็นเรื่องของดีเทลที่พูดยาก
“คือจริงๆ แล้วก็ไม่เชิงว่าไม่อยากทำนะ ผมคิดว่าผมก็ทำเต็มที่แล้ว ถ้าหากว่ามันยังดีไม่พอก็คงดีไม่พอ (หัวเราะ) พูดยากมากเลย เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของดีเทล คือเปลี่ยนแปลงใหม่ มันยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าการเปลี่ยนแปลงใหม่จะออกมาเป็นในรูปแบบใด ผมก็ตอบยาก แต่คิดว่าเขาคงตั้งใจว่าอยากลองเปลี่ยนจากเดิม แล้วในฐานะที่เราเป็นทั้งผู้ประกาศ และผู้บริหารด้วย เราคิดว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความรับผิดชอบประมาณหนึ่งด้วย ถ้าคุณคิดว่าสิ่งที่ทำมามันไม่ใช่ เราก็ขอแสดงความรับผิดชอบ แต่ว่าไม่มีการทะเลาะกันนะ”

“เราก็ได้คุยกับทางผู้บริหารครับ ก็มีการปรับเปลี่ยนแล้วก็มีการพูดคุยกันตลอดอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเราเองก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าของตึก เพราะฉะนั้นมันไม่มีอาการแบบอยู่ดีๆ ก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ก็คุยกันดีๆ เราคิดว่าเขาให้เกียรติเรา เราก็ให้เกียรติเขา”

ไม่ได้ถูกบีบออกแน่นอน ตัดสินใจร่วมกันกับกลุ่มผู้บริหาร
“คิดว่าไม่นะ คิดว่าไม่ครับ มันเป็นการตัดสินใจร่วมกันของกลุ่มผู้บริหาร เราคิดว่าอย่างนั้น ไม่รู้ว่าทีมใหม่มั้ย ก็คงมีบางส่วนที่เป็นทีมใหม่ด้วย มันเป็นการตัดสินใจร่วมๆ กันมาพร้อมๆ กัน คิดว่าเป็นแบบนี้น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนมั้ง”

“ถามว่าผู้ประกาศข่าวคนอื่นว่าอย่างไร ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย มันจะเป็นเรื่องที่พูดค่อนข้างยากนิดหนึ่ง เพราะ ไม่รู้ว่า ณ วันนี้เขามองว่าใครมีปัญหาอีกบ้างหรือเปล่า หรือว่ามีใครดีพอหรือดีไม่พออีกบ้างหรือเปล่า เพราะว่ามันเป็นคนละไม้บรรทัดกันแล้ว แต่ถ้าเอาจากประสบการณ์ผมคิดว่ามันดีพอ ดีพอในแง่ของความสามารถของผู้ประกาศข่าวและทีมงาน แต่สิ่งที่อาจะต้องปรับขึ้นไปอีกอาจจะเป็นเรื่องของจำนวนมากกว่า จำนวนของทีมงานเพื่อทำให้ข่าวของช่องมันมีคุณภาพมากขึ้น”

ลาออกเอง ไม่ได้โดนบีบออก ส่วน “เจ๊ฉอด สายทิพย์” ก็ไม่เกี่ยว
“เข้าไม่ได้บีบออกแน่นอนครับ (มันก็เลยเชื่อมโยงกับว่าเราออกตามพี่ฉอด สายทิพย์?) ไม่เกี่ยวเลย อันนี้ต้องขอยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวพันกับพี่ฉอดเลย ผมไม่ได้ลาออกไปเป็นพนักงานของพี่ฉอดหรือลาออกไปเป็นลูกน้องของพี่ฉอด หรือลาออกเพราะพี่ฉอดบอกให้ออกแน่นอน เพราะว่าสำหรับตัวบริษัท Change 2561 ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ของพี่ฉอด เขาก็อยู่ในระหว่างเริ่มต้น จะมีทิศทางไดเร็กชั่นที่ชัดเจน เพราะพี่ฉอดไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์อยู่แล้ว”

“เขาเริ่มต้นเกือบจะร้อยเลยก็ว่าได้ เพราะว่าด้วยชื่อด้วยเครดิตด้วยทุกสิ่งทุกอย่างเขาพร้อมอยู่แล้ว แล้วเขาสามารถทำงานได้เลยทันที ไม่ต้องมาฝึกงานกัน แต่ว่าก็ต้องยอมรับว่ายังอยู่ในช่วงใหม่ แล้วถ้าผมจะออกไปเพื่อไปทำข่าว มันไม่ใช่แน่นอน Change 2561 มีช่องทางทางออนไลน์ มันไม่มีทางที่จะมีรายการข่าวอยู่ในโลกออนไลน์ของ Change 2561 อย่างน้อยยังไม่มีในระยะเวลาอันใกล้ เพราะฉะนั้นถ้าผมออกไปตอนนี้ มันไม่ใช่เหตุผลว่าผมออกไปทำกับพี่ฉอด แต่บังเอิญว่าผมก็มีรายการขึ้นมากับพี่ฉอด คือรายการอั๋นจ๋าเดอะเรียลริตี้ ที่ตามติดชีวิตเรา”

“ซึ่งคุยกันมาตั้งนานแล้ว แล้วเป็นคอนเทนต์ซึ่งเราเคยเสนอให้กับช่องด้วย ว่าจริงๆ เราน่าจะทำ มันอาจจะถึงแล้วหรือเปล่าสำหรับเรียลลิตี้แบบนี้ในประเทศไทย เหมือนเมืองนอก แต่ประเทศไทยมันยังไม่มีคนที่มีชีวิตมหัศจรรย์ขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าชีวิตเรามหัศจรรย์นะ แต่บังเอิญว่ามันมีลูก พี่ฉอดก็เลยบอกว่าถ้าคนจะสนใจขนาดนั้น ก็เอาเรื่องลูกเลยมั้ย ก็เลยลองดูว่าเป็นยังไง ทำขำๆ ดูก็ได้ อาจจะสักซีซั่นหนึ่ง แต่ผลตอบรับมันก็ดี ตอนนี้เพิ่งมี 4 ตอนเอง ซึ่งอาจจะเร็วเกินไปถ้าจะมีต่อ มันก็เลยเป็นรายการหนึ่งที่ทำร่วมกัน แต่การที่ต้องอุตส่าห์ลาออกมาเพื่อทำรายการนี้ ไม่ใช่ มันเป็นจังหวะพอดี ก็ออนแอร์ทาง 2561 ทางยูทิวบ์, เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ครับ ในอนาคตไม่รู้นะ แต่ตอนนี้มีแค่ 3 ช่องทางนี้”

“เรื่องเขาไม่ตอบรับไอเดียเราก็ไม่ใช่ ตอนที่เราเสนอช่อง เราเสนอเป็นไอเดีย เราไม่ได้เสนอเป็นตัวเราเอง เราเสนอให้ทำแบบนี้เป็นไอเดีย ผมว่าน่าจะทำแบบนี้นะ เสนอด้วยซ้ำว่าน่าจะทำกับครอบครัวไหน 1 2 3 4 แต่ไม่ได้เสนอว่าทำตัวเอง (ตอนเสนอเปลี่ยนผู้บริหารหรือยัง?) เสนอไปนานแล้ว เป็นปีๆ แล้ว”

“ถามว่าได้ปรึกษาพี่ฉอดมั้ย จริงๆ ตัวพี่ฉอดเองยังอยู่ในคณะผู้บริหารนะครับ เขาก็ยังอยู่ในบอร์ดของแกรมมี่อยู่ เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าเขารู้อยู่แล้ว แต่ก็มีการพูดคุยกันนะ”

ทำแค่ดีเจประจำกรีนเวฟและพิธีกรรับจ้าง อย่างอื่นไม่ได้ทำอะไรแล้ว
“คือคลับฟรายเดย์นี่ต้องเรียกว่าเป็นพิธีกรรับจ้างอิสระ ส่วนเอไทม์ถือว่าเป็นดีเจประจำของกรีนเวฟเหมือนเดิมเท่านั้น อย่างอื่นไม่มีอะไรแล้ว

อิสระแล้ว ไปได้ทุกช่อง บอกตลอด 4 ปีปฏิเสธงานที่ติดต่อมาอย่างน่าเสียดาย
“ทำได้อยู่แล้ว อย่างเมื่อก่อนคือมีสัญญาว่าผมต้องไม่ไปปรากฏตัวที่ช่องไหนเลย ยกเว้นในฐานะของแขกรับเชิญ ถ้าห้ามทำในฐานะรายการประจำทั้งหมดเลย ก็เหมือนกับว่าให้หน้าเราเป็นช่องนี้ ของผมอาจจะไม่ได้เป็นดาราชัดเจนแต่ว่าอย่างน้อยเขาก็มองว่าให้เราเป็นหน้านี้ก็แล้วกัน มันก็อยู่ในดีลนี้ แต่ตอนนี้ก็คือจบ ก็ถือว่าเป็นอัตโนมัติในการจบตรงนี้ไป เพราะฉะนั้นก็ไปได้ทุกช่อง เพราะที่ผ่านมาที่ติดต่อมาเราก็ต้องปฏิเสธไปอย่างเสียดายมากๆ โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเราก็แบบขอโทษมากเลย อยากทำมากเลย”

ถามว่าคนติดต่อเข้ามาเยอะมั้ยตอนนี้ มันเร็วไป คือมีมาคุยบ้างนิดหน่อย แต่ยังไม่ถึงขนาดว่ามามั้ย เพียงแค่โทร.มาถามว่าถ้าอย่างนี้มาได้แล้วใช่มั้ย จากนี้ แต่ว่ายังไม่มีอะไรนะ แค่อยากรู้ ถ้าเผื่อมีอะไรเหมาะจะได้ชวนกัน จริงๆ มีมาชวนบ้างแล้วล่ะ แต่ว่ายังไม่ได้ไป”

“ถามว่าสนใจมั้ยก็ไม่ ต้องบอกเลยนะว่าส่วนใหญ่คนจะเข้ามาคอมเมนต์แสดงความให้กำลังใจกัน แล้วก็หลักจะบอกว่าสงสัยคงจะลาออกมาเลี้ยงลูก บอกเลยนะว่าไม่เกี่ยว ผมไม่ได้ลาออกมาเลี้ยงลูก ผมลาออกเพราะผมลาออก การได้ออกมาเลี้ยงลูกเป็นผลพลอยได้กับเรา

โพสต์ประกาศเพราะต้องรับผิดชอบต่อคำถามของแฟนๆ ที่ส่งเข้ามามหาศาล ยันไม่คิดจะเป็นข่าวใหญ่
“ไม่ได้คิดเลย ถ้าเราคิดจะเป็นข่าวเราต้องทำได้แรงกว่านี้แน่นอน ถ้าเราคิดจะเป็นข่าวเราจะไม่โพสต์บ่ายวันศุกร์ เพราะมันติดเสาร์อาทิตย์ เราไม่ได้เป็นคนใหม่ในวงการ เรารู้ว่ามันต้องมีเวลาให้สื่อตาม หรือต้องโพสต์ในวันที่เดี๋ยวจะมีอีเวนต์ คือมันก็มีหลายๆ เรื่องที่ฉุกละหุก เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ลาจริงๆ

“เราหยุดอ่านข่าวตั้งแต่ 31 พฤษภาคม แล้วก็วันที่ 1 มิถุนายนเป็นวันสุดท้ายที่เราอ่าน แล้วมันก็มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย หลังจากนั้นวันจันทร์มาก็ไม่ได้อ่านอีกเลย ซึ่งวันศุกร์เราก็ไม่ได้บ๊ายบายนะ ไม่เจอกันแล้วนะ เรายังพูดอยู่เลยว่าเดี๋ยวเจอกันวันจันทร์ (หัวเราะ) แล้วคือสิ่งที่ผมโพสต์ เพราะว่าเห็นว่ามีอินบ็อก มีไลน์ มีคนส่งมาในเฟซบุ๊ก และคนส่งไปในช่องทางของข่าวต่างๆ แล้วน้องๆ ที่อ่านข่าว ที่ทำงานกับเรามา แล้วเรารักกันมาก เขาก็แคปหน้าจอส่งมาแบบมหาศาล แล้วก็แบบจะให้ตอบว่าอะไรดี เพราะจริงๆ แล้วคนตอบควรเป็นผม ผมก็เลยตอบผ่านช่องทางเราแล้วกัน ก็เลยครั้งเดียวปั๊งจบ ก็ยอมรับว่าสมัครใจลาออก”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)



กำลังโหลดความคิดเห็น