xs
xsm
sm
md
lg

“กัปตัน” ควง “มิ้ง” แถลงรับเป็นพ่อเด็ก ไม่ต้องตรวจ DNA บอกมีเพศสัมพันธ์กันจริง ป้องกันแล้วแต่พลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กัปตัน” ควงอดีตแฟนตั้งโต๊ะแถลง ยืดอกรับเป็นพ่อเด็ก ไม่ต้องตรวจ DNA บอกมีเพศสัมพันธ์กันจริง ป้องกันแล้วแต่พลาด อยากลองเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่พร้อม วอนอย่าด่าใคร ขอให้ด่าตนคนเดียว โอกาสเป็นครอบครัวยังตอบไม่ได้ ฝ่ายหญิงร่ำไห้ เคยคิดอยากเอาเด็กออก แต่ฝ่ายชายไม่ให้ทำ เตรียมใจเป็นซิงเกิลมัม สัญญาหลังจากนี้จะไม่แฉอีก ค่ายเปิดใจให้โอกาส ผิดศีลธรรมแต่ไม่ผิดกฎหมาย

หลังจากกลายเป็นประเด็นฮือฮา กรณีที่ทวิตเตอร์แฉภาพอดีตแฟนสาว “กัปตัน love sick” ชลธร คงยิ่งยง ตั้งครรภ์ ในขณะที่ฝ่ายชายมีอาการน้ำตาคลอเบ้าและเครียดกับเรื่องดังกล่าวถึงขนาดหลบมุมไปร้องไห้ ในงานประกาศผลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส พร้อมรับผิดชอบถ้าเป็นลูกของตัวเองจริง ด้าน “มิ้ง” ก็แหกชุดใหญ่ บอกถูกผู้ใหญ่กีดกันไม่ให้เคลียร์เรื่องดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. หนุ่มกัปตัน พร้อม “วิริยา คงยิ่งยง” คุณแม่ “วทีรัต คงยิ่งยง” คุณพ่อ “บอม จงจิตต์ อินทุ่ง” ตำแหน่ง Associate Director of Artist Management บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด รวมไปถึง “มิ้ง ศวภัทร สุนทรนันท” อดีตแฟนสาว และ “ปุณณดา ไชยยงยศ” คุณแม่มิ้ง ได้ตั้งโต๊ะแถลงที่บริษัทนาดาวถึงเรื่องดังกล่าว โดยหนุ่มกัปตันยันไม่ตรวจดีเอ็นเอ ยอมรับว่าเป็นลูกของตน

กัปตัน : “ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่มาในวันนี้ ผมยอมรับว่าผมกับมิ้งเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีจริงๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงทำให้เราเลิกกันไป แต่เราก็ยังมีความห่วงใยให้กัน (มิ้งค์ร้องไห้) สำหรับเรื่องที่มีเด็กอยู่นั้น ทางผมขอรับผิดชอบในสิ่งที่ผมได้ทำไปจริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูแลเด็ก เพราะผมไม่สามารถปล่อยให้สิ่งที่เกิดจากผมได้รับอันตรายใดๆ ผมมีความเป็นห่วงเด็กมากๆ ผมเลยจะพาไปฝากครรภ์ครับ ส่วนจะกลับมาเป็นครอบครัวไหม ตอบไม่ได้ครับ แต่ผมไม่สามารถจะปล่อยให้เด็กเป็นอะไรได้”

มิ้ง : “ข้อตกลงตอนนี้เขาก็ยินดีจะรับผิดชอบค่ะ แต่จะไปในทางไหนค่อยกลับไปคุยกับครอบครัวของทั้งสองฝ่ายอีกที”

กัปตัน : “ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนเลยว่าผมมีความเป็นห่วงเด็กมากๆ ฉะนั้นผมจึงต้องการให้ไปฝากครรภ์ ถามว่ารับผิดชอบเฉพาะลูกหรือมิ้งด้วย อันนี้คงตอบไม่ได้นะ เพราะว่าอย่างแรกที่ต้องโฟกัสคือเด็กในท้องจริงๆ ผมไม่สามารถปล่อยให้เด็กเป็นอะไรขึ้นมาได้”

มิ้ง : “ถ้าเขารับผิดชอบเฉพาะลูกก็แล้วแต่เขาทุกอย่าง (ร้องไห้) สำหรับอายุครรภ์ ตามหมอบอกตอนนี้ก็ 7 สัปดาห์”

แม่กัปตันปัดตอบไม่ปักใจเชื่อว่าเด็กในท้องคือลูกของลูกชาย ขอโฟกัสแค่ความปลอดภัยของเด็ก
แม่กัปตัน : “ถ้าเกิดเหตุจริงครอบครัวรับผิดชอบอยู่แล้วและตรวจสอบแล้ว ทางครอบครัวก็รับผิดชอบอยู่แล้วค่ะ (แสดงว่าทางคุณแม่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเด็กในท้องคือลูกของกัปตัน?) แต่แม่ขอโฟกัสถึงเรื่องเด็กในท้องก่อน ห่วงว่าถ้ามีขึ้นมา เราต้องดูที่ความปลอดภัยขอตัวเด็กและตัวแม่เขาก่อน”

พ่อกัปตัน : “เวลาจะบอกเป็นขั้นๆ จะต้องทำอย่างไร เราพูดไม่ได้”

ไม่สนใจเรื่องตรวจ DNA รับผิดชอบทุกอย่าง แค่อยากลองเป็นผู้ใหญ่แต่สุดท้ายก็ยังไม่พร้อม
กัปตัน : “จริงๆ ผมไม่สนตรงนั้นแล้วอย่างน้อย เราเคยมีความสัมพันธ์แฟนกันมา ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าสิ่งนั้นเกิดจากการกระทำของผมๆ ผมก็จะรับผิดชอบ และตัวผมเอง ก็ต้องขอโทษทุกคน ขอโทษแฟนคลับทุกด้วยครับ และอยากจะบอกทุกๆคนด้วยว่าสิ่งที่คนมองว่า พ่อแม่ไม่ดี ผู้หญิงไม่ดี ทางค่ายผมไม่ดี หรือคนรอบข้างผมไม่ดี ผมขอว่าอย่าไปโทษเขาเลยครับ พ่อแม่สอนผมมาให้เป็นคนที่ดีต่อสังคม สอนมาตลอดจนผมมาถึงช่วงวัยรุ่นของผม ผมอยากลองเป็นผู้ใหญ่เอง ผมแค่ต้องการพิสูจน์ตัวเองในการเป็นผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายผมก็ยังไม่พร้อมจริงๆที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวคนเดียว ผมอยากขอร้องว่าอย่าโทษทางครอบครัวผม ทางผู้หญิง ทางค่าย มาโทษที่ผม”

แม่มิ้งลั่นเป็นลูกกัปตัน ฝ่ายชายยันช็อก ป้องกันแล้วแต่พลาด
แม่มิ้ง : “ให้เขาคุยกันสองคนเลย เพราะถ้าถามแม่ แม่ไม่ได้เรียกร้องอะไร ส่วนตัวแม่เชื่อว่าเป็นลูกของทั้งคู่”

กัปตัน : “ตอนแรกผมไม่ทราบ แต่มิ้งมาบอกผมเองที่บ้าน พอทราบก็คงช็อกนะ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น เพราะโดยส่วนตัวผมยอมรับในเรื่องของการป้องกัน ระมัดระวัง และรับรู้พร้อมกันทั้งครอบครัว”

โต้กีดกันลูกชายเจอมิ้ง ทุกคนต้องมีสิทธิ์ตัดสินใจร่วมกัน
คุณพ่อกัปตัน : “จริงๆ แล้วเราไม่ได้มีการกีดกันกันนะ มิ้งบอกว่ามิ้งกับกัปตันบรรลุนิติภาวะแล้ว เลยอยากคุยกันได้ แต่นี่เป็นความคิดที่แตกต่างกัน แต่ทางผมคิดว่าถ้าตัดสินใจเองแล้ว เรื่องมาถึงขนาดนี้ เราคงต้องมีส่วนตัดสินใจด้วย และเรื่องค่าใช้จ่ายทางผมดูแลเต็มที่ ให้เป็นไปตามสเต็ป

อยากเคลียร์กันสองคน เพราะเป็นเรื่องของคนสองคน
มิ้ง : “ความจริงตอนนี้มิ้งก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องคนสองคน ตัวเขาเอง และเรื่องนี้มันต้องมีความเป็นผู้ใหญ่และความรับผิดชอบ เราต้องมาคุยกันว่าจะเอายังไงดีถึงจะไปถึงครอบครัว อย่างฝั่งของพ่อแม่มิ้ง จริงที่ครอบครัวเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน คือพ่อแม่มิ้งให้มิ้งตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะเอาอย่างไรต่อ เราเลือกที่จะรับผิดชอบยังไง ถ้าไม่เจอเขาก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเอายังไง ยังว่างๆ อยู่ค่ะ”

กัปตัน : “เรื่องห่วงเด็กในท้อง อันนี้ผมขอตอบแทนเลยนะครับ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่ากระแสมันก็ค่อยค่อนข้างที่จะเป็นวงกว้าง แล้วผมไม่รู้ ขนาดผมที่แบบเป็นคนนั่งอ่านหรือว่ารู้ข่าวมา มันทำให้สภาพจิตใจก็ค่อนข้างแย่พอสมควร รวมถึงครอบครัวผม คนที่รู้จักผมด้วย แล้วผมก็เลยคิดว่าทางมิ้งเองก็น่าจะไม่ต่างอะไรกับผมเหมือนกัน”

เคยคิดอยากเอาลูกออก แต่ฝ่ายชายไม่ให้ทำ
มิ้ง : “มีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดแล้ว แล้วก็ฝ่ายกัปตันก็พูดตั้งแต่แรกว่าไม่ให้ทำ ตอนนั้นมันเป็นอารมณ์โกรธ อารมณ์น้อยใจ”

แม่มิ้ง : “ไม่อยากให้เด็กออกมามีปัญหาค่ะ ระหว่างนั้นแม่ก็รู้เรื่องค่ะ อยู่กับเขาตลอด คุณแม่ก็ไม่ให้เอาออกค่ะ ยังไงก็เก็บไว้แล้วยกให้เป็นลูกแม่ก็ได้”

มิ้ง : “วันนี้สภาพจิตใจก็ดีขึ้นนิดหนึ่งค่ะ ส่วนเรื่องที่อยากเคลียร์กับครอบครัวเขา อันนั้นก็คงต้องไปคุยกันหลังไมค์ 2 ครอบครัวอีกทีหนึ่งค่ะ”

แม่รับโกรธมิ้งให้ข่าวเสียหาย แต่ตั้งสติ พยายามเข้าใจอีกฝ่าย
แม่กัปตัน : “จริงๆ แล้วคุณแม่ไม่ค่อยได้สนใจข่าวมากเท่าไหร่นะคะ เพราะแม่มีจุดยืนอยู่ หนึ่งคือความปลอดภัยของตัวเขาและตัวเด็กแค่นั้น เราเลยคิดว่าเราพาไปดูแล ก็บอกเขาไปอย่างนั้น ถามว่าโกรธมั้ย ถ้าบอกว่าไม่โกรธมันก็คงไม่มีใครเชื่อเนอะ ก็คือมีขึ้นมาอารมณ์ค่ะ แต่เราก็ต้องตั้งสติเรา และต้องคิดว่าเราควรจะทำอะไรต่อไปให้ถูกต้อง ถามว่าเราเข้าใจเขามั้ยในฐานะลูกผู้หญิงด้วยกัน พยายามเข้าใจอยู่แล้วนะคะ”

กัปตัน : “ก็อย่างที่บอกแหละครับ เป็นห่วงทั้งสภาพจิตใจพ่อแม่ สภาพจิตใจทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับผม สภาพจิตใจของคุณแม่ครอบครัวเขา รวมถึงมิ้งเอง”

เรื่องงานแล้วแต่อนาคต พร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ
กัปตัน :เรื่องงานในวงการอันนี้จริงๆ ผมก็ไม่รู้สิ ยังไงตอนนี้ผมก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องทำให้เสร็จครับ แล้วหลังจากนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง ผมก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำไป โอกาสมันจะมาหรือไม่มาผมก็ไม่เป็นไร ผมขอรับผิดชอบสิ่งที่ทำไปก่อน ผู้ใหญ่เรียกคุยแล้วครับ คุยกันเรียบร้อยแล้ว”

บอม : “ทางค่ายที่ผ่านมาก็อย่างที่บอกค่ะ ตอนนี้เราต้องแบ่งกัน 2 พาร์ต คือสิ่งที่เขาทำมันคือเรื่องส่วนตัว ถามว่าผิดศีลธรรมมั้ย ตอนนี้เขาออกมารับผิดชอบและพูดอย่างชัดเจนแล้ว ทางบริษัทเลยรู้สึกว่าเขาแสดงตัวตนออกมา เพราะฉะนั้นในพาร์ตของการทำงานเขาไม่เคยไม่เต็มที่หรือไม่ตั้งใจ เราก็เลยรู้สึกไม่อยากตัดสินจากเรื่องตรงนี้ แต่ถ้าอนาคตเขาเกเรค่อยมาว่ากัน ตอนนี้เขายังเป็นเด็กในสังกัดค่ะ และในส่วนของ ไนน์ บาย ไนน์ ก็ยังคุยอัปเดตกันอยู่เรื่อยๆ ทางโฟร์โนล็อคก็ยังยืนยันว่าน้องยังอยู่เหมือนเดิม แต่สุดท้ายแล้วในอนาคตจะเป็นยังไง เราก็จะให้ทางโฟร์โนล็อคตัดสินใจแล้วจะมาแจ้งให้ทราบค่ะ”

สามารถทิ้งทุกอย่างได้ หากไม่มีอะไรเข้ามา
กัปตัน :ตอนนี้ผมสามารถทิ้งทุกอย่างได้ ถ้าเกิดมันยังไม่เข้ามา แต่ในหน้าที่ที่ทางผู้ใหญ่มอบหมายให้ ผมจะทำให้เต็มที่ครับ ตอนนี้ก็คือไม่มองถึงอนาคตไว้ก่อนดีกว่า ตอนนี้ก็ยังมีถ่ายซีรีส์อยู่ ก็ต้องทำให้เต็มที่รวมถึงถ้าผู้ใหญ่ยังให้โอกาสต่อไป ผมก็จะทำต่อไป”

มิ้ง : “วันนี้ไม่ได้ตั้งใจ แต่พี่บอมเชิญมา ว่ามาพร้อมกันทีเดียวให้มันจบไปเลยดีกว่า ส่วนเรื่องที่ทวิตเตอร์ขุดว่าเคยเกิดแบบนี้กับแฟนเก่ามิ้ง มันเป็นเรื่องที่เคยเล่าให้กัปตันฟังเหมือนกันตอนคบกันแรกๆ ซึ่งมิ้งเลือกที่จะไม่สนใจ ทุกคนรอบข้างเรา รู้จักเราจริงๆ ก็จะรู้ว่าเราทำอะไรลงไป”

โต้ไม่อยากคุยกัน พ่อยันเคยคุยไปรอบนึงแล้ว แต่กระแสที่เกิดเร็วกว่า กัปตันลั่นไม่อยากเลือกทางผิดพลาด
กัปตัน : “ส่วนที่มองว่าถ้าคุยกับมิ้งเรื่องนี้จะไม่เกิด ผมก็ไม่ทราบจริงๆ เพราะผมต้องคุยกับทั้งทางผู้ใหญ่นาดาว รวมถึงพ่อแม่ผมด้วย ผมไม่สามารถที่จะตัดสินใจแล้วเลือกทางผิดพลาด ทำให้ครอบครัวผมมีสภาพจิตใจแย่ไปกว่านี้แล้ว”

พ่อกัปตัน : “พอดีมันเร็วมาก จริงๆ เราคุยไปแล้วรอบนึง แล้วเราก็ให้ข้อมูลว่าเราอยากจะฝากท้อง แต่มันเพิ่งจะ 2 อาทิตย์ มันเร็วมาก คือไม่ใช่ว่าเราไม่อยากคุย แต่เราไม่เร็วกว่ากระแสที่เกิดขึ้น”

คุณบอม : “ก่อนที่จะไปร่วมงานไนน์เอ็นฯ ก่อนนั้นทางคุณแม่ของทั้งกัปตันและแม่มิ้ง มีการคุยกัน นัดกันในเรื่องของการจะไปฝากครรภ์ก่อนแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้นัดวันกันเพราะพอดีทางคุณแม่ไปต่างจังหวัด และหลังจากงานไนน์เอ็นฯ วันรุ่งขึ้นพี่เลยขอนัดเพื่อจะไปฝากครรภ์ ซึ่งตอนนี้กำลังรอค่ะ”

ค่ายเมินถูกโจมตี ยันผลิตซีรีส์เป็นแค่บทเรียน แต่ชีวิตจริงอยากให้มีโอกาสในสังคม แค่ผิดศีลธรรมแต่ไม่ผิดกฎหมาย
บอม : “เราทำซีรีส์ออกมาเพื่อสะท้อนสังคม เด็กทุกคนที่ได้ดูหรือผู้ชมทั้งหมดจะต้องใช้วิจารณญาณและความเข้าใจของตัวเองในการดู และเขาได้รับประโยชน์ตรงนั้นจากอะไร ซึ่งทุกคนผ่านช่วงระยะเวลาของวัยรุ่นมาทั้งหมด ทุกคนมีปัญหาแต่เราจะข้ามไปได้ยังไง ซีรีส์อาจจะเป็นแค่บทเรียนนึงที่ทำให้ทุกคนเรียนรู้ วันนี้กัปตันได้เจอปัญหา เราก็ไม่อยากตัดโอกาสของคนนึง ให้เขามีโอกาสในสังคม เพราะตอนนี้เขาออกมารับผิดชอบทั้งหมดแล้ว ให้เขาออกมาแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น”

“เรื่องยกเลิกสัญญาส่วนใหญ่คือผิดกฎหมาย อันนี้แน่นอนชัดเจนว่าผิดศีลธรรม เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถให้เขาอยู่ในบริษัทได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่เป็นเรื่องของการทำงานที่ไม่รับผิดชอบก็ใช่”

ยกเป็นบทเรียนหนักสุดในชีวิต
กัปตัน : “เป็นบทเรียนหนักที่สุดในชีวิตแล้วครับ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราคงไม่สามารถกลับไปแก้ไขในอดีตได้ ตอนนี้หน้าที่เราที่สามารถทำได้คือ ตั้งใจทำงานให้คนดูได้เห็นว่าจริงๆ เราอยากให้คนดูชื่นชอบในผลงานของเราจริงๆ ถ้าคนเลิกสนใจ ผมก็ต้องยอมรับในจุดนั้นครับ”

“อย่างที่บอก เด็กในท้อง เราต้องทำให้เด็กมีคุณภาพที่ดีก่อนในสังคม เราคงไม่ทำให้เด็กเกิดอันตราย รวมถึงผู้หญิงด้วย เราต้องรับผิดชอบให้เต็มที่”

เตรียมใจเป็นซิงเกิลมัม พ่อกัปตันจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายเต็มที่
มิ้ง : “(หยุดคิด) ตอบไม่ได้ค่ะ แต่ก็มีคิดค่ะ ถ้าถามอนาคตหลังจากนี้ เพิ่งเรียนจบ และตอนแรกคิดว่าจะสมัครเรียนช่วง ต.ค. แต่คงไม่ได้แล้วค่ะ ยังไม่ได้คิดเรื่องงานเหมือนกัน”

พ่อกัปตัน : “เรื่องค่าใช้จ่าย ทางผมรับผิดชอบเต็มที่ ถ้ามีค่าใช้จ่ายเรื่องการตรวจ การฝากครรภ์ เราก็จะจ่ายทุกอย่างเรื่องทางการแพทย์”

วอนอย่าโทษใคร ขอให้ด่าตนคนเดียว ฝ่ายหญิงลั่นหลังจากนี้ไม่แฉอะไรอีกแล้ว
กัปตัน :ขอร้องทุกคนว่าอย่าโทษใครเลย ถ้าเกิดจะโทษครอบครัว โทษผู้หญิง โทษฝ่ายบริษัท ขอให้มาโทษที่ผมคนเดียวพอ ผมขอรับผิดทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวครับ”

มิ้ง : “จริงๆ มิ้ง ไม่ค่อยได้เข้าไปอ่านเท่าไหร่ นานๆ ทีอ่าน เห็นว่ามีแบ่งแยกทั้งสองฝ่าย ก็ไม่ได้โกธรใครที่ด่า เพราะมันเป็นมุมมองของความคิดแต่ละคน ตอนนี้คิดว่าน่าจะเคลียร์กันแล้ว และคิดว่าไม่มีการด่ากันทั้งสองฝ่ายแล้ว ส่วนเราหลังจากนี้ก็ไม่มีการแฉอะไรแล้วค่ะ

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)








กำลังโหลดความคิดเห็น