ไขปริศนาเจ้าหญิงจริง-เจ้าหญิงเก๊? หลังสถานทูตกัมพูชาออกหนังสือเตือนระวัง!

เป็นอีกหนึ่งประเด็นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่หลายคนให้ความสนใจไม่น้อยต่อกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา (Royal Embassy of Cambodia in Bangkok) ได้มีการเผยแพร่เอกสารสำคัญออกมาเมื่อวันที่ 28 พ.ค.61

โดยในเอกสารดังกล่าวได้ระบุว่าในตอนนี้ได้มีผู้ที่แอบอ้างว่าเป็น "พระมหากษัตริยานี พระสีสุวัต กุสุมะ มุนีรัตนา" มารดาแห่งสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ซึ่งสวรรคตไปเมื่อปลายทศวรรตที่ 70 ได้เข้ามาพำนักในประเทศไทยขออย่าให้ชาวกัมพูชาอย่าได้หลงเชื่อคำแอบอ้างดังกล่าวแต่อย่างใด

เป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาสื่อโซเชียลของไทยบางส่วนได้มีการรายงานข่าวบุคคลที่ถูกระบุว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นราชนิกูล จากประเทศกัมพูชาเข้ามาประกอบทำกิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดที่อยู่ติดกับชายแดนไทยอยู่บ่อยครั้งทีเดียว

โดยในรายนามนั้นก็ประกอบไปด้วย "สมเด็จพระอนุช นโรดม อรุณรัศมี" เจ้าหญิงกัมพูชาในพระบาทสมเด็จนโรดมสีหนุ

สมเด็จพระองค์เจ้าชายสีสุวัตถิ์ ดวงนรบดินทร์ อินทรพิทักษ์ อัครเมศวร นาคะ เมธากูร, พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ โสมา การิทาระกา, หม่อมเจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี ซึ่งทั้งหมดถูกระบุว่าเป็นพระปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ

รวมไปถึงพระองค์เจ้าสีสุวัฒถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา ที่ถูกระบุว่าเป็นพระราชนัดดาในพระเจ้านโรดม สุรามฤต พระชนกแห่งพระบาทสมเด็จนโรดม สีหนุ

(อ้างอิงจาก http://www.tnews.co.th/contents/356554 , http://www.naewna.com/local/264641 , http://www.sisaket.go.th/activities_news1/list.php?id_title=02048 , https://www.matichon.co.th/region/news_593817 , https://www.matichon.co.th/local/news_469123 , http://www.banmuang.co.th/news/region/87796)

ภายหลังจากสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาได้มีเอกสารดังกล่าวออกมาเรื่องนี้จึงกลายเป็นที่สงสัยและถกเถียงกันเป็นอย่างมากถึงข้อเท็จจริง เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสื่อบางส่วนได้นำเอาภาพของบุคคลเหล่านั้นไปประกอบเนื้อหาข่าวเตือนเจ้าเขมรปลอม, เจ้าเขมรเก๊ ฯลฯ ทั้งที่สื่อดังกล่าวเองเคยระบุถึงบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นองค์หญิง, เจ้าหญิงจากกัมพูชามาแล้วในก่อนนี้

ไม่เพียงเท่านี้ ความสับสนก็มีมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อสำนักข่าวบางส่วนได้ออกมาให้ข่าวในภายหลังว่ามีความผิดพลาดในการนำเสนอข่าวเรื่องเจ้าปลอมพร้อมระบุว่าที่ราชวงศ์จากกัมพูชาที่เป็นระดับพระองค์เจ้า - เจ้าหญิง เสด็จมาที่ประเทศไทยจริงๆ ส่วนหลักฐานที่สำนักข่าวใช้อ้างก็คือคำยืนยันจากแหล่งข่าวนั่นเอง (https://www.youtube.com/watch?v=gRJza8A1zIQ)

ทั้งนี้ในบรรดารายชื่อทั้งหมดนั้น มีเพียงสมเด็จพระอนุช นโรดม อรุณรัศมี ซึ่งเป็นน้องสาวร่วมพระมารดาของกรมพระรณฤทธิ์ หรือเป็นพี่สาวต่างพระมารดาของกษัตริย์สีหมุนี (https://en.wikipedia.org/wiki/Norodom_Arunrasmy) พระองค์เดียวเท่านั้นที่คนส่วนใหญ่รู้จัก

(กรณีเจ้าหญิงอรุณรัศมี บรรดาศักดิ์สุดท้ายที่พระบิดาทรงพระราชทานให้ก่อนลงจากราชบัลลังก์ก็คือ Samdach Reach Botrei Preah Anoch หรือ สมเด็จราชบุตรี พระอนุช ซึ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเชื้อสายของพระองค์)

ขณะที่รายชื่ออื่นๆ นอกจากสื่อโซเชียลจากบ้านเราเองแล้วก็แทบจะไม่เคยปรากฏเป็นข่าว หรือมีข้อมูลที่ไหนให้อ้างอิงเลยแม้กระทั่งใน House of Sisowath ก็ตาม (https://en.wikipedia.org/wiki/House_of_Sisowath)

สำหรับประเทศกัมพูชานั้นจะมี 2 ราชวงศ์เท่านั้น คือ "วงศ์นโรดม" กับ "วงศ์สีสุวัตถิ์" ซึ่งมีการแต่งงานสืบสกุลไขว้กันไปมา และในระบบกษัตริย์นั้นเชื้อสายพระวงศ์ในวงศ์เดียวกัน "จะไม่ใช้ชื่อซ้ำกัน" หรือแม้กระทั่งจะ "เฉียดเข้าใกล้" เป็นอันขาดเพื่อเป็นการให้เกียรติยกย่องกันเนื่องเพราะฐานันดรที่ต่างชั้นกันนั่นเอง

ที่สำคัญ การเรียกโดยใช้คำว่า "พระองค์เจ้า" ซึ่งเป็นชั้นรัชทายาทนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องเพราะเขมรไม่มีรัชทายาท ส่วนระดับชั้น "พระองค์เจ้า" ของสายสีสุวัตถิ์ก็ไม่มีแล้ว

โดยปัจจุบันระบบของกัมพูชามี "พระองค์เจ้า" เหลืออยู่เพียงพระองค์เดียวตามกฎหมาย (แต่ก็ไม่ใช่รัชทายาท) คือ "กรมพระ" (Krom Preah) "นโรดมรณฤทธิ์" (https://en.wikipedia.org/wiki/Norodom_Ranariddh) พี่ชายต่างพระมารดาของกษัตริย์ "นโรมสีหมุนี" ซึ่งตอนนี้อายุ 74 ปีแล้ว

(ยุคโน้นกระทรวงการต่างประเทศของไทยให้พระนามยศท่านเป็น "กรมหลวง" โดยเรียกอย่างเป็นทางการ ว่า "กรมหลวงนโรดมรณฤทธิ์" หรือ Prince Rannaridh ตลอดมา จนกระทั่งสงครามสงบลง เมื่อพระราชบิดาคือ Prince Norodom Sihanouk เสด็จขึ้นครองราชท์ ทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาให้เป็น "กรมพระ" ซึ่งเป็นฐานันดรศักดิ์ที่สูงขึ้นอีกขั้นก็คือ "พระองค์เจ้า" นั่นเอง)

ในช่วงสงครามกลางเมืองสายสีสุวัตถิ์ต่างก็พากันอพยพหลบหนีไปคนละทิศละทาง บางส่วนไปลี้ภัยในต่างแดนก็เยอะ โดยปัจจุบันระดับที่เป็น "เจ้าชาย-เจ้าหญิง" ของสายนี้ประกอบไปด้วย Sisowath Thomico (born 1952), Sisowath Narith (born 1964), Sisowath Charidy (born 1974), Sisowath Katrina (by marriage), Sisowath Chhorothavong Richard (born 1988), Sisowath Darleya Jessica (born 1992), Sisowath Noryvong Nikko (born 1992), Sisowath Narita (born 1996), Sisowath Kethana (born 2007), Sisowath Rattana Tevi (born 2002)

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงแค่ในนามเท่านั้น และส่วนใหญ่ต่างก็ลงเล่นการเมืองกันหมดแล้ว

หากจะให้สรุปก็คือ ปัจจุบันระดับที่เป็น "เจ้าฟ้า" และ "พระองค์เจ้า" (ลูกกษัตริย์) สายสีสุวัตถิ์นั้นสิ้่นไปหมดแล้ว คงเหลือเพียงพวกรุ่นหลานเหลน หากเทียบกับของไทยก็คงจะเป็นระดับหม่อมราชวงศ์ หม่อมหลวง รวมทั้ง "หม่อม" นั่นเอง

ยกตัวอย่างที่ฝรั่งเรียก Prince และ Princess นั้นก็ไม่ใช้ชั้นเจ้าฟ้า อย่างกรณีของ Sisowath Thomico ก็ไม่ใช่เจ้าฟ้า (เพราะไม่เคยได้รับพระราชทานนามยศใดๆ (เนื่องจากสายนี้ ไม่ได้ขึ้นครองราชย์เลย ตลอด 40-50 ปีมานี้) แต่เป็นชั้นหลานของอดีตนายกสีสุวัตถิ์คนหนึ่งซึ่งเคยเป็นทูตประจำเยอรมนีตะวันออกก่อนถูกเขมรแดงสังหารในคุกบึงตะแบก กรุงพนมเปญ เพราะเป็น ขรก.เก่า ซึ่งสมัยนั้นเขมรแดงฆ่าหมด

ดังนั้นกรณีของ Prince Sisowath Thomico จึงเป็นหลักฐานชิ้้นสำคัญที่บ่งบอกว่าราชวงศ์สายนี้ไม่เหลืออยู่แล้ว และหากมีใครกล่าวอ้างถึงการเป็นเจ้าสายสีสุวัตถิ์จึงไม่มีอย่างอื่น นอกจากแอบอ้างโดยเจตนาที่ไม่สุจริต
...
(หมายเหตุ : พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์แห่งกัมพูชา เป็นงานที่จัดโดยรัฐบาลและเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปร่วมพิธีได้)