ลวงโลกมโหฬาร อาหารเสริม-เครื่องสำอาง “เมจิกสกิน” ปลอมทั้งหมด “เจ๊คิ้ม” พูดแทนทุกคน ดาราไม่ใช่เภสัชฯ

ปลอมมโหฬาร อย. ส่งผลตรวจยัน “เมจิกสกิน” ปลอมหมด! เผยโทษจำคุกถึง 10 ปี เตรียมดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินต่อ ตร.บอก ดาราตกเป็นเหยื่อ ไม่รู้กลลวง หากผิดจะถูกดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา แต่ถ้าไม่ผิดก็อยู่ในฐานะพยาน ด้าน “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” ยันดาราไม่มีส่วนร่วมในการผลิตซับซ้อน บอกเราไม่เภสัชกร หรือนักวิทยาศาสตร์ จะได้เข้าถึงเรื่องลึกๆ

วันนี้ (29 พ.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้เปิดแถลงข่าวพร้อมกับอีก 8 ศิลปิน - ดาราที่เคยรับจ้างรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกิน ประกอบไปด้วย ลีเดีย ศรัณรัชต์ ดีน, วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์, นานา ไรบีนา, กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ซี, ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, มาร์กี้ ราศี บาเลนซิเอก้า, เจนนิเฟอร์ คิ้ม และ นาตาลี เดวิส ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคาร 1 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 ขณะนี้ยอดรายงานตัว เรียกทั้งหมด 37 คน มาแล้ว 23 เหลือ 14 คน ยังไม่มีใครปฏิเสธหมายเรียก คาดว่าสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าน่าจะมากันได้ครบ

“เจนนิเฟอร์ คิ้ม” ไม่คาดคิดว่าจะซับซ้อนและวุ่นวาย ดาราทุกคนไม่ได้มีส่วนร่วมในการผลิต บอกเป็นดาราไม่ใช่เภสัชกรหรือนักวิทยาศาสตร์ จะได้เข้าถึงเรื่องลึกๆ
“ใช้เองเป็นเวลา 1 เดือนเต็มค่ะ น้ำหนักลงและไม่มีผลข้างเคียงอะไร คือทุกคนที่อยู่ตรงนี้ถึงทุกคนจะมีชื่อเสียงอะไรก็แล้วแต่ เราก็เหมือนเป็นตัวแทนของผู้บริโภคคนหนึ่งที่เราก็รู้ว่าอย.มันอยู่ข้างกล่อง รู้อะไรต่อมิอะไรตามที่เห็น ณ เวลานั้น และได้ลองใช้บ้างหรือไม่ได้ใช้บ้างแล้วแต่คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาที่่มันเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ พวกเราคิดนะคะว่าจะรับอะไร แต่เวลาที่มันมีผลอะไรที่ตามมากับแต่ละคนแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่คิดก่อนล่วงหน้าว่าอาจจะเกิดอะไร แต่มันคาดไม่ถึงว่ามันจะซับซ้อนและวุ่นวาย เพราะพวกเราไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตหรือเป็นหุ้นส่วนใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นแค่ผู้บริโภคคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงและบอกต่อ”

“ถามว่าเราใช้แล้วได้ผลมั้ย ต้องออกกำลังกายควบคู่ด้วยค่ะ ซึ่งเดือนแรกลดไป 2 กิโลกรัมค่ะ ส่วนที่ไม่กินต่อเพราะเราเป็นคนทานอาหารไม่ตรงเวลา เวลาเราทำงานเราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ตลอดเวลา และเป็นคนที่ทำอะไรเป็นระบบอย่างนั้นไม่ได้ ทำได้อย่างมากคือ 1 เดือน ถึงถ้ามันมีอะไรที่บังคับจริงๆ ก็น่าจะเป็นยาโรคประจำตัวอะไรสักอย่างหนึ่งแค่นั้นค่ะ”

“ถามว่ากลัวมั้ย ณ ล็อตแรกยังคุยกับนาตาลี เดวิสเลยว่ามันไม่มีสารอย่างนี้ เพราะมันผลิตมาหลายล็อต เราเจอล็อตแรกๆ ที่มันถูกควบคุมคุณภาพเรียบร้อยดีแล้ว ทุกๆ คนที่โดนคือมันมีหลายล็อต เราไม่สามารถเข้าไปรู้กระบวนการเหล่านั้นได้เลยว่ามันผลิตอะไรยังไง ดังนั้นพวกเราอยู่ในล็อตที่มันยังดีอยู่ เพราะเวลาคนพวกนี้เขาจะให้เรารีวิวเขาจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับเราและให้เราลองใช้หรืออะไรก็แล้วแต่ เราก็รู้ว่ามันมีมาตรฐานอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แต่หลังจากนั้นล็อตไหนเป็นล็อตไหน เราเป็นดารา เราไม่ใช่เภสัชกรหรือนักวิทยาศาสตร์ เราไม่รู้ไม่สามารถเข้าไปลึกได้ถึงขนาดนั้น เราใช้ตอนประมาณกลางปีที่แล้วค่ะ ก็ลองใช้เอง 1 เดือนค่ะ”

“นาตาลี” ยันลองจริง ไม่ใช่สักแต่รับมาถ่ายรูปแล้วก็จบ บอกเป็นคนที่ไวต่อแอลคาร์นิทีน ถ้าทานแล้วใจสั่นไม่รับแน่นอน
“ด้วยค่ะ แต่ของนาตาลีจะได้ก่อนพี่คิ้ม เพราะตอนที่เขาติดต่อมาประมาณเดือนกันยายน 2559 ซึ่งก็น่าจะเป็นล็อตแรกๆ แต่ไม่แน่ใจว่าล็อตที่มีปัญหาหรือที่เขากำลังตรวจสอบกันอยู่เป็นล็อตของเมื่อปีไหน เพราะถ้าเทียบกับตอนนี้ก็เกือบ 2 ปีที่แล้ว และตอนนั้นเขาก็ส่งเป็นกล่องอย่างดีมาเลยค่ะ เป็นกล่องที่พร้อมขาย ซึ่งนาตาลีนอกจากจะอยู่ในฐานะดารานักแสดงที่เป็นคนรีวิวแล้วก็เป็นหนึ่งในผู้บริโภคเหมือนกัน เราไม่ใช่สักแต่ว่ารับของมาถ่ายรูปแล้วจบแค่นั้น แต่เราต้องลอง ไม่ว่าจะเป็นครีมอะไรก็แล้วแต่ แต่เรารู้สึกว่าเราต้องรับผิดชอบต่อสังคมในการที่เราจะต้องทดสอบลองใช้ก่อน ซึ่งเราก็ได้ลองไป 1 กล่อง”

“แต่จำไม่ได้ว่ากล่องหนึ่งเป็นฟรอยด์หรือแผงอะไรสักอย่าง ส่วนตัวคนอื่นนาตาลีไม่ทราบนะคะ แต่ตัวนาตาลีเป็นคนที่ไวต่อพวกคาเฟอีน แอลคาร์นิทีน ทานอาจจะแค่ 2 - 3 วันถ้ามีอาการใจสั่นหรือคอแห้งหรือเบลอก็จะบอกลูกค้าเลยว่าเราไม่สะดวกที่จะทำงานนี้ เพราะแม้แต่เรากินแล้วเรายังไม่แฮปปี้หรือมันมีเอฟเฟ็กต์อะไรกับเรา เราก็รู้สึกว่ามันไม่ควรทำการโฆษณา”

“แต่ว่าตอนนั้นที่ลองเองก็ไม่ได้มีเอฟเฟ็กต์ใดๆ นะคะ ปกติเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว ก็ทานแล้วไปออกกำลังก็ไม่ได้รู้สึกว่าใจสั่นหรืออะไร ก็ทานได้ปกติ มีคุมอาหารบ้าง ออกกำลังไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าน้ำหนักจะลงฮวบฮาบ อาจจะแค่ 1 - 2 กิโล แต่ก็ไม่แน่ชัดว่าที่เราลดน้ำหนักหรือที่เราคุมได้นิดหน่อยเพราะมาจากอาหารเสริมที่เราทานหรือจากชีวิตประจำวันที่เราคุมอาหารช่วยด้วย”

“สัญญาว่าจ้างไม่มีค่ะ ของนาตาลีจะเป็นการลงคอนเทนต์ทางเว็บไซต์ แต่จำเว็บไซต์แน่นอนไม่ได้ เพราะว่าแคปชั่นจะเป็นของทางบริษัทและเขาก็จะนำไปลงในเว็บไซต์ต่างๆ เพราะเวลาคุยกันเขาก็จะแจ้งว่าเป็นการโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย ก็ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันนะคะ คือเราเป็นคนที่ทานด้วย และคนอื่นที่เขาทานไปเขาได้รับผล แต่เราก็ยังงงว่าทำไมตอนนั้นที่เราทานมันไม่มีผลกระทบ ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันตอนแรกที่ได้ข่าวค่ะ”

“ถามวาเขาจะใส่สารตัวนี้ตั้งแต่ล็อตแรกมั้ย คือในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภคนะคะ ถึงจะไม่ได้โฆษณาไม่ได้รีวิวอะไรก็ตาม สมมติเราเป็นคนธรรมดาบริโภคอาหาร ยาอะไรก็ตามที่มีสลากเรียบร้อย สิ่งที่น่าจะเป็นสิ่งที่เราไว้ใจได้มากที่สุดก็คือน่าจะเป็นสลาก อย. หรืออาจจะเป็น GMP อะไรต่างๆ ที่อยู่บนกล่อง เราก็ได้เช็กแล้ว และส่วนตัวของนาตาลีก็ได้เช็กเข้าไปในฐานข้อมูลระบบของอย. ซึ่งมีว่ายังคงอยู่ในระบบ ชื่อผลิตภัณฑ์ สถานที่ผลิตก็เรียบร้อย นั่นก็เลยทำให้เราอาจจะผิดที่ไปไว้ใจ ณ ตอนนั้น แต่เราก็รู้สึกว่าเช็กแล้วนะ แต่พอตอนนี้มันมีปัญหาก็เลยรู้สึกว่าถ้าต่อไปในอนาคตเกิดเราจะต้องทำหน้าที่รีวิวหรือทดลองสินค้าและบอกต่อคนเราอาจจะต้องเช็กให้ลึกและดีกว่านั้น อาจจะต้องส่งให้ทางอย.ตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”

“มาร์กี้” ยันไม่ได้รับการเตือนให้ระวังจาก อย. ก่อนรีวิว 
มาร์กี้ : “ของกี้ไม่มีค่ะ หลังจากเกิดเรื่องก็ยังไม่มีมาถึงตัวกี้ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีส่งมาบ้างหรือเปล่าค่ะ วิธีเลือกรีวิว อย่างแรกเราก็ต้องลองดูก่อนว่าสินค้าตัวนี้ใช้แล้วมีผลข้างเคียงกับตัวเรามั้ยเราถึงจะรับค่ะ กี้ทานประมาณ 3-4 วันค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์ที่กี้ได้้รับมานี้มันมีทั้งหมด 7 เม็ด ทั้งหมด 2 ซอง”

ป๊อก : “เราไม่ได้มีการโฆษณาในรายการเลยนะครับ”

มาร์กี้ : “เราไม่มีการโฆษณาค่ะ แต่หลังจากที่เราเห็นข่าวเราก็ได้มีการไลฟ์บอกคนที่ดูรายการของเราหรือในไลฟ์ของเราว่ามันมีอย่างนี้เกิดขึ้นนะ เดี๋ยวนี้ไว้ใจคนยาก ต้องมีเอกสาร ต้องตรวจดูให้แน่ชัด ไม่สามารถเชื่อแค่เพียงตัวอย.ที่อยู่ข้างกล่อง เพราะเดี๋ยวนี้มันสามารถปลอมได้ ก็มีการบอกต่อให้ทุกคนระวังเหมือนกัน”

“กุ๊บกิ๊บ” เผยไม่ได้กินเอง แต่ให้คนรอบข้างทดลองก่อน บอกเห็นจากคนในวงการและออกสื่อโฆษณา คิดไปเองว่าน่าเชื่อถือเพราะเป็นมืออาชีพ
“ตอนที่รับได้สินค้า เขาก็จะส่งสินค้ามาให้เรา เราก็ให้คนในบ้านได้ลอง และเราอ่านรีวิวจากในโลกโซเชียลนะคะ และดูจากการประกอบของที่เขามีการโฆษณาตามช่องทีวีต่างๆ สื่อต่างๆ และดูฟีดแบ็กตอบรับ ซึ่งก็ไม่ได้มีใครบอกว่าเป็นทางลบหรือมีผลข้างเคียงอะไร และคนรอบข้างก็บอกว่าไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร เราก็เลยตัดสินใจรับโฆษณาให้”

“แต่เราก็บอกชัดเจนไว้ในใต้ภาพ คือกิ๊บไม่เหมือนคนอื่นเพราะกิ๊บเขียนไว้ชัดเจนว่ากิ๊บให้นมบุตรอยู่ ก็เลยเชื่อมั่น เพราะเราเห็นว่าเขาทำตรงนี้มานาน และจากสื่อโฆษณาทุกอย่างของเขาออกไปดูเป็นมืออาชีพมากๆ เราก็ตรวจอย.แล้วว่ามี ตรวจในเว็บไซต์แล้วว่ามี เราก็เลยเชื่อใจ และเห็นมีดาราหลายคนที่รับและเขาก็ส่งมาให้ประกอบการตัดสินใจของเรา เราก็เลยรับค่ะ”

“ถามว่าทำไมมั่นใจ ราคาแค่ 59 บาท ขาวจริง ดีจริง ของถูกและดีมีจริงมั้ย ก็เป็นเรื่องราวที่พูดยากนะคะว่าของถูกและดีมีอยู่จริงมั้ย กิ๊บว่าบางอันก็มีอยู่จริง แต่ในส่วนตัวของสินค้านี้เราก็เชื่อจากรีวิวที่คนรีวิวกันเยอะ และการได้รับความเชื่อถือจากบุคคลในวงการ และการได้รับการเชื่อถือจากการออกสื่อต่างๆ เพราะเรารู้สึกว่าการที่จะออกมาโฆษณาใหญ่โตได้ก็คงที่จะต้องมีการรับรองความเชื่อมั่นให้กับเราในระดับหนึ่ง กิ๊บก็เลยรู้สึกว่าน่าจะเชื่อถือได้ค่ะ”

“นานา ไรบีนา” โพสต์ตามสคริปต์ แต่ไม่ได้ต่างจากความรู้สึกของตัวเอง
“โดยเบื้องต้นก็จะมีสคริปต์ส่งมาก่อนค่ะ และเราก็พิจารณาจากสคริปต์ มีการตัดทอนคำพูดบ้าง แต่สิ่งที่นานาลงไปทั้งหมดประมาณ 80-90% ก็มาจากสคริปต์ด้วย และเราดูแล้วความรู้สึกของเรากับสคริปต์ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากค่ะ โดยความสามารถของเรา ณ วันนั้นเราคิดว่าเรามั่นใจอย. ค่ะ เพราะเราคือผู้บริโภคคนหนึ่งที่ศึกษาสินค้าว่าควรใช้หรือไม่ควรใช้จากการที่ดูอย.ข้างกล่องเท่านั้นค่ะ และถ้ามีอย.ข้างกล่องมันก็คือความมั่นใจของการใช้ค่ะ”

“วุ้นเส้น” ออกตัวผลิตภัณฑ์ของตนคนละประเภท เกิดเหตุแบบนี้จะได้ระวังให้มากขึ้น
“คือสินค้ามันคนละประเภทกันค่ะ และแน่นอนว่าสินค้าที่เป็นอาหารและยาอย่างที่รู้ๆ กันว่าถ้าเราจะสร้างความเชื่อมั่นก็คือต้องมีอย. และสิ่งที่เราได้รับมาก็คือมีอย. เรียบร้อยทุกอย่าง แต่ว่าวันนี้พอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คือความรู้ใหม่ๆ ที่เราจะต้องระวังมากขึ้นค่ะ ก็ดีที่วันนี้ทุกคนได้มาชี้แจงก็จะได้มีความรู้กับประชาชน ให้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มและพวกเราก็จะได้ระมัดระวังมากขึ้น”

“ลีเดีย” ต่อไปจะดูให้ละเอียด
“ต่อไปก็คงจะต้องดูทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องของคุณภาพและอย. ให้เรามั่นใจมากกว่านี้ค่ะ ก็จะดูให้ละเอียดมากกว่านี้ เพราะตอนแรกที่รับมาเราก็ดูแล้วในเบื้องต้น และมีทางทีมเราที่ช่วยดูด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้นะคะ ก็ครั้งหน้าถ้ารับก็จะต้องดูแลในเรื่องของรายละเอียดให้มากกว่านี้ค่ะ”

การสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น สัปดาห์หน้านัดอีก 14 คน
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา : “กับการสอบสวนปากคำยังไม่เสร็จสิ้นนะครับ ในสัปดาห์หน้าส่วนที่นัดไว้ก็ต้องมาพบอีก 14 รายนะครับ แต่ว่าอีกล็อตหนึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและประกาศอีกล็อตหนึ่งครับ ก็เป็นล็อตใหญ่ หลังจากประกาศล็อตนี้แล้วก็คงจะสรุปได้ครับ ระหว่างนี้เราก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่นเพิ่มด้วย และเราต้องไปสอบผู้เชี่ยวชาญเพิ่มด้วย ผู้เชี่ยวชาญแต่ละผลิตภัณฑ์เลยนะครับ และต้องไปให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์สิ่งที่ดารานักแสดงที่ทำการโฆษณาว่าแต่ละคนโฆษณาอย่างไร ผิดหรือไม่อย่างไร หลังจากได้ผลพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญแล้วถึงจะกลับมาอีกทีหนึ่งว่าดารานักแสดงท่านใดมีความผิด ผิดหรือไม่ ผิดเพียงใดแค่ไหน ก็จะต้องว่ากันอีกครั้งหนึ่งครับ ขณะนี้ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังถือว่ามาให้ปากคำในฐานะพยานผู้ให้ถ้อยคำอยู่ครับ”

ผล อย. ชี้ชัด "เมจิกสกิน" ปลอมหมด โทษจำคุกถึง 10 ปี เตรียมดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินต่อ เผยดาราตกเป็นเหยื่อ ไม่รู้กลลวง สอบปากคำเพื่อเป็นพยาน
“ผลทางอย. ออกมาแล้วครับ ของเมจิกสกินคือเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม เครื่องสำอางปลอม อาหารเสริมปลอมครับ ซึ่งก็มีอัตราโทษสูงนะครับ มีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปีในเรื่องของอาหารปลอม ซึ่งได้กำหนดการที่จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ประกอบการก็คือผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัทเมจิกสกินนั้นได้ทราบ รวมทั้งผู้ที่เป็นผู้บริหารของเมจิกสกินทั้ง 2 ราย สองสามีภรรยาได้ทราบในข้อหาผลิตอาหารเสริมปลอม และเครื่องสำอางปลอม”

“สำหรับเรื่องอาหารเสริมปลอมนั้นมีโทษจำคุกถึง 10 ปี ซึ่งเป็นบทหนักก็ถือว่าแต่เดิมนั้นแจ้งข้อหาในเรื่องของฉ้อโกงประชาชน ก็โทษจำคุก 5 ปี แต่พอ อย. ตรวจพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นอาหารเสริมปลอม ก็โทษจำคุก 10 ปีก็เลยแจ้งข้อหาใหม่ให้ทราบครับ ขณะนี้กำลังเรียกผู้ต้องหาทั้งสองมาแจ้งข้อกล่าวหาครับ แต่ถ้าเรียกแล้วไม่มาก็จะได้ออกหมายจับในข้อหาหนักต่อไปครับ”

“ในส่วนของการยึดทรัพย์ ขณะนี้ก็รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ก็จะดำเนินการยึดทรัพย์กลับมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป ขณะนี้ต้องทำคดีมูลฐานคือฉ้อโกงประชาชนให้เรียบร้อย ให้มีพยานหลักฐานครบถ้วนก่อน พอได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้วก็ถึงจะไปดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินต่อครับ และในส่วนที่ฉ้อโกงประชาชนนั้นก็ขอเรียนว่าขณะนี้เราได้สอบสวนปากคำดารานักแสดงทั้งหมด 23 ปาก เป็นพยานยืนยันว่าเขาใช้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นบุคคลที่ประชาชนยอมรับและรักมาเป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงประชาชนของเขา แต่ว่ากลุ่มดารานักแสดงอาจจะไม่รู้กลลวงของเขา แต่เขาใช้เป็นเครื่องมือ วันนี้ก็เลยต้องมาสอบสวนปากคำผู้ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือนั้นเป็นพยานประกอบเพื่อยืนยันการกระทำผิดของผู้ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ครับ”

“การสอบสวนปากคำของทั้งที่เป็นดาราและไม่เป็นดารา รวมถึงหมอด้วยก็จะอยู่ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพราะเป็นหนึ่งในวิธีการที่ใช้ในการฉ้อโกงประชาชน แต่สำหรับกลุ่มดาราศิลปินนั้นในขณะนี้การสอบสวนถ้าก้าวไปไม่ถึงการมีส่วนร่วมในการฉ้อโกงประชาชนก็จะผิดในเรื่องของการโฆษณาครับ อย่างไรเสียก็ต้องไปสอบผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนครับ เพราะฉะนั้นในคำให้การของศิลปินดาราจะอยู่ในทั้งสองสำนวนครับ ทั้งสำนวนในส่วนของฉ้อโกงประชาชนและในส่วนของการโฆษณาครับ”

“ในส่วนของการฉ้อโกงนี้ต้องส่งอัยการภายในสัปดาห์หน้า แต่ว่าเนื่องจากเป็นข้อหาหนักที่แจ้งเพิ่มมาเป็นผลิตอาหารปลอมซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี ดังนั้นการที่เดิมผลัดฟ้องฟากขังได้เพียงแค่ 4 ฝาก ก็คือ 48 วัน เปลี่ยนเป็นโทษหนักคือ 7 ฝากก็คือ 84 วัน ดังนั้นจึงมีเวลาที่จะสอบสวนต่อได้อีกหลังจากที่แจ้งข้อหาหนักไปแล้วครับ ในส่วนของการรับโฆษณาเราแยกสำนวนการสอบสวนกันนะครับ อยู่คนละส่วนกัน ไม่ได้อยู่ในสำนวนนั้น เป็นในเรื่องของการโฆษณาเฉยๆ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของคดีฉ้อโกงประชาชน และไม่ได้เกี่ยวกับคดีการฟอกเงินครับ”
แจงความผิดของคนดัง หากมีพยานหลักฐานยืนยันว่าผิดก็ถึงจะดำเนินการแจ้งข้อหา แต่ถ้าไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าผิด ก็อยู่ในฐานะพยาน
“ในส่วนของการรับโฆษณาถ้าปรากฎว่ามีสารต้องห้ามนั้น ระยะเวลาเมื่อยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ดังนั้นกรอบเวลาที่นับหนึ่งนั้นจึงยังไม่ต้องนับ เพราะว่าไม่มีเรื่องของผลัดฟ้องฝากขังเข้ามา เป็นเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนบริบูรณ์ก่อนถึงจะชี้ได้ว่าท่านใดผิด ท่านใดถูก และในเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องของสิทธิเสรีภาพของแต่ละคนด้วย ดังนั้นการที่จะทำอะไรก็คงต้องรอบคอบ”

“ท่านใดที่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าผิดก็ถึงจะดำเนินการแจ้งข้อหา ถ้าไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าผิด ก็ไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหา ก็อยู่ในฐานะพยานครับ ก็คาดว่าตอนนี้เราเปิดล็อตสุดท้ายรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบล็อตสุดท้ายให้เสร็จ ก็ดำเนินการวิเคราะห์ว่าแต่ละคนนั้นมีการโฆษณาอย่างไร แต่ละคนนั้นผิดหรือไม่ ถ้าหากผิด ผิดเพียงไหน แค่ไหน ก็คงเร็วๆ นี้ครับ ซึ่งตัวผลของสารที่ออกมาก็เพียงแต่วิเคราะห์ว่ามีสารอะไรประกอบบ้าง แต่เราต้องไปสอบผู้เชี่ยวชาญต่อว่าในสารประกอบแต่ละตัว แต่ละชนิดจะส่งผลทำให้หน้าใส หน้าขาวหรือทำให้น้ำหนักลดจริงหรือไม่”

“และอัตราส่วนที่เขาผสมเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ในกี่มิลลิกรัมมันส่งผลอย่างที่ว่านั้นหรือไม่ อย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ และมี 3 วัน 5 วัน 7 วันอย่างที่โฆษณาหรือไม่ ซึ่งมันมีรายละเอียดอีกครับ ดังนั้นตรงนี้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญครับ ตอนนี้ผลเพิ่งออกมาของการพิสูจน์ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง เราก็เอาผลนี้ไปสอบแพทย์ สอบผู้เชี่ยวชาญ สอบเภสัชกร หลังจากนั้นถึงเอามาประยุกต์ปรับเข้ากับข้อเท็จจริงครับ”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)