ผู้เสียหายโผล่พรึ่บ “แพง ภิชาภัช” เผยคืบหน้าแจ้งความ “อั้ม แอบแซ่บ” คดีฉ้อโกง ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ยันไม่อยากได้เงินคืนแต่อยากได้ความถูกต้อง อัดหลอกซ้ำซาก ไม่สำนึก แถมมาดรามาใส่อ้างจะฆ่าตัวตาย ส่งรูปกรีดข้อมือมาให้ บอกขำๆ อย่าเพิ่งตาย มาใช้หนี้ก่อน มีอีกหลายเรื่องที่พูดไม่ได้
จากกรณีที่ “แพง ภิชาภัช มหาทิตยากุล” เดินทางไปโชว์ตัวในงานกาชาด จ. ราชบุรี โดยมี “อั้ม แอบแซ่บ” เป็นคนดีลงาน สุดท้ายกลับไม่ได้รับค่าตัว ให้โอกาสเคลียร์ก็เงียบไม่สำนึก งานนี้แพงและเพื่อนๆ อีก 8 คนเลยเข้าแจ้งความในคดีฉ้อโกง
โดยแพงเผยในงาน TOPSHOP Grand Opening the Biggest Flagship Store in South East Asia ณ ร้าน TOPSHOP CentralWorld ถึงความคืบหน้าคดี ยันตร.ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว เพราะอีกฝ่ายไม่มาตามหมายเรียก ย้ำจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
“ทำเรียบร้อยแล้วก็มีเอกสารมีหมายจับเรียบร้อย แต่แค่ว่ารอเจอตัวเขาและให้เขาเข้าไปรับฟังข้อกล่าวหา จริงๆ ในส่วนนี้เขาให้คนอื่นติดต่อมาคืนเงิน แต่ส่วนน้อยมากๆ ซึ่งมันไม่ใช่จำนวนเงินที่ถูกต้อง แล้วกับน้องหลายๆ คนที่เขาติดต่อมาทางแพง เพราะเขาเห็นว่าแพงแจ้งความไว้ แล้วน้องเขาก็แจ้งความด้วยคือเขาบอกว่าติดบล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ โทร.ไปไม่รับ ติดต่ออะไรไม่ได้เลย น้องคนอื่นเขาก็รวมตัวกันเพื่อไปแจ้งความ เพราะตอนนี้เจ้าทุกข์ค่อนข้างเยอะ มันจะกลายเป็นคดีฉ้อโกง ไม่ใช่คดีโกงทางแพ่งแล้ว เพราะมันเป็นคดีอาญา แล้วทางคุณอั้มเขามีคดีติดตัวอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นคดีลักขโมยรถหรือว่าลักทรัพย์ด้วย แล้วก็มีคดีฉ้อโกงอีกสองคดี ซึ่งถ้ารวมของแพงก็จะเป็นสามคดี”
“เขาไม่ได้ติดต่อไม่ได้อะไร และทางแพงก็ไม่ได้ติดต่อ เพราะแพงมองว่าแพงชัดเจนกับพี่เขามากแล้ว และคือให้เวลาแล้วจริงๆ เราไม่ได้ต้องการให้มันมาถึงตรงนี้ แต่แพงบอกไปแล้วว่าพี่ทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะถ้าพี่ทำแบบนี้พี่ก็จะทำกับคนอื่นต่อๆ ไป ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องคนติดต่อแพงมาเยอะมาก แล้วก็ส่งหลักฐานส่งอะไรมา ซึ่งจริงๆ แพงบอกว่าแพงไม่เกี่ยวนะ ซึ่งอันอื่นของคนอื่นแพงก็ไม่สามารถไปช่วยเขาได้เพราะแพงก็ไม่ได้มีข้อมูลหรืออยู่ในเหตุการณ์นั้น แพงขอเอาเหตุการณ์กับเพื่อนของแพงอีก 7 - 8 คนที่เจอบอกแจ้งดีกว่าแพงเลยใช้แต่ตรงส่วนคดีของแพง และแพงแนะนำคนอื่นว่าถ้าเกิดใครมีปัญหากับเขา หรือมีหลักฐานการโอนเงินแพงว่าเข้าไปแจ้งความดีกว่า เพราะจริงๆ มันมีที่นอกเหนือจากแพงก็ยังมีคนอื่นที่เขาแจ้งความคดีฉ้อโกงไปแล้วด้วย”
เงินไม่เยอะ แต่รับไม่ได้ อีกฝ่ายไม่ได้ทำครั้งแรก เอาเปรียบคนทำงาน แถมยังเอาชื่อคนโน้นคนนี้ไปอ้าง
“ไม่ได้เยอะหรอกค่ะ มันเป็นเงินแค่น้อยนิด แต่การที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแพงรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำครั้งแรกครั้งเดียว แพงก็เข้าไปถามหลายๆ คนที่เกิดเหตุการณ์ คือเขาทำมาหลายครั้งแล้ว พอเรื่องมันเงียบเขาก็ออกไปทำกับคนอื่นอีก ซึ่งเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่มีคนอื่นอีกเยอะมากที่เขาเดือดร้อน แพงรู้สึกว่ามันเอาเปรียบ ทำงานจะได้เงินมากเงินน้อยมันก็คือเงินที่เราสมควรจะได้ แล้วที่เขาทำแบบนี้มันกลายเป็นความเคยชินของเขา แล้วเอาชื่อคนโน้นคนนี้มาแอบอ้าง”
“สมมติหนูไปทำงานกับเขา เขาไม่จ่ายเงินหนู แต่เขาถ่ายรูปหนูไปอ้างกับคนโน้นคนนี้ ซึ่งเหมือนกับคดีนี้ที่เกิดขึ้นกับหนูคือเขาให้เพื่อนหนูซึ่งไม่เกี่ยวกับเขาเลยมาติดต่องานหนู เขาน่าจะเอาเครดิตเพื่อนมาอ้าง ซึ่งเพื่อนก็เสียใจ เดือดร้อน และไม่ยุ่งไปอีกเลย เหมือนเขาดีลงานกันแล้วเขาได้งานแล้วเอาชื่อเสียงเพื่อนเรามาอ้าง ทำอย่างนี้ต่อๆ ไป ซึ่งแพงคิดว่าชื่อเสียงเขาค่อนข้างไปในทางลบอยู่แล้ว มีปัญหาอยู่แล้วเขาเลยไม่สามารถติดต่อใครได้เยอะ”
“ในส่วนตัวหนูไม่รู้ว่าเขาเอาไปแอบอ้างหรือเปล่า แต่หนูแจ้งพี่เขาไปว่าทำไมหนูถึงไม่ให้ใช้รูปกับราชการจังหวัดเพราะเอารูปหนูไปโปรโมตและเอาไปขายในโปรเจกต์อื่นๆ ต่อ เพราะหนูและน้องทั้ง 7 - 8 คนที่เกิดเรื่องรวมความเห็นกันแล้วว่าถ้าคุณไม่จ่ายเงินคุณไม่สามารถเอารูปเราไปใช้ได้ ถ้าเราทำงานเสร็จแล้วคุณไม่จ่ายเงินเรา คุณจะเอารูปเราไปโปรโมตต่อหรือขายกับสปอนเซอร์อื่นๆ เพื่อเอางานอื่นต่อคุณทำไม่ได้ เพราะว่าคุณไม่ได้จ่ายเงินเรา แพงก็แจ้งเขาด้วยเหตุและผล”
บอกอีกฝ่ายติดต่อมาทางคนอื่น ไมอยากพูดด้วย พอพูดก็บอกจะฆ่าตัวตายให้ปวดหัว
“เขาติดต่อผ่านทางน้องอีกคนคือไดสุเกะ เพราะแพงจะไม่ค่อยได้คุยมากอยู่แล้ว เพราะว่าแพงไม่อยากดีลอะไรกับเขา พูดไปเขาก็พูดในเรื่องอื่นว่าเขาจะฆ่าตัวตาย แล้วเราก็ปวดหัวกับตรงส่วนนี้ ถามว่าจริงๆ เราสงสารมั้ยคือก็สงสาร แต่อยากให้ดำเนินตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นบทเรียนว่าถ้าคุณทำผิดคุณสมควรจะได้รับโทษ เพราะคุณไม่ได้ทำครั้งแรก คือเขาทำมาหลายครั้งแล้ว”
“และตัวแพงเองก็ไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น แต่แพงรู้สึกว่าทำไมต้องหลอกกันด้วย แล้วเอาชื่อแพงให้แพงไปหาน้องมาและเอาชื่องานการกุศลนะมาช่วยกัน ไม่ได้มีบัทเจ็ตเยอะนะคือเรารู้อยู่แล้ว คือหลอกซ้ำหลอกซ้อนและไม่สำนึกเลย แล้วจากผิดไปถูกหาว่าพวกเราไปรังแกเขาอีก ซึ่งหนูก็บอกว่าถ้าพี่ไม่มีเงินพี่จ้างพวกหนูไม่ได้ ซึ่งเขาก็บอกว่าจะได้เงินจากคนนั้นคนนี้ ซึ่งเพื่อนก็บอกว่าเขาไปหลอกเงินคนอื่นมาอีก กลายเป็นหลอกต่อๆ กันมา เราไม่อยากให้ใครเป็นเหยื่ออีกแล้ว หรือแม้กระทั่งคนธรรมดาที่อยากเป็นนักแสดงที่ต้องไปทำอะไรกับเขา”
“คือมันมีหลายอย่างที่แพงไม่สามารถพูดได้ เพราะบางเรื่องมันไม่ใช่เรื่องของแพงจริงๆ เอาในเคสของแพงดีกว่า การที่เขาหลอกหนูไปในป่า กลับบ้านตี 4 หมาจะไล่กัดหนูนะ หนูใส่ส้นสูงไปด้วย เพราะไม่ได้เอารองเท้าไปเปลี่ยน หนูก็บอกน้องๆ ว่าไม่ต้องลงเดี๋ยวพี่ลงเอง เพราะเราก็เหมือนว่าโตกว่า แล้วเราก็เป็นห่วงน้อง แล้วนางก็เดินใส่ส้นสูงลงไปก่อน เห็นเขาลงเราก็ลง เข้าป่า ลุยป่า ยุงกัดอีก ตี 4 ตี 5 กลับบ้าน”
ลั่นตลกมาก ส่งรูปกรีดข้อมือมาให้ บอกพี่อย่าเพิ่งตาย มาใช้หนี้หนูก่อน
“แรกๆ มีส่งรูปกรีดข้อมือมาให้ดู ซึ่งน่าจะเป็นรูปเก่าหรือไม่ก็ทาสีหรือเปล่าหนูก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องส่งมา พวกเธอกดดันฉัน ฉันจะตายแล้ว คือหนูก็แบบอย่าเพิ่งตายพี่มาใช้หนี้ก่อน (หัวเราะ) การตายไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น การบอกว่าจะฆ่าตัวตายมันตลกมากสำหรับหนู แต่หนูก็ไม่ได้อยากให้เขาตายนะ แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาเรื่องตายมาขู่เรา กลายเป็นว่าหนูบาปนะ”
“ตำรวจบอกว่าเขามีหมายเรียกอยู่ แต่ว่าไม่มาตามที่เรียก มันเป็นกระบวนการ คือที่มันเงียบไม่ใช่แพงเงียบนะคะ แพงก็ตามเรื่องอยู่ในส่วนของแพง และมันก็มีหมายจับซึ่งไม่ใช่ของแพงอยู่ด้วยค่ะ คือมีหลายคน แต่ขอไม่เอ่ยแล้วกัน เพราะเราไม่รู้ในตรงนั้น แต่ของเราออกหมายแล้ว หมายเรียกแล้วไม่มากี่ครั้งๆ ก็ว่ากันไป คุณตำรวจบอกว่าที่เราทำเราตามขั้นตอน เขาจะให้เราฟ้องด้วยซ้ำในคดีทางแพ่ง แต่แพ่งมันเป็นกระบวนการที่ยาวนานมาก ซึ่งถามว่าแพงจะสู้มั้ย แพงก็สู้ ไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากได้ความถูกต้องกับทุกๆ คน และอยากให้เขารับรู้ว่าคนทำผิดจะทำแบบนี้ต่อไม่ได้ ทำซ้ำทำซ้อนไม่ได้ ก็ขอบคุณนะคะพี่อั้มที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วันนี้ อย่างน้อยๆ ทำให้แพงเรียนรู้ว่าการดีลงานอะไรกับใครต้องทำให้มันชัดเจนกว่านี้ยิ่งขึ้น แล้วก็รอเจอตำรวจนะคะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)