“พอล ภัทรพล” เผยฤกษ์แต่งเมีย 11 พ.ย. บอกกางปฏิทินจิ้มเลือก แหวนหมั้น 3 กะรัต สินสอดขอเวลาคิด ไม่เชื่อเรื่องสินสอดเยอะแปลว่ารักมาก แพลนจัดงานวิวาห์เล็กๆ ภายในครอบครัว ไม่เชิญเพื่อนฝูง ฟุ้งเห็นแล้วชอบ แอบส่องในเฟซบุ๊ก ก่อนคบกัน 5 ปี ยันเป็นคนจิตใจดี ไม่ใส่ร้ายใคร ไม่งี่เง่า หยอดหวานเรียกว่า sunshine อยู่ด้วยแล้วเหมือนเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นแสงสว่าง ลั่นใจตรงกันไม่เอาลูก
หลังจากที่มีภาพอดีตพระเอก “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์” คุกเข่าขอแฟนสาว “ฟอว์น ไปยดา มหิทธนันท์” แต่งงาน ล่าสุดทั้งคู่ก็มาออกรายการ “หม้ายตัวแม่” ที่สตูดิโอ5 ช่อง 9 อสมท. ซึ่งเผยว่าฤกษ์แต่งคือ 11 พ.ย. เป็นฤกษ์สะดวก กางปฏิทินจิ้มเลือกกันเอง จัดเล็กๆ เป็นส่วนตัว มีแค่ญาติผู้ใหญ่สองฝ่าย ไม่มีเพื่อนๆ
พอล : “ก็ดีครับ สนุกดี ตื่นเต้นเหมือนกัน มันก็ความสุขไปอีกแบบครับ จริงๆ ผมว่าตั้งแต่ผมคบกับเขา ก็คิดมานานแล้วว่าคนนี้แหละที่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิตเลย เพียงแค่หาจังหวะว่าเมื่อไหร่จะได้ขอเขาแบบเป็นทางการ วันที่ขอเขา ผมว่าเรารู้กันอยู่แล้ว และด้วยความที่ฟอว์นไม่ชอบเซอร์ไพรส์ แต่ผมเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ ซึ่งเมื่อก่อนเคยทำมาหลายอย่างแล้ว อย่างวันวาเลนไทน์ก็ซื้อดอกไม้ให้ ซึ่งเขาก็ว่า ซื้อทำไม เปลือง”
“คือเขาเป็นคนนิสัยแบบนี้จริงๆ ครับ เพราะฉะนั้นตอนจะขอก็เหมือนกัน เรารู้เลยว่าถ้าเราไปเตรียมอะไรเยอะแยะ เช่น ดนตรีเอย หรือการเซอร์ไพรส์อะไรต่างๆ เขาก็ไม่ได้ชอบตรงนั้นอยู่ดี เราเลยตัดสินใจเอาแบบเรียบๆ ง่ายๆ เลยก็คือ วันเกิดไปกินข้าวกันนะ และเราก็ได้ขอเขาในวันเกิด อยากให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาเป็นของขวัญของเราที่ดีที่สุดเลยที่เราเคยได้รับมา”
ฟอว์น : “ตอนที่เขาขอก็ตื่นเต้นเนอะ จริงๆ เหมือนเราแอบคิดอยู่แล้วว่าวันนั้นอาจจะมี แต่ก็อาจจะไม่ (หัวเราะ) คือที่พอรู้ก่อนเพราะเราได้มีการคุยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะ และเขาก็มีคุยกับคุณพ่อคุณแม่เราอยู่แล้ว วันนั้นไม่มีน้ำตาค่ะ”
พอล : “เขาจะออกแนวขำมากกว่า จะเป็นแนวฮา ตัวจริงเขาเป็นคนตลกครับ”
บอกคิดว่าจะง่ายเพราะเคยขอแต่งงานในละคร แต่ในชีวิตจริงทุลักทุเลมาก
พอล : “ตื่นเต้นครับ ต้องบอกเลยว่าตอนแรกคิดว่าสบายมาก เรื่องแบบนี้ทำมาหลายครั้งแล้ว ผมหมายถึงเล่นละครนะครับ (ยิ้ม) ตอนเราเป็นพระเอกในทุกๆ เรื่องส่วนใหญ่ก็จะมีฉากขอแต่งงานในทุกรูปแบบ เราเลยคิดว่าเรามีโอกาสได้ซ้อมมาเยอะกว่าหนุ่มคนอื่นๆ แต่พอวันจริงปุ๊บผมยังไม่รู้เลยว่าจะเปิดกล้องแหวนทางไหน ทุลักทุเลพอสมควร แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ”
“ภาพรวมถือว่าเข้าเป้า สำเร็จ แค่ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ก็มีบ้าง อย่างดนตรีจริงๆ ต้องมาหลังจากที่เขาตอบตกลงแล้วนะ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ดนตรีมาก่อน แต่อันนั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเรามาก เพราะผมว่าทุกอย่างมันคือองค์ประกอบที่ทำให้ความไม่สมบูรณ์มันสมบูรณ์นะ”
บอกแต่งฤกษ์สะดวก 11 พ.ย. กางปฏิทินจิ้มเลือกกันเอง จัดเล็กๆ เป็นส่วนตัว มีแค่ญาติผู้ใหญ่สองฝ่าย ไม่มีเพื่อนๆ
พอล : “เราได้วันแล้ว ก็คือ 11 เดือน 11 นั่นก็คือวันที่ 11 พ.ย. ปีนี้ครับ มีคนถามเราว่าไปดูฤกษ์ที่ไหนมา บอกเลยครับว่าฤกษ์สะดวก เพราะเรากางปฏิทินกัน 2 คน ว่าจะเอาวันไหนดี ก็สรุปเลือกวันเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ แต่เราไม่ได้มีงานเหมือนคนอื่น ไม่ได้จัดโรงแรมเหมือนคนอื่นเขา เราชอบอะไรที่เป็นส่วนตัวงานเล็กๆ แล้วเราก็ได้มีการคุยกับทางคุณแม่ของฟอว์นแล้ว เขาก็เห็นด้วยว่างานเล็กๆ แบบนี้ โอเค ก็เชิญผู้ใหญ่ฝั่งเขาและฝั่ง มาทำพิธีเล็กๆ ร่วมกัน ส่วนเพื่อนๆ ที่เหลือเราก็มานัดกินข้าวกัน เป็นกลุ่มๆ กัน ปาร์ตี้เป็นที่บ้านผมเองครับ”
“เราคิดว่าจัดตอนบ่าย ทุกคนได้ตื่นสายๆ เราเป็นคนสบายๆ ทุกคนมาพร้อมเวลานั้น ฤกษ์สวมแหวนก็ยังไม่ได้คิดครับ เราเป็นแบบสบายๆ ให้ทั้งสองฝั่งสบายๆ ครับ”
ขอกลับไปคิดเรื่องสินสอด บอกไม่เชื่อว่าสินสอดเยอะแปลว่ารักมาก
พอล : “ผมนี่แหละครับ(หัวเราะ) ไม่ใช่ๆ จริงๆ ได้มีการถามทางคุณพ่อคุณแม่ไปเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ผมบอกมีเท่าไหร่ก็ได้ ท่านไม่ได้ซีเรียส เรื่องสินสอดยังไม่ได้คิด ยังไม่ได้เตรียม โดยส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยเชื่อเรื่องสินสอดว่าถ้าเยอะแปลว่ารัก น้อยแปลว่ารักน้อย ผมว่ามันไม่เกี่ยว แต่ถามว่ามีเพื่อให้ทางผู้ใหญ่สบายใจ เราก็ต้องทำ ส่วนตัวเท่าไหร่ขอไปคิดอีกทีแล้วกันครับ”
ถูกตั้งฉายาคู่รักร้อยล้าน ฝ่ายหญิงลั่นอยากได้ความสงบสุขทางใจ มากกว่าโฟกัสเรื่องเงินทอง
พอล : “คือผมเข้าใจคนอื่นที่มองเข้ามา ข้อแรกเลย สิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้นะครับ แต่จริงๆ เราแฮปปี้ เราเน้นทั้งสองฝ่ายแฮปปี้ ส่วนตัวเลขเป็นเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องรองมากๆ”
ฟอว์น : “ฟอว์นว่าปัจจุบันผู้หญิงทุกคนเราไม่ได้อยากได้สิ่งของ หรือเงินทอง โดยเฉพาะผู้หญิงปัจจุบันหาเงินเองได้ ซื้อของตัวเองได้ สิ่งที่เราอยากได้คือความมั่นใจมากกว่า ความสงบสุขในใจ อยู่ด้วยกันตลอดไป มีคนๆ หนึ่งรักเราแบบไม่มีข้อกำจัดมากกว่า”
ลังเลจดทะเบียน รับความคิดคล้ายกันไม่อยากมีลูก
พอล : “ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่ได้คิด จดไม่จดไม่ต่างสำหรับผมนะ เรื่องลูกก็ตอบได้เลยว่าไม่มี เราก็คิดเหมือนกัน ถึงได้อยู่ด้วยกัน ผมเองก็ไม่ได้อยากมีลูกตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเด็กนะ ผมแค่รู้สึกว่าเรามีเด็กที่ไม่มีครอบครัว เยอะแยะเลย ก็ไม่รู้ว่าเราจะผลิตเพิ่มทำไม ส่วนในมุมของเขาก็ไม่ได้อยากมีเหมือนกัน คิดคล้ายกัน”
ฟอว์น : “เราติดห่วงค่ะ เราก็รู้ว่าถ้ามีก็ต้องรักเขาเยอะๆ เขาไปไหนเราก็จะห่วงโน่นห่วงนี่ ด้วยความที่ทุกปี พี่พอลก็ส่งเด็กเรียนอยู่แล้ว ให้การศึกษา ส่งเด็กเรียน ยังมีเด็กอีกหลายคนที่ยังขาดด้านนี้อีกเยอะ ที่เราช่วยเขาได้ และไม่ต้องห่วงด้วย ก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า”
พอล : “ทางฝ่ายผมมีหลานเรียบร้อยแล้ว 2 คน คุณแม่โอเคแล้วนะ จริงๆ ต้องขอเสริมอีกนิดหนึ่ง อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ส่วนตัวเราเองไม่อยากมีลูก การเป็นพ่อแม่คนก็เป็นภาระ เป็นงานที่ใหญ่หลวงมาก ยาก และรู้สึกว่าเราคงเป็นได้ไม่ดี ก็ไม่เป็นดีกว่า แต่ยินดีเลี้ยงลูกเพื่อนนะ บอกเพื่อนทุกคนแล้วว่าถ้าไปเที่ยวเมืองนอก ติดงาน เอามาฝากเราได้”
ฝ่ายชายเผยเจอกันในงานแล้วชอบ แอบส่งในเฟซบุ๊กหลายปี
ฟอว์น : “มีอาชีพเป็นบิสิเนส เดเวลอปเมนต์ ร้านอาหาร และมีโปรเจกต์ใหม่ด้วยกัน เกี่ยวกับการพัฒนา คนทั่วไป หรือ องค์กร ผู้ประกอบการ”
พอล : “รักไม่ได้เริ่มต้นเพราะการทำงานด้วยกัน ไม่คิดว่าเราจะทำงานร่วมกันด้วยซ้ำไป เราแค่ชอบเขา เจอกันที่งานไหนซักงานหนึ่ง มากกว่าหนึ่งงานแน่ๆ และเรามีเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันหลายคน พอเจอเขาก็ชอบเขา ก็ไปส่องในเฟซบุ๊กเขา อยู่หลายปี ค่อยติดต่อทักเขาไป”
ฟอว์น : “เรื่องความประทับใจ ครั้งแรกน่าจะยังไม่ทันสังเกตเนอะ เจอกับแว้บๆ ตามงานอีเวนต์ คนเยอะมาก ถามว่าเขาจีบนานมั้ย ก็นานนะ แล้วไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาจีบ เขามาคุยในฐานะเพื่อน”
พอล : “ดูใจกันประมาณ 5 ปีนะ”
เป็นมากกว่าคนที่รักกัน เป็นคู่ที่เข้าใจกัน ไม่เคยทะเลาะ
พอล : “ก็มีบ้าง เราเป็นคู่ที่เข้าใจกันมากกว่า เราแทบไม่เคยทะเลาะกันเลยตั้งแต่คบกันมา มีทะเลาะกันเรื่องเดียวคือเรื่องกิน คือเกี่ยงกันว่ากินอะไรดี ช่วยคิดหน่อยนี่คือทะเลาะที่สุดแล้วของเรา นอกนั้นไม่มี ผมว่าเราเป็นคู่ที่เข้าใจกัน เราเป็นมากกว่าคนที่รักกัน เราเป็นเพื่อนที่สนับสนุนซึ่งกันและกันด้วย อยู่ด้วยกันทั้งยามดียามร้าย ก็ไม่รู้ว่าเรียกว่าหวานมั้ย โดยรวมเราเป็นคู่ที่มีความสุขแล้วกัน”
ประทับใจฝ่ายชายเป็นผู้ให้ สุภาพ รักแม่ วันแรกจนถึงวันนี้ทุกอย่างเหมือนเดิม
ฟอว์น : “ถ้าถามความประทับใจ เขาเป็นคนหนึ่งที่มีหัวใจที่ดี เขาเป็นผู้ให้ ฟอว์นชอบที่เขาเป็นคนสุภาพ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เขาก็ยังเหมือนเดิม เขาอยู่กับเราในวันที่ดีที่สุดและก็แย่ที่สุดเขาก็ยังอยู่กับเรา ที่สำคัญประทับใจที่เขาเป็นคนที่รักคุณแม่มากและด้วยความที่เราก็รักครอบครัว ฟอว์นก็รู้สึกว่าคุณแม่เขาก็รักเรา ครอบครัวเราก็รักเขา”
พอล : “เขามีหลายคุณสมบัติครับ แน่นอนเลยคือเขาเป็นคนดี จิตใจดี ไม่เคยพูดร้ายถึงใครเลยซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เขาเป็นคนห่วงใยคน พูดถึงเพื่อนในทางที่ดี ปฏิบัติกับพ่อแม่อย่างดี เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนรอบตัวเขาเล็กๆ น้อยๆ เขาดูแลหมด เป็นคนไม่งี่เง่า เขาเป็นคนที่คอยสนับสนุนเราตลอดไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร จะดีจะแย่เขาก็ยังอยู่กับเรา ผมจะชอบเรียกเขาว่า sunshine ก็คือพระอาทิตย์ขึ้น เวลาอยู่กับเขาเรารู้สึกเหมือนช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นแสงสว่างให้เรา”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)
