ในยุคที่โซเชียลมีเดียกำลังได้รับความนิยม บวกกับสื่อมวลชนเองที่ให้ความสนใจบุคคลที่มีชื่อตามสื่อโซเชียลฯ คงต้องยอมรับว่าถึงตอนนี้มีผู้คนมากมายหลายต่อหลายคนที่กลายเป็น somebody ขึ้นมาในสังคมบ้านเรา หนึ่งในนั้นที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ก็คือชายที่รู้จักกันดีในโลกออนไลน์ในนามของ “เสี่ยโป้” หรือนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ นั่นเอง
...
ดังจากเรื่องฉาวๆ
ชื่อของ “เสี่ยโป้” เป็นที่รู้จักขึ้นมาในช่วงที่เกิดคดีสะเทือนขวัญ “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” หลังสื่อมวลชนได้จับเอาประเด็นที่เจ้าตัวได้มีการเปิดเผยข้อความที่เคยสนทนากับหนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าวออกมา
จากนั้นสื่อฯ เองก็ให้ความสนใจต่อความเคลื่อนไหวของเขา มีการนำเรื่องราวมาเสนอเป็นระยะ ทั้งกรณีที่เจ้าตัวไปมีปัญหากับนายปัญญา ยิ้มอัมไพ หรือ “เก่ง ลายพราง” ที่ถูกศาลสั่งจำคุกในคดีครอบครองไอซ์ รวมถึงพยายามฆ่า, รวมไปถึงเรื่องที่เจ้าตัวไปมีการท้าตีท้าต่อยนักมวยดังอีกหลายคน
แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวไปมีข่าวกับนางวิภากร ศุขพิมาย หรือ “กานต์” อดีตภรรยาของนักร้อง-นักดนตรี “เสก โลโซ” (เสกสรรค์ ศุขพิมาย) หลังออกมาประกาศแบบไม่มีกั๊กถึงความสัมพันธ์ว่าแม้จะไม่ใช่แฟน แต่ก็เป็นมากกว่าเพื่อน ทั้งที่ตนเองก็มีเมียมีลูกนอนอยู่คาบ้าน
จากนั้นเรื่องก็อีนุงตุงนังมากขึ้น เมื่ออดีตภรรยานักร้องออกมาซัดอีกฝ่ายว่าได้เบี้ยวเงินที่ยืมไป 60 ล้านบาท ก่อนที่เรื่องจะมาจบลงล่าสุดที่ “เสี่ยโป้” ได้ถูกดำเนินคดีหลังมีการพกพาอาวุธปืนไปยังบ้านของฝ่ายหญิง ขณะที่เจ้าตัวก็พยายามจะชี้แจงว่าถูกอดีตภรรยานักร้องดังจัดฉากจนถูกตำรวจจับ
เสี่ยปลอมหรือเสี่ยจริง?
หลายวันมานี้ ทั้งเสี่ยโป้ และมารดา ต่างก็เดินสายออกรายการโทรทัศน์พูดถึงประเด็นดังกล่าว โดยเจ้าตัวยินดีจะรับผิดชอบเงิน 60 ล้าน ด้วยการผ่อนคืนเดือนละ 5 แสนบาท พร้อมยืนยันว่ามีช่องทางหาเงินมาใช้ได้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีชื่อปรากฏตามสื่อออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เฉกเช่นเดียวกับบรรดาคนที่สื่อฯ บ้านเรานิยามว่าเป็น “เน็ตไอดอล” หลายต่อหลายคน ที่นอกจากเรื่องฉาวๆ กับการทำตัวแปลกๆ ผ่านโซเชียลฯ แล้ว คนส่วนใหญ่จะรู้จักเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับของคนเหล่านี้น้อยมาก
โดยเฉพาะอาชีพ หน้าที่การงาน ว่าตกลงแล้วแท้จริงคนเหล่านี้ทำมาหากินอะไรกันแน่?
วันนี้ทีมข่าวบันเทิงเลยลงพื้นที่ไปดูบ้านของ “เสี่ยโป้” ย่านเพชรเกษม ก่อนพบว่าเป็นตึกแถวที่ปลูกสร้างติดกันเป็นจำนวน 7 ห้อง แต่ละห้องมี 4 ชั้นอยู่ท้ายซอย
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งห้องซึ่งอยู่ตรงกันข้ามที่เปิดเป็นโรงงานขนาดย่อมเพื่อรับผลิต ตัดเย็บ เสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งทั้งต่างประเทศ ตลาดโบ๊เบ๊ และย่านประตูน้ำ ถือว่าเป็นอาชีพหลักของครอบครัวของเจ้าตัวนั่นเอง
จากการสอบถามชาวบ้านละแวกนั้นเผยว่า ครอบครัวของนายอภิรักษ์จัดว่าอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่า “มีอันจะกิน” ไม่ได้ลำบากแน่นอน นอกจากนี้ ตัวของ “เจ๊อ้อม” มารดาของนายอภิรักษ์ก็ถือได้ว่าเป็นคนที่มีจิตใจดี อัธยาศัยดี ไม่คิดว่าจะไปมีเรื่องมีราวกับใคร แถมยังชอบช่วยเหลือทุกคนในละแวกดังกล่าวอีกด้วย
ขณะที่ในส่วนของเสี่ยโป้นั้นจะพักอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อ “อุ๊” และจะกลับมาบ้านหลังนี้เป็นประจำเพื่อเล่นกับสุนัขพันธ์ไซบีเรียน รวมไปถึงดูแลบิดาที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่ากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายและเพิ่งจะเข้ารับการผ่าตัดมาเมื่อไม่นานมานี้เอง
ทั้งนี้ เมื่อประเมินสินทรัพย์ต่างๆ นั้น คาดว่าจะมีมูลค่ารวมแล้วสูงหลายสิบล้านบาทเลยทีเดียว...