"ก็คิดถึงงเขา ก็เลยไปหาเขา” แคปชั่นหวานจากใจ “เปรี้ยว ทัศนียา” ถึง “หน่อง ปลื้มจิตร์” สาวหล่อนักกีฬาทีมชาติไทย เจ้าตัวยัน แค่พี่น้อง ชอบนิสัยแต่ไม่ได้อยากเป็นแฟน เสปคคบได้ทุกเพศ
ถูกจับตาความสัมพันธ์อย่างหนักหน่วง หลังมีคนเห็นแคปชั่น “ก็คิดถึงเขา ก็เลยไปหาเขา” ระหว่าง “เปรี้ยว ทัศนียา” กับนักวอลเลย์ทีมชาติไทยสาวหล่อ “หน่อง ปลื้มจิตร์” ว่ามันต้องมีมากกว่าคำว่าพี่น้องเป็นแน่ ล่าสุดเปรี้ยวขอเคลียร์ใจถึงความสัมพันธ์กับทีมชาติสาวหล่อว่า แค่พี่น้องจริงๆ เผยเวลาอยู่ใกล้เพราะทำให้ตนเองดูตัวเล็ก แต่ไม่ได้อยากได้เป็นแฟน เผยสเปคแฟนในฝันไม่จำกัดว่าต้องเป็นเพศไหน
“เขาก็เป็นเหมือนเพื่อนแต่เขาเป็นรุ่นพี่ คิดถึงจึงมาหา โดนบ่นยับเลย ไปเจอแล้วแต่ไปเจอได้ไม่นานด้วยความที่ถ่ายละครหนัก พอไปเจอนาง นางก็บ่นใหญ่ เดี๋ยวนี้นะดังแล้วไม่มาแล้วสนามวอลเล่ย์แต่นางน่ารักแซวขำๆ เพราะล่าสุดที่เจอคือตั้งแต่ที่เขาแข่งที่อินดอร์สเตเดียมมันก็หลายเดือนแล้วและอะไรสักอย่าง ซึ่งนานมากที่หนูไม่ได้ไปเจอเลยเพราะหนูถ่ายหนัง ส่วนหลายคนจับตาความสัมพันธ์ของเราสองคน ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หนูตอบหลายรอบแล้ว คือรูปที่หนูลงก็คืออรูปที่แฟนคลับของพี่เขาถ่ายให้ แล้วเขาก็เลยอยากให้เราลงในไอจีเพราะว่าไปเจอพี่เขามาจริงๆ ตัวหนูกับพี่หน่องไม่ได้มีอะไรกันเลย เหมือนเรารู้จักกันมา 2-3 ปีแล้ว ม้นนานแล้วเราสนิทกันก็คุยกันหัวเราะกอดคอกอดกันเหมือนเป็นพี่น้อง ซึ่งปกติคนก็จะให้จิ้นๆ กันหนูรู้สึกดีนะเวลาอยู่ใกล้พี่หน่อง เพราะเราจะได้ดูตัวเล็กไปเลย เพราะพี่เขาเป็นผู้หญิงที่ตัวสูง”
“แต่ถามว่าเขินไหม คือหนูเห็นแล้ว หนูก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วเพราะว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ ให้บรรยายด้วยภาพแล้วกัน เพราะอย่างที่บอกหนูชอบเขาเพราะว่าเขาเป็นคนที่น่ารักนิสัยตลก แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ชอบแบบอยากได้เป็นแฟน ไม่ใช่แนวนั้นนะ (แล้วเขามีมุมหยอกๆ ล้อเราบ้างไหม?) ไม่นะ เขาเป็นคนที่แบบไม่ได้เป็นเหมือนในรูปเลย เขาเป็นคนตลกๆ เป็นคนไม่ค่อยสนใจอะไรด้วย คุยกับเราก็จะเป็นไงบ้าง หายไปเลยนะ ออกแนวพูดคุยบ่นไม่มีแบบทางชู้สาวอะไรอย่างนั้นเลย”
“ส่วนพี่เขาจะมีแล้วหรือเปล่า อันนี้เราก็ไม่รู้นะ ที่เขาโพสต์เรื่องความรักก็ไม่น่าจะใช่หนูหรอก เพราะด้วยส่วนตัวก็ไม่ได้คุยไลน์กับเขาทุกวันหรือแบบอะไรขนาดนั้น ถ้าจะมีก็แบบหนูอยากไปเจอ หนูจะบอกพี่หน่องว่า หนูจะไปเจอนะ อะไรแค่นี้ แต่ไม่มีอะไรส่วนตัว อีกอย่างการที่หนูไปหาพี่เขา คนรอบตัวก็รู้ว่าหนูไม่ได้อะไรอยู่แล้ว หนุ่มๆ ถ้าเขาเจอตัวจริงของเรา เขาอาจจะสัมผัสได้ว่าไม่มีอะไร หนูไม่ได้คิดไรมาก หนูไม่ได้รู้สึกว่าการที่หนูไปเจอพี่หน่องไปดูวอลเล่ย์แล้วจะทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ ซึ่งถามว่ามีคนเข้ามาไหม มันก็มีบ้างนั่นแหละ แต่ไม่เคยมีแฟนเป็นพระเอกอยู่แล้วค่ะ ไม่เคยพูดเลยว่าเป็นแฟน”
“ส่วนมากคนที่เราคุยจะเป็นคนนอกวงการมากกว่า เพราะว่าคนในวงการหนูรู้สึกว่าเวลาที่มีให้กันมันน้อย หนูรู้สึกว่าคนนอกวงการเขาทำงานเขาก็จะมีเวลาที่ตายตัว เวลาเลิกงานแล้วนะเขาก็ว่างแล้ว แต่เนี่ยเป็นนักแสดงตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่าวันนี้เราจะเลิกกี่โมง หรือแบบพรุ่งนี้จะถ่ายกี่โมง มันต้องรอคิวมันรันรวนไปหมดเลย ถ้าเราคบกับคนในวงการมันเจอกันยาก เพราะการที่คนๆ หนึ่งจะคุยกัน มันต้องมีเวลาให้กัน มีเวลาแบบไปกินข้าว เป็นแฟนหนูต้องเวลาให้เพราะว่าหนูไม่มีเวลาเลย คืออย่างน้อยก็ต้องมีเวลาว่างมากกว่าเรา คือถ้าแบบยุ่งๆ ชนกัน หนูรู้สึกว่าแบบรับไม่ได้”
“จริงๆ สาวหล่อมีมาจีบตั้งแต่แบบ ม.ปลายแล้ว เพราะว่าหนูเรียนโรงเรียนสตรีล้วนไง ซึ่งพอเป็นข่าวกับพี่เขาก็มีสาวหล่อเข้ามาเยอะ แต่ไม่ได้เข้ามาจีบนะจะมีแบบเข้ามาในไอจีเข้ามาเม้นรูป จริงๆ แล้วมันก็เป็นการเพิ่มฐานแฟนคลับ แล้วก็คนที่มาชอบหนูก็ดีใจนะเพราะว่ามันเป็นไรที่ไม่เสียหาย คนจะมองยังไงก็แล้วแต่หนูแค่รู้สึกว่าหนูไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันไม่ดีหรือไม่งาม หนูก็รู้สึกว่ามันโอเค”
“สำหรับมุมมองความรักหนูเป็นคนไม่ปิดกั้นเรื่องเพศ ถ้าเกิดเขาเป็นคนดีเขาเข้าใจเรา แล้วแบบมันคุยกันรู้เรื่องจริงๆ เราก็โอเค ซึ่งมุมมองความรักจากวันนั้นจนวันนี้มันเปลี่ยนไปมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเป็นไรเลย คือหนูไม่เคยขวนขวายหาความรักเลย เป็นคนพอโสดก็อยู่ได้”