“เชน ณัฐวัฒน์” เซ็งดีลงานให้ “วีรภาพ” แต่ถูกกองประกวดนางงามเบี้ยวค่าตัว โพสต์ประจานเพราะรับไม่ได้กับคำตอบ บอกถึงจะได้เงินคืนแต่เข็ดแล้วขอร่วมงานกันครั้งสุดท้าย เลิกปากแข็ง ประกาศคบ “แพร พรรัมภา” 1 ปีแต่รู้จักเกือบ 20 ปี อยากพัฒนาให้ไกลมากกว่าคำว่าแฟน รับพาเข้านอกออกในบ้านตลอด รักใคร แม่รักด้วย ฝ่ายหญิงลุ้นขอวิวาห์ ถ้าไม่มา เดี๋ยวขอเอง
โพสต์ประกาศในอินสตาแกรมสุดเซ็ง กรณีโดนเวทีประกวดขาอ่อนระดับจังหวัดเบี้ยวค่าตัว สำหรับ “เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเครียดเพราะเป็นฝ่ายดีลพระเอกช่อง 7 ไปร่วมงาน แต่พอถึงเวลาไม่ยอมจ่าย อ้างหน้าตาเฉยนำเงินไปจ่ายส่วนอื่นหมดแล้ว รับไมได้กับคำตอบ
“ผมไม่อยากใช้คำว่าเบี้ยวเพราะทุกอย่างมันจบไปแล้วครับ จริงๆ มันเป็นการคุยที่ไม่ลงตัว ผมซีเรียสมาก ปกติผมไม่ค่อยลงอะไรอย่างนี้เท่าไหร่ คือผมไปดีลงานให้กับ พี่วีรภาพ (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) และ ซัน ธีรดล ในงานนี้ พอค่าตัวไม่ได้ เราก็ไม่มีตังค์ที่จะไปจ่ายเขาสองคน แล้วเราก็จะโดนเขาถามว่า อ้าว เงินค่าตัวล่ะ เสร็จงานแล้วทำไมยังไม่ได้ แล้วพอถามไปทางผู้จัดงาน ผมขอยืนยันนะครับว่างานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกองประกวดใหญ่ และไม่เกี่ยวกับพี่ณวัฒน์ (ณวัฒน์ อิสรไกรศีล) ใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการคุยกันระหว่างผมกับพีดีของกระบี่ที่จัดงานนี้”
“ซึ่งผมได้รับคำตอบว่าพี่ยังไม่มีตังค์ สำหรับผมมันเป็นคำตอบที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เขาไม่ได้บอกว่าให้รอเช็คกี่วันๆ เขาพูดว่าเขาเอาตังค์ไปจ่ายอย่างอื่นหมดแล้ว มันทำให้ผมรู้สึกว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไง จริงๆ คุณควรกันเงินไว้แล้วสำหรับค่าตัวของพิธีกรแล้วนักแสดงหรือเปล่า”
“พอผมฟังแล้วรู้สึกว่า ผมยอมไม่ได้ ผมรู้มาว่ามีน้องๆ บางคนโดน แต่เขาไม่ได้พูดอะไร ผมเลยเป็นเหมือนกระบอกเสียงมากกว่า ว่าคุณทำงานคุณต้องจ่ายตังค์นะ คุณตกลงอะไรไว้ก็ต้องทำ เพราะว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่ได้เดือดร้อนแค่ตัวผม มันเดือดร้อนถึงเครดิตของผมที่มีให้กับพี่กับน้องที่ผมเชิญมาร่วมงาน มันแค่นั้นครับ แต่พอหลังจากนั้นเขาก็มีการติดต่อมา เพื่อชำระและผมก็ถือว่าเพื่อชำระ และผมก็ขอจบเพียงเท่านั้น”
“ตอนนี้ได้เงินครบครับ เงินไม่ได้เยอะเลย ผมเลยสงสัยว่าเพราะอะไรเงินแค่นี้ คุณจัดงานระดับนี้แต่จ่ายให้ไม่ได้ ถามว่าเข็ดมั้ย ผมบอกอย่างนี้ว่าคือผมไม่ได้มีผู้จัดการ เวลาดีลงานผมก็ดีลด้วยตัวของผมเอง เพราะฉะนั้นมันก็จะยากกว่าดาราท่านอื่นที่มีผู้จัดการเข้าไปชน ผมทำทุกอย่างตามฟีลตามอารมณ์ของผมเอง งานบางงานผมอยากรับค่าตัวไม่ถึงผมอยากทำผมก็ทำ เพราะฉะนั้นเข็ดมั้ยคงไม่เข็ด แต่คงดีลงานให้ละเอียดกว่านี้”
“ถามว่าเสียความรู้สึกมั้ย เสียความรู้สึกกับคนรู้จักมากกว่า เพราะว่าคนที่ดีลมาเป็นคนที่รู้จักอยู่แล้ว แล้วก็ดีลเราในราคาพี่น้องช่วยกัน ไม่น่าทำกันแบบนี้ หลังจากนี้ถ้าของผมเองก็คงไม่คงต้องระวังอะไร แต่ถ้าจะต้องไปดีลให้คนอื่นให้มาร่วมงาน ผมจะต้องมีอะไรที่มันชัดเจนมากกว่านี้ เรื่องสัญญาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างที่บอกเป็นงานช่วยพี่น้อง มันไม่ต้องถึงขนาดต้องเซ็นสัญญาเพราะเงินก็ไม่ได้เยอะอะไร”
รู้จักไม่ถึงปี แต่เคยร่วมงานกัน 2 ครั้ง และครั้งนี้จะเป็นงานสุดท้าย
“เชื่อใจครับ ไม่ถึงปีมั้ง น่าจะประมาณปีได้ แต่เคยร่วมงานกันมาก่อน 2 รอบครับ และตั้งใจว่างานนี้คงเป็นงานสุดท้ายกับเขา เพราะก่อนหน้านี้ก็มีปัญหา เราก็ไม่อยากให้ผิดใจกัน เราก็อย่าร่วมงานกันเลยดีกว่า แต่เผอิญมาเกิดปัญหางานสุดท้ายพอดี”
ยังไร้หลักฐานอ้างชื่อดีลงานอื่น
“ผมขอไม่พูดถึงจุดนั้นแล้วกัน แต่ก็ได้ยินมา ซึ่งเราก็ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปพูด ยกเว้นว่ามีคนมาบอกผมว่า เขาเอาชื่อไปอ้าง ผมค่อยไปคุย แต่ถ้ายังไม่มีอะไรก็ช่างมันเถอะ ไม่อยากยุ่ง”
“ทำงานมา 10 กว่าปี นี่เพิ่งครั้งแรก ถ้าเขาจะจ่ายช้าก็เป็นเรื่องสบายๆ อยู่แล้ว ถ้าเขาบอกว่าเช็คเข้าวันนี้ๆ ก็จบ แต่ว่าเป็นประโยคที่ว่า เอาตังค์ไปจ่ายอย่างอื่นหมดแล้ว อ้าว แล้วเราล่ะ สิ่งที่ผมโพสต์อย่างที่ผมบอก ว่าปัญหาหลักคือผมดันไปดีลคนอื่นไว้ ถ้าเป็นเราคนเดียวคงไม่เดือดร้อนมากมาย มันรู้สึกว่าเสียเครดิตตัวเอง ก็เลยตัดสินใจโพสต์ ซึ่งถ้าถามว่าเดือดแค่ไหน ตอนนั้นไม่ได้เดือด แต่ต้องการเป็นกระบอกเสียงมากกว่า คุณทำงาน ตกลงอะไรไว้ คุณควรจำทำที่ตกลงมากกว่า”
ไม่ปฏิเสธ คบ “แพร พรรัมภา สุขได้พึ่ง” รู้จักมาเกือบ 20 ปี เคยจีบตอนอยู่ปี 1 บอกแต่อยากก้าวข้ามคำว่าแฟนเป็นอย่างอื่นมากกว่า ถ้าพัฒนาไปได้
“คุยครับ ไม่ได้ปฏิเสธครับ ถามว่าความสัมพันธ์ถึงไหนแล้ว ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วเราใช้ชีวิตอย่างนี้ เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ผมอายุเยอะแล้ว แพรก็อยู่ในวัยที่เท่ากัน เรารู้จักกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ผมอยู่ปีหนึ่ง ผมไปจีบเขาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ไม่ได้คบกันครับ จีบไม่ติดครับ แต่ตอนนี้ก็เป็นเหมือนคนที่รู้จักกันมานาน รู้ไส้รู้พุงกัน เขารู้ว่าตัวผมเป็นยังไง ผมไม่มีความจำเป็นต้องเฟกอย่างโน้นอย่างนี้ ผมเป็นตัวของตัวเอง เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ตอนนี้ก็ค่อยๆ พัฒนาไปครับ จะใช้คำว่าแฟนก็ได้ อายุปูนนี้แล้ว แต่ว่าอยากก้าวข้ามคำว่าแฟนเป็นอย่างอื่นมากกว่า ถ้ามันพัฒนาไปได้”
ไม่ได้พูดสักคำเรื่องแต่งงาน ยอมรับเหวอ ถูกปล่อยข่าวลือแต่งปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
“เรื่องแต่งงานปลายปีนี้ ทำไมผมยังไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) แม่ผมมาถามว่าทำไมไม่บอกเขาว่าจะแต่งงาน ผมบอกว่าผมยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะแต่งงาน คำว่าแต่งงานคือมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่จะเป็นเรื่องที่เราจะพูดออกมาโดยไม่ทันคิด รอให้ผมไปขอก่อน แล้วเดี๋ยวจะแต่งครับ แต่ว่าตอนนี้เราเพิ่งเริ่มต้นคุยกันจริงจังไม่นานมาก คำว่าเพื่อนและแฟนมันต่างกันเยอะนะ เราต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากัน”
“ถามว่าใช่มั้ย เรียกว่าสบายใจครับ ไม่หวัง ไม่คิดอะไรแล้วทั้งนั้น เราเคยผิดหวังกับความรักมาแล้ว เราขอให้ทุกอย่างไปเรื่อยๆ ไม่แน่ถ้าวันนี้เราพร้อมพรุ่งนี้ก็แต่ง แต่ถ้าถามตอนนี้ก็ยัง เรื่องขอเป็นแฟนไม่เคยพูดเรื่องนี้นะ แต่ฟีลมันก็ประมาณนั้น ผมอายุเท่าไหร่แล้ว จะมาถามกันเราใช้คำว่าแฟนหรือเปล่า มันก็ตลกๆ”
พาเข้านอกออกในบ้านปกติ ยันตนรักใคร แม่รักด้วย ฝ่ายหญิงลั่นถ้าไม่มาขอเดี๋ยวขอเอง
“แม่ผม ครอบครับผม เรารักใคร เขารักหมดครับ ไม่ต้องถาม เพราะว่าคนที่เราเลือก เราถูกปลูกฝังมาโดยพ่อแม่เรา คนที่เลือกผมมั่นใจว่าต้องเข้ากับที่บ้านผมได้อยู่แล้ว (พาเข้าไปที่บ้านหรือยัง?) เข้าครับ เข้าปกติ”
“เราคุยกันมาประมาณ 1 ปี แต่ก่อนหน้านี้สนิทกันอยู่แล้วครับ แพลนไปขอก็ยังไม่มีครับ ช่วงนี้คนแต่งงานกันเยอะครับ ให้คนอื่นแต่งไปก่อนครับ ไม่ใช่ปีนี้แน่นอน เรื่องจองๆ คือเขาพูดนะไม่ใช่ผมพูด ถ้าไม่มาขอเดี๋ยวขอเอง (หัวเราะ) แต่ไม่หรอก ทุกอย่างอยู่ที่สบายใจ คุยกันในฐานะไหน ถ้าสบายใจก็สบายใจ”
“เราไม่ได้คุยกันเรื่องแต่งงาน คือผมตอนนี้เราทำธุรกิจด้วยกัน สองตัว เราเลยโฟกัสเรื่องงานเป็นหลัก ตอนนี้ทั้งออกร้านขายเนื้อตามตลาดนัด ขายครีม เลยคุยกันแต่เรื่องงานตอนนี้ ช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวครับ กับบ้านเขาเจอกันเรื่อยๆ ครับ คุณแม่เขาน่ารัก แม่เขาค่อนข้างแมนพอสมควร อย่างเวลามีปัญหาก็คุยกับเราปกติเลยครับ ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)
