“อั้ม พัชราภา” อิ่มเอมใจ คว้า 3 รางวัล ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ นักแสดงหญิงที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ละครที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ยันเล่นละครเรื่องใหม่แน่ แค่รอบทสรุป เผยโกรธหัวสั่น โดนสื่อพาดหัวบิดเบือนข่าวคดียักยอกทรัพย์ 39 ล้าน ย้ำเป็นแค่พยานให้แฟนคลับ ซีเรียสเพราะคนไทยอ่านหนังสือไม่กี่บรรทัด แค่เห็นพาดหัวก็เชื่อแล้ว ปล่อยทนายจัดการ จะเรียกค่าเสียหายตามอายุการทำงาน
กวาดไปถึง 3 รางวัล สำหรับ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ในงานประกาศรางวัล MThai Top Talk-About 2018 ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งรางวัลผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์, รางวัลนักแสดงหญิงที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด และละครที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ซึ่งอั้มก็เผยว่าเป็นรางวัลที่อิ่มเอมใจที่สุด
“อิ่มเอมใจเลยละค่ะ ปลื้มใจมาก ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ทำให้อั้มได้ถึงสองรางวัล แล้วก็ของเพลิงพระนางอีกเป็นสามรางวัลเลยค่ะ คนเสิร์จหาชื่อบนโลกออนไลน์เยอะ ส่วนหนึ่งก็เพราะทุกคนสนับสนุนอั้มมายาวนานมาก ตั้งแต่อั้มยังเด็กจนตอนนี้อั้มก็ยังเด็ก ทุกคนก็ยังสนับสนุนอั้มอยู่ ทำให้อั้มได้รางวัลนี้ ก็ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ จริงๆ หายเหนื่อยมานานแล้ว แค่เดินมาเจอคนยิ้มให้อั้มก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ วันนี้เสียงกรี๊ดเยอะมาก อาศัยแฟนคลับคนอื่นเขาด้วยค่ะ (หัวเราะ) ก็ขอบคุณน้องๆ ทุกคนนะคะที่มาให้กำลังใจวันนี้”
“เรื่องเพลิงพระนาง คือเรื่องนี้ก็ดังอยู่แล้ว จากของเดิมที่เขาทำมาก็ดังอยู่แล้ว โซเชียลก็เกี่ยวด้วยเป็นแรงผลักดันให้เพลิงพระนางดังยิ่งขึ้นไป และทำให้เราได้รับรางวัลในวันนี้ และอั้มได้ของนักแสดงด้วยจากละครเรื่องนี้ ก็ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ M-Thai ที่ทำให้อั้มมารับรางวัลในวันนี้ค่ะ”
เรื่องต่อไปเล่นแน่ รอแค่สรุป
“คือเล่นต้องเล่นอยู่แล้ว จริงๆ อั้มก็ชอบเล่นละคร แต่คือเล่นบ่อยๆ อั้มก็อยากจะพักบ้าง แต่จริงๆ อั้มชอบเล่นละครค่ะ ก็อยากจะเล่นละครต่อไปด้วย ตอนนี้รอเขาสรุปกันค่ะ เปิดกล้อง ยังมีเรื่องบทด้วย ตัวอั้มโอเคแล้วเรียบร้อยค่ะ ได้เห็นแน่นอนค่ะ”
โมโห ถูกเพจบิดเบือนตีข่าวยักยอกทรัพย์ 39 ล้าน ถามอยู่มานานกี่ปีรู้มั้ย ถ้าจะเรียกอะไรต้องเรียกตามอายุการทำงาน
“ก็โมโหเพราะว่าเพจบางเพจก็จะบิดเบือน ไม่ใช่บิดเบือนคือลงไม่เป็นความจริงดีกว่า เรารู้สึกว่าเราอยู่วงการนี้มานานไม่เคยทำแบบนี้ อยู่วงการมากี่ปีรู้มั้ย นานมากเลย เวลาเราจะเรียกอะไรมันก็ต้องเรียกตามอายุการทำงานที่มันยาวนานเหลือเกิน คืออั้มไม่ห่วงเรื่องเพจใหญ่ๆ นะคะ เพราะอย่างนักข่าวรุ่นใหญ่ๆ จะรู้อยู่แล้วว่ามีประสบการณ์แล้วว่าการลงยังไงทำให้โดนฟ้องได้ ไม่โดนฟ้องได้ แต่เพจเล็กๆ เขาอาจจะไม่รู้ ฉันไม่รู้แหละ รีบลงไว้ก่อน ได้เปรียบก่อน แต่อั้มเห็นว่าคนที่ลงก่อนลบไปแล้ว ส่วนใครที่ไม่ลบตอนนี้ไม่เกี่ยวกับอั้มแล้ว อั้มให้ทนายความเป็นคนดูต่อค่ะ ในส่วนของคดีทนายเป็นคนจัดการหมดค่ะ อั้มถ้าจะทำอะไรก็ขั้นสุดท้ายเลยค่ะ ตอนนี้อั้มไม่ขอรับรู้อะไรเลยค่ะ”
“ในยูทิวบ์เห็นว่ายังมีอยู่นะคะ อันนี้อั้มขอไม่พูดอะไรเนาะ แต่คนที่ลงแรกๆ อั้มเห็นว่าลบไปแล้ว เหลือแต่ตามดูต่อไป จริงๆ เราไม่อยากจะอะไรรุนแรง เป็นพี่ๆ น้องๆ กัน ก็สนับสนุนกันมายาวนาน แต่มันเป็นเรื่องเงินเรื่องทองมันก็เสียหาย เราอยู่มานาน ก็ไม่เคยขอเงินใคร ไม่เคยได้เงินใครฟรีค่ะ”
ยิ่งกว่าปรี๊ด บอกเดินเข้าบ้านหัวสั่นเลย
“ยิ่งกว่าปรี๊ดค่ะ อยู่บ้านนี่แบบอื้อหือ เดินเข้าบ้านมาหัวสั่นเลย (หัวเราะ) (เพลิงพระนางของแท้เลย?) โอ้โห ลงเลยค่ะ ลงทั้งบ้านค่ะ ตอนนี้อั้มไม่ยุ่ง แต่หลังจากที่อั้มให้กำหนดแล้วก็ให้คุณทนายช่วยอั้มดูหน่อยนะคะ คือตอนนี้อั้มไม่รู้ว่าลบไปแล้วหรือเปล่า อั้มไม่ได้ตามดูแล้ว อั้มไม่อยากปวดหัวค่ะ”
ต้องซีเรียสเพราะคนไทนอ่านหนังสือไม่กี่บรรทัด แค่อ่านพาดหัวก็เชื่อกัน ยันแค่เป็นพยาน เป็นเรื่องของแฟนคลับ
“ก็กระทบค่ะ เพราะคนบางทีอย่างที่เรารู้ว่าคนไทยอ่านหนังสือแค่กี่บรรทัด บางทีอ่านหัวข่าวเราตกใจเลยว่าตายละเกิดอะไรขึ้น เป็นพยานค่ะ เป็นพยานให้เขาเพราะมันเป็นเรื่องแฟนคลับทั้งคู่กันเลย แฟนคลับอั้มฝ่ายหนึ่ง แต่อั้มไม่ขอพูดอะไรเนอะ เป็นเรื่องของเขาค่ะ อั้มบอกคุณทนายไว้เลยว่าพี่คะช่วยดูให้อั้มหน่อยนะคะต่อจากนี้ เขาก็บอกว่าอั้มไม่ต้องทำอะไรเลย ให้อั้มมอบอำนาจและสุดท้ายเลยทีเดียวค่ะ”
“ถ้าเขามาขอโทษ จะขอโทษจากไหน เพราะอั้มไม่ได้รับรู้ข่าวสารจากไหนเลยค่ะ ก็ปล่อยให้ทนายจัดการค่ะ อั้มเห็นว่ามีการลบบ้าง บางอันก็เปลี่ยน เพราะอั้มไม่ได้บอกให้ลบนะ บางทีก็เปลี่ยนได้ เปลี่ยนคำพูดให้มันถูกต้องว่าอั้มไปทำอะไรวันนั้นค่ะ”
โอด ถูก “น้องหมาแสนดี” โมโห ทำลายข้าวของ ทำใจดุไม่ลง
“แสนดีเขาโมโหอั้ม เพราะสองวันที่ผ่านมาถ้าเห็นว่าอั้มลงรูปนะคะชุดกระโปรง เขาจะเข้ามาขอเข้ากล้องตลอด อั้มก็บอกว่าหลบไปหน่อย บางทีขอถ่ายรูปให้ลูกค้าที่เขาส่งแว่นมาให้บ้าง ก็บอกให้หลบไปหน่อยบางทีอยากถ่ายเดี่ยวๆ นางก็เริ่มงอน วันแรกก็ง้อได้ วันที่สองก็เริ่มงอนจริงๆ นางก็หันหลังให้ เราก็คิดว่าไม่เป็นไรเราออกไปข้างนอกก่อนแล้วกลับมาง้อ เรากลับมาดึก แล้วก็ไม่ได้เข้าไปง้อเขาในห้อง เพราะเขาจะเข้าห้องตอนสี่ทุ่ม เรากลับมาห้าทุ่มกว่าก็ไม่ได้ง้อเขา ก็แค่เอ้อ...แสนดี แค่นี้ แล้วเขาก็โกรธ หลังจากนั้นเขาก็ทำลายข้าวของ แต่จริงๆ เป็นบ่อย มุ้งลวดก็สี่รอบแล้ว ก็เปลี่ยนมาเป็นเหล็กดัด วอลเปเปอร์ก็สองแล้ว ผ้าม่านอันนี้ครั้งที่สองแล้วค่ะ”
“ถามว่าทำโทษเขามั้ย เห็นรูปแล้วทำลงมั้ยล่ะ ทำไม่ลง แต่เราก็พูดกับเขา เขาก็ไม่เข้าใจหรอก เพราะเขาเป็นสุนัข เหมือนเราพูดคนเดียวค่ะ ก็บ่นๆ กับเขา อย่างอื่นก็ยังไม่ซ่อมค่ะ เอาไว้ก่อน รอโมโหทีเดียว ค่อยซ่อมทีเดียว คือในห้องเขาก็มีแค่วอลเปเปอร์ กับผ้าม่านค่ะ ก็คิดจะเปลี่ยนรูปแบบห้องอยู่นะ เราก็อยากให้ลูกสาวก็เป็นเจ้าหญิง ปูนเปลือยก็แมนไป แต่เราก็อยากได้แบบนั้น เพราะทำความสะอาดง่ายด้วยค่ะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)