“กระติ๊บ ชลัลกร” ตอบแบบไม่ตอแxล! ไม่อยากรับบทแม่ เลยไม่ต่อสัญญาช่อง 7 เผยอยากโกงอายุให้นานที่สุด หวั่นขึ้นบัลลังก์แล้วลงไม่ได้ ไม่ได้เซ็นต่อก็ไม่ได้แปลว่าไม่รักกันแล้ว เผยหยุดรับงาน 6 เดือน บินไปเมืองนอกใช้ชีวิต 3 เดือน แอบสะเทือนใจแม่ค้าทักสุดพีก ไม่หวั่นอิสระแล้วไม่มีใครกล้าจ้าง ถึงไม่ใช่ตัวแม่แต่ฝีมือไม่เป็นรองใคร เผยยืดเรื่องแต่งงาน ชีวิตไม่มั่นคง เหมือนลงสนามรบอีกครั้ง
ไม่ต่อสัญญาช่อง 7 ไม่พอ นางร้ายที่โด่งดังสุดขีดจากบทตองนวลในละครเพลิงพระนาง “กระติ๊บ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล” กลับหนีไปใช้ชีวิตเงียบๆ ที่เมืองนอกนานถึง 3 เดือน เรียนทุกอย่างที่อยากจะเรียน ทำทุกอย่างที่อยากจะทำ ล่าสุด เจ้าตัวก็กลับมาเมืองไทย พร้อมเปิดใจพร้อมลุยงาน ไม่หวั่นอิสระแล้วไม่มีใครกล้าจ้าง ถึงจะไม่ใช่เบอร์หนึ่งแต่ฝีมือไม่เป็นรองใคร
“วันที่หมดก็คือ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาค่ะ ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระค่ะ เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นเลยค่ะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ เราไปเรียนที่ญี่ปุ่น ไปเรียนทุกอย่างที่อยากจะเรียน คือเหมือนกับว่าเราเข้าวงการมาตั้งแต่ตอนอายุ 19 ปี เราไม่เคยสัมผัสชีวิตเด็กที่อยู่เมืองนอก ใช้ชีวิตเอง ไปเรียนตีกลอง จัดดอกไม้ ไปเรียนภาษา ไปเรียนมา 3 เดือนค่ะ เรียนหลายอย่างเลย”
ไม่ได้ฉีกสัญญา จากกันด้วยดี ชี้ไม่อยากเซ็นต่อจนอายุ 35 ปี
“จริงๆ ความจริงคือเหมือนผู้ใหญ่เข้าไปคุยกันตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ว่าจะให้ต่อ แต่ถ้าต่อก็คืออีก 5 ปี เพราะช่องจะให้เท่าเทียมกันหมด คือ 5 ปี แล้วถ้าต่ออีก 5 ปี เราจะอายุ 35 ตอนนี้เราก็จะ 30 แล้ว มันจะหมดอีกที 35 แต่ว่าคือเราจากกับช่อง 7 ด้วยดี เราไม่ได้ฉีกสัญญา ก็เลยจะเอาช่วงเวลาที่ว่างไปเรียน ไปเที่ยวอเมริกา ไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็คือนี่เพิ่งกลับมาเลยค่ะ อายุ 35 เราก็คิดว่าเราแก่เกินไปค่ะ”
“ถ้าถามว่าทำไมถึงยอมทิ้ง ทั้งที่กำลังดังจากตองนวล คือ (หัวเราะ) มันก็ไม่เชิงขนาดนั้น เหมือนกับมันจะมาพร้อมกับสัญญาถ้าเกิดเรารับละครอีกเรื่องหนึ่งเราก็ต้องต่อสัญญาอีก 5 ปี เราเองก็สัญญากับพี่กุ๊กกิ๊กว่าเราจะไม่ฉีกสัญญา แล้วก็จะไม่ไปรับที่อื่นก่อน แล้วติ๊บก็ไม่ได้ไปคุยกับที่อื่นก่อนว่าเราจะออกแล้วนะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปคุยที่ไหนเลย เราไม่เซ็นกับเขาแต่ไม่ได้แปลว่าเราไม่รักเขา แล้วเราจะไม่ได้ร่วมงานกันอีก แค่เหมือนกับว่าขอบเขตตอนนี้คือถ้ามีอะไรที่อยากทำก็ทำ แต่ถ้าเกิดช่อง 7 เรียกใช้ก็กลับไปทำเหมือนเดิม คือไม่ได้โกรธกันค่ะ”
“เรื่องการแสดง จริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย คือ ที่ผ่านมาไปใช้ชีวิตแบบไม่ได้คุยเรื่องวงการบันเทิงเลย เรายังไม่ได้คุยเรื่องละครกับใครที่ไหนเลยค่ะ ยังไม่มีใครติดต่อมาเลย”
ไม่อยากรับบทแม่ อยากโกงอายุให้นานที่สุด หวั่นขึ้นลงจากบัลลังก์ไม่ได้
“จริงๆ ติ๊บรู้สึกว่าติ๊บก็ยังรู้สึกอยากให้อายุการทำงานวงการของติ๊บมันนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือเราโกงอายุไปก่อน ช่วงนี้ยังวัยรุ่นได้อยู่ก็วัยรุ่นไปก่อน ตอนนี้ 29 เอง ถ้าถามว่ามีส่วนที่ทำให้ไม่ต่อสัญญามั้ย ก็จริง มีส่วน แต่มันก็ไม่ใช่ทุกเรื่อง คือช่อง 7 ให้บทมาเลือกประมาณ 4 - 5 เรื่อง แต่เราก็รู้สึกว่า บอกตรงๆ เลยนะถ้ามันโกงได้ ก็ยังจะโกงไปก่อน(หัวเราะ) ขอก่อนตอนนี้รู้สึกว่าหน้ายังไม่แก่ขนาดนั้น ถ้าเกิดเราไปรับเดี๋ยวมันจะยาวไป ถ้ารับแล้วมันก็จะลงจากบัลลังก์ไม่ได้แล้วไงตอนนี้ คือลูกมาแล้วไง ก็คือพักก่อนนะพูดกับตัวเองแบบนี้ ก็เลยไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ส่วนหนึ่ง ไม่ตอแxลเลย(หัวเราะ)”
มั่นใจถึงจะไม่ใช่เบอร์หนึ่งแต่ฝีมือไม่เป็นรองใคร
“แต่เราเชื่อว่าถ้าเป็นนักแสดงสมทบในช่อง 7 เราก็ไม่ได้เป็นรองใครนะคะ (ยิ้ม) ตอนนี้ติ๊บแค่ยังไม่ได้คุยกับใครเท่านั้นเอง ถ้าถามว่ามีบทแบบไหนที่อยากเล่น ความจริงเลยนะ ตอนนี้อยากลองทำงานเกี่ยวกับพิธีกรดู ส่วนละครยังไม่ได้คิดเลยว่าอยากเล่นบทไหน ยังไม่ได้มีในใจ แต่ว่าส่วนหนึ่งที่อยากทำจริงๆ ตอนนี้คืออยากกลับมาวาดรูป”
“วันนี้พร้อมลุยงานเต็มที่ค่ะ แต่ว่าเรายังไม่ได้ไปคุยกับที่ไหน ไม่ถึงขนาดนั้น เรื่องไม่ต่อสัญญาถ้ามองว่าเป็นการโกงความตาย มันก็ต้องเสี่ยง เราไม่ได้มองว่าเขาจะเลือกเราหรือเราจะเลือกเขานะ เรามองแค่ว่าอยู่ตรงนี้มา 10 ปีแล้ว ถ้าเหมือนได้ออกไปเห็นโลกกว้าง มันก็น่าจะลองดูเท่านั้นเอง ก็คุยกับพี่กุ๊กกิ๊กว่าถ้าเกิดติ๊บยังไม่ได้รับเล่นละครที่ไหน ติ๊บก็ยังพร้อมจะกลับไปเล่นช่อง 7”
ไม่หวั่นจะไม่มีโอกาสกลับไปร่วมงานช่อง 7 อีก ว่าง 6 เดือนก็ไม่ได้บอกใคร
“ไม่ค่ะ อย่างช่วงพระราชพิธีที่ผ่านมา ตอนนั้นติ๊บอยู่ที่ญี่ปุ่น ช่องก็ยังให้ไปร่วมกิจกรรมของช่องอยู่ เราไม่ได้จากกันโดยที่ไม่รักกันกัน ติ๊บไม่ได้ทำให้ช่องเสียใจ ติ๊บไม่เคยบอกว่าไม่ได้รักช่อง ติ๊บอยู่ว่างๆ มา 6 เดือน ยังไม่ได้ไปคุยกับที่ไหน เหมือนเป็นเครื่องยืนยันว่าติ๊บยังไม่เลือกที่ไหน ขอดูไปเรื่อยๆ ก่อน เรื่องบทตอนนี้เรื่องละครขอดูก่อน”
ไม่ได้ฝันว่าจะต้องสานต่อความดังให้ไกลมากกว่านี้
“ตอนนี้ติ๊บยังไม่ได้ฝันไปไกลขนาดนั้น หนูแค่รู้สึกว่าขอดูโอกาสที่เข้ามาก่อน แต่ไม่ได้เย่อหยิ่งว่าเราจะต้องดังกว่านี้หรือจะต้องไปไกลกว่านี้ ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น”
ความรักแฮปปี้ วันนี้ยังอยู่ข้างๆ สะเทือนใจ ไม่อยู่เมืองไทย 3 เดือน ถูกแม่ค้าทักสุดพีก
“เหมือนเดิม คนเดิม ตอนไปญี่ปุ่น เขาไม่ได้ไปด้วย เราไปเรียนคนเดียว ห่างกัน 3 เดือนก็ไม่นานนะ แป๊บเดียว เขาก็บินไปเยี่ยมเราบ้าง ไปเจอกันที่โตเกียว แต่ติ๊บเรียนอยู่ซัปโปโร เรื่องซัปพอร์ตการตัดสินใจ เขาก็ซัปพอร์ตหลายเรื่องนะคะ ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุขก็โอเค ติ๊บอยากทำอะไรก็ทำไปเลย ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาก็พร้อมที่จะช่วย มันดีใจนะ เราไม่รู้อนาคตเลยตอนนี้จะเป็นยังไงเพราะเหมือนกลับมานับหนึ่งใหม่ ถ้ามีคนเขาพูดอย่างนี้ก็ชื่นใจเหมือนกัน”
“ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขายังอยู่เคียงข้างเรา วันก่อนไปเดินตลาด เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นเลยนะ มีแม่ค้าพูดถึงเราว่าคนนี้แหละที่เขาเคยเป็นดารา เราไม่อยู่แค่ 3 เดือนเองสะเทือนใจเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ในมุมหนึ่งเขาก็ยังจำได้ว่าเราเป็นดารา ยังภูมิใจอยู่ จำได้ว่าเราเป็นตองนวลไง ค่อยหายใจโล่งหน่อย”
ยืดแต่งงาน ชีวิตเหมือนเข้าสนามรบอีกครั้งหนึ่ง ยังไม่มั่นคง
“เท่าที่ติ๊บคิดตอนนี้เหมือนเข้าสู่สนามรบอีกรอบหนึ่ง มันยังไม่มั่นคง ฉะนั้นก็คงยืดออกไปก่อน เขาก็โอเค รอได้ ก็ถามเราเองนี่แหละ ถ้าเขาไม่อยู่ก็ไปเลย คบกัน 7 ปีแล้วค่ะ ไม่ได้กลัวอาถรรพ์ 7 ปีเลย”
