“ชมพู่ อารยา” แข็งแรงที่สุด เดินจูงมือสามี “น็อต วิศรุต” เปิดใจเรื่องคลอดลูกแฝดชิลๆ รับมีพลังบวก คิดแต่เรื่องดีๆ ลุ้นแฝดหน้าฝรั่งหรือตี๋ เผยออกกำลัง ทำช่วงล่างให้แข็งแรง เพื่อฤกษ์คลอดที่ดีที่สุด พักแพลนมีลูกคนที่ 2 พักละคร 1 ปี ขอโฟกัสเรื่องน้ำนม จอง ร.ร.ให้ลูกถึง ม.6 แล้ว
ควงแขนมาเปิดใจแบบไม่ต้องพึ่งวีลแชร์เลยทีเดียว สำหรับคุณแม่สุดสตรอง “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กุมมือสามี “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ให้สัมภาษณ์เต็มๆ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ที่รพ.บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกหลังคลอดลูกแฝด “น้องสายฟ้า-น้องพายุ” ท่ามกลางบรรยากาศสุดชื่นมื่น ทั้งจากคนในครอบครัวและแฟนคลับ โดยสาวชมพู่ยอมรับว่าตนมีแต่พลังด้านบวก คิดแต่เรื่องดีๆ ระหว่างคลอดนั้นก็แอบเช็กนิดหนึ่งว่าลูกหน้าฝรั่งหรือตี๋
ชมพู่ : “ความรู้สึกก็ยังงงๆ นิดหน่อยเหมือนกันค่ะว่าใช่แล้วเหรอ มีความสุขดีค่ะ เหนื่อยๆ แต่ก็มันส์ดีเหมือนกัน”
น็อต : “ตอนเข้าห้องคลอดก็ดูรีแล็กซ์นะครับ”
ชมพู่ : “คือจริงๆ ค่อนข้างจะวางใจกับทั้งทีมแพทย์และทุกๆ อย่างค่ะ คือชมค่อนข้างจะ positive มากกับการท้องครั้งนี้ ก็คิดว่าถ้าเราทำทุกอย่างออกมาดีทุกอย่างก็น่าจะราบรื่น คือมีแต่พลังบวก เราคิดแต่เรื่องดีๆ ก็เลยค่อนข้างจะชิลค่ะ ใช้เวลาในห้องคลอดจริงๆ ก็ไม่นานค่ะ เร็วมาก แต่สแตนบายจะนานกว่า แต่ตอนผ่าจริงๆ แป๊บเดียวค่ะ"
น็อต : “ตอนนั้นอยู่ด้วยตลอดครับ เห็นหน้าลูกพร้อมๆ กันนะครับ จริงๆ แล้วชมเขามีสติตลอดเวลา เขาไม่ได้หลับ ให้กำลังใจด้วยการคุยไปเรื่อย คุณหมออีกท่านหนึ่งเขาก็ชวนพวกเราคุย ก็มีคุณหมอเด็กยืนประคองอีกท่านหนึ่ง”
เล่านาทีตื้นตัน เห็นหน้าลูกแฝด “สายฟ้า-พายุ” รีบเช็กหน้าฝรั่งหรือตี๋
ชมพู่ : “เห็นสายฟ้าก่อนค่ะ”
น็อต : “จริงๆ พอได้ฤกษ์คุณหมอก็ดึงออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงร้องเลย ร้องไห้ทันที เสียงดังมาก แล้วทีมงานก็รับไป เสร็จแล้วพายุก็ตามออกมา ผมก็ยังตื่นเต้นอยู่ น้ำตามาซึมทีหลังมากกว่า ตอนนั้นคงยัง ตอนนั้นยังตื่นเต้นและลุ้นว่าพอคนแรกออกมาเราก็ลุ้นอีกคนหนึ่งด้วย หลังจากที่เสร็จออกมาสองคนคุณหมอก็ห่อผ้ามาให้”
ชมพู่ : “ตอนนั้นชมก็ยังงงๆ อยู่ (หัวเราะ) ชมก็จะเช็กก่อนเลยว่าสาย ฝ. (ฝรั่ง) หรือว่าสายตี๋ (หัวเราะ) แต่รู้สึกว่าสายฟ้าแว้บแรกมาทางเรา ส่วนพายุเขาก็จะตี๋ๆ”
น็อต : “ตอนนี้ยังมองไม่เหมือนกัน ผมกลับมองว่าสายฟ้าน่าจะตี๋กว่า พายุเหมือนตาโตน่าจะออกแนวฝรั่งมากกว่า ตอนนั้นมีคุณหมอเยื้อน แล้วก็มีคุณหมออรดีเป็นคุณหมอเด็ก คุณหมอสุมณมาลย์มาบล็อกหลัง แล้วก็มีทีมงานอีก 2-3 คน ก็ประมาณ 5-6 คนอยู่ในห้องนั้น”
ชมพู่ : “น้ำหนักก็สมบูรณ์ค่ะ คือตอนที่เขาเอาสองคนมาให้ดูเราก็ยังนอนอยู่ ชมก็คิดว่ามันอยู่กันไปได้ยังไง (หัวเราะ) อยู่ในนั้นไปได้ยังไงตั้งสองคน มิน่าเราถึงหนักมาก เพราะเขาตัวใหญ่พอสมควร”
บอกสายฟ้ามาจากธุรกิจสามี พายุตามมาทีหลัง ขำๆ คุณพ่อหลุดโป๊ะบอกชื่อลูกแฝด
ชมพู่ : “จริงๆ ก็เดากันออกตั้งแต่แรก เพราะพ่อปล่อยโป๊ะ (หัวเราะ) คือพ่อเขายกคำว่าสายฟ้าขึ้นมาก่อน เพราะทำธุรกิจเกี่ยวกับสายไฟฟ้า”
น็อต : “จริงๆ ชื่อผมคุณพ่อตั้งก็เป็นชื่อที่มาจากธุรกิจเขา ชื่อน็อต ผมก็เลยพยายามจะลิงก์ชื่อให้ได้กับธุรกิจผม เพราะผมทำสายไฟฟ้า ก็เลยจะไปตั้งชื่อลูกว่าเด็กชายสายไฟฟ้าก็คงจะยังไง (ยิ้ม) แต่ผมก็สงสาร ก็ตัดคำว่าไฟออก เลยเป็นสายฟ้า ผมก็เลยบอกชมว่าสายฟ้ามั้ย ชมก็เลยคิดว่างั้นสายฟ้ามากับพายุ ก็เลยเอาชื่อนี้”
ชมพู่ : “เพราะพอแปลเป็นภาษาอังกฤษก็ธันเดอร์ ก็จะมากับสตรอม”
น็อต : “วันคลอดก็บังเอิญฝนตกพอดี”
ชมพู่ : “เกิดช่วงมรสุมเข้าพอดี”
รับต้องอั้นให้อยู่เพื่อฤกษ์คลอดลูกที่ดีที่สุด
น็อต : “อ.เกรียงไกรเป็นคนดูให้เหมือนเดิมครับ เพราะจริงๆ เราก็นับถือ อ.เกรียงไกร และทางอาจารย์ก็เป็นคนดูให้เอง แล้วฤกษ์เขาบอกมีวันนี้วันเดียวเลย”
ชมพู่ : "ชมก็มีหน้าที่อั้นให้อยู่ (หัวเราะ) เพราะว่าท้องแฝดถ้าจะอยู่ให้ครบมันก็ค่อนข้างต้องลุ้นกันนิดหนึ่ง เรื่องให้ยาชมว่าน่าจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คุณหมอเขาจะต้องให้ฮอร์โมน แต่เราก็พยายามทุกอย่างเพื่อที่จะเก็บเอาให้ได้ครบเทอม ก็คือ 37 สัปดาห์ แล้วก็ได้ตามฤกษ์ที่พ่อเขาอยากได้ด้วย”
น็อต : “ต้องชื่นชมชมมากเลยว่าทำได้ เพราะจริงๆ คุณหมอบอกว่าแค่ท้องเดี่ยว 37 สัปดาห์บางคนก็ไม่ถึงนะ แต่นี่ชมทำได้และเป็นท้องแฝดก็ต้องค่อนข้างดูแลรักษาตัวเอง และเอาใจใส่สังเกตตัวเองมากๆ ซึ่งต้องชื่นชมจริงๆ ว่าทำได้ดีมาก เก่งมากๆ”
รับต้องทำให้ช่วงล่างแข็งแรงที่สุด หยุดออกกำลังกายก่อนคลอดแค่ 4 วัน
ชมพู่ : “จริงๆ ตั้งแต่แรกๆ ก็พยายามจะให้ช่วงล่างเราแข็งแรง รับน้ำหนักเขาได้ และแน่นอนทางคุณหมอเขาต้องมีเรื่องของฮอร์โมนที่ประคองไปด้วย ชมก็ต้องระวังเรื่องน้ำหนัก ไม่ให้ร่างกายต้องรับอะไรที่ไม่จำเป็น เรารับแต่น้ำหนักน้องเขาจริงๆ และที่ออกกำลังกายก็คือท่าจะเน้นเกี่ยวกับท้องล่างหรือว่าเชิงกราน เพื่อที่จะเอาเขาให้อยู่ให้ได้ค่ะ ก็มาหยุดออกกำลังกาย 4 วันก่อนคลอดค่ะ จริงๆ การอยู่ครบเทอมมันก็ดีทั้งกับเราและเขาด้วย เพราะพอเขาออกมาข้างในอวัยวะทุกอย่างทำงานได้หมด น้ำหนักได้ ปอด หัวใจเขาเต็มที่ คือสบายใจ ไม่ต้องออกมาแล้วต้องติดเครื่องมือช่วยเขามากมาย การออกกำลังกายสำหรับชมคิดว่าช่วยให้ชมเก็บเขามาได้ถึง 37 สัปดาห์”
น็อต : “เพราะตอนคุณหมอผ่าออกมาคุณหมอเด็กก็ยืนดูอยู่ คุณหมอบอกว่ากล้ามท้องเป็นมัดๆ เลย ไม่มีไขมันเลย คุณหมอชมเลยครับ”
ชมพู่ : “น้ำหนักชมขึ้นมา 10 กิโลค่ะ ตอนนี้ก็ยังเหลือพวกที่เป็นน้ำคร่ำอยู่ในร่างกาย แต่ส่วนมากก็อยู่กับน้องหมด”
ดูคลิปน้ำตาจะไหล เปิดใจโฟกัสเรื่องน้ำนมที่สุด
ชมพู่ : “ก็ยังสู้กันอยู่ค่ะ แต่ชมมีน้ำนมตั้งแต่วันแรกเลย แต่ไม่ได้เยอะอะไรมาก แต่มาจริงๆ ก็คือเมื่อวาน นี่ไม่อยากจะคุยเลยนะ (หัวเราะ) คือด้วยความที่ชมตั้งใจกับครั้งนี้มาก ก็เลยอาจจะทำให้ชมไม่มีน้ำตา แต่เวลาที่เราได้ดูภาพอย่างอื่น อย่างเช่นดูรูปลูก ดูคลิปโดยที่เราไม่ได้ทำหน้าที่อยู่ น้ำตามันจะไหล แต่เวลาที่ให้นมเราจะโฟกัสกับว่าเราต้องทำให้ได้ อย่างเช่นตอนชมอยู่ในห้องพักฟื้น ตอนนั้นสายฟ้าเขาพร้อมก่อน เราก็ยังนอนอยู่ เขาก็เอามาให้เข้าเต้าเลย เราก็ไม่ได้คิดอะไรว่าจะซึ้งไม่ซึ้ง คิดแต่ว่ามีนมมั้ยวะ คือเราอยู่กับสิ่งๆ นั้น”
“ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ค่ะว่าจะให้นมเขาไปถึงอายุเท่าไหร่ แต่ ณ เวลานี้ทิศทางก็ดูดี เพราะว่าวันนี้ก็เข้าวันที่ 4 แล้ว ก็มีสต็อกแล้ว แต่ไม่ถึงกับมีสต็อกไปเป็นเดือนหน้านะ แต่หมายถึงมีให้มื้อนี้ มื้อหน้าอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็พอสำหรับน้องสองคนค่ะเคยเข้าเต้าพร้อมกันสองคนแล้ว แต่อาจจะยังใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ตอนนี้ก็จะถนัดเป็นคนเดียวมากกว่า แล้วก็สลับกับขวดด้วย ทั้งเข้าเต้าและขวดเลย”
รับสุขภาพลูกแฝดแข็งแรงดี หมออนุญาตให้กลับบ้านแต่ชมพู่ยังไม่อยากกลับ พักงาน 1 ปีเลี้ยงลูกให้เต็มที่
น็อต : “คุณหมอก็จะตรวจทุกวัน เวลาคุณหมออรดีตรวจเขาก็จะเชิญเราไปดูด้วย แต่ชมเขาจะลุกไม่ไหว ผมก็จะเป็นคนไป ก็โอเคครับ ก็แข็งแรงดี จะได้กลับบ้านแล้ว แต่เรายังไม่ยอมกลับ”
ชมพู่ : “คือชมอยากให้เรื่องให้นมเป็นระบบ อยากให้มันเป็นเวลาได้ดั่งใจเราก่อน และพอทุกอย่างเซ็ตเป็นระบบพอกลับบ้านก็จะได้ไม่ต้องงมกันเองมาก ทั้งเราทั้งน้องก็ยังเรียนรู้กันอยู่ค่ะ นมก็อาจจะยังไม่ค่อยเป็นเวลา ก็อยากเป๊ะๆ แล้วค่อยกลับบ้าน ตอนนี้ก็อยู่ไปก่อน (หัวเราะ) คือต่อให้มีคนช่วยก็จะให้เป็นมือเป็นไม้มากกว่า แต่ไม่ใช่ว่ามาเลี้ยงให้เรา เพราะปีนี้ยังไงชมก็ไม่ได้รับละครอยู่แล้ว ก็คิดว่าช่วงขวบปีแรกก็จะเต็มที่”
น็อต : “เราก็ยังใหม่ๆ อยู่นะครับ ไม่รู้จะช่วยเลี้ยงยังไง เพราะว่ามีนางพยาบาลหลายท่านมาช่วย ช่วงนี้จะเป็นเรื่องของปั้มนมมากกว่า แล้วก็ป้อนนม ยังไม่ได้ช่วยอะไรมาก ก็หัดอุ้ม หัดประคอง แต่ยังไม่ได้อาบน้ำ”
ชมพู่ : “ตอนนี้ยังไม่ได้ไปเรียนอาบน้ำเลย ชมโดดทุกวันเลย เพราะว่าเอาเรื่องนมก่อน เพราะปั้มนมก็หมดแรงแล้ว”
ยิ้มปลื้ม ย่ายายลุ้นหลานแฝดจนเป็นลม
น็อต : “ได้ข่าวเหมือนกันว่าเป็นลมหน้าห้อง ก็ดีใจกันทั้งคู่ มีความสุข คือตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลที่นี่เขาดูแลดีมาก เขาช่วยเราได้เยอะมากครับ จริงๆ คุณหมอถึงอยากจะรีบไล่เรากลับบ้าน เพราะรีบไปทำซะ จะได้รีบๆ เป็น จะได้เก่งสักที อยู่ที่นี่เราก็ไม่เป็นสักที”
ชมพู่ : “เพราะอยู่ที่นี่ก็มีความช่วยเหลือ”
น็อต : “ที่บ้านก็พร้อมนานแล้วครับ ชมเขาเตรียมไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนแล้วครับ”
ชมพู่ : “ก็เตรียมไว้ค่ะ แต่ชมว่ามันไม่มีคำว่าพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเจอ ลิสต์ของอะไรที่เราต้องมีมันก็มีแหละ แต่ว่าถึงเวลาจัดวางอะไรอยู่ตรงไหนถึงจะสะดวกมันเป็นเรื่องที่เราต้องไปเรียนรู้หน้างาน ชมว่ามันไม่มีคำว่าพร้อมที่สุดหรอก”
ขำๆ ภาพถ่ายครอบครัวเป็นปรากฎการณ์ใหม่ เปิดใจแค่อยากมีภาพที่สวยๆ เก็บเอาไว้ให้ลูก
ชมพู่ : “(หัวเราะ) ก็คิดว่าอยากมีภาพครอบครัวสวยๆ แหละ เป็นอะไรที่เราก็อยากเก็บให้เขา อยากทำดีๆ ให้เขาแค่นั้นเอง คนบอกว่าเป็นปรากฎการณ์ (หัวเราะ) ก็กลัวว่าจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่จริงๆ มันไม่ได้อะไรมาก เราก็เซ็ตถ่ายกันใกล้ๆ ห้องพักแหละค่ะ ก็พอไหวๆ”
“ถ่ายไม่นานหรอกค่ะ เพราะเราคุยกันกับทางทีมอยู่แล้วว่าเราต้องเซฟน้อง ทุกคนก็ต้องมายืนซ้อมบล็อกกิ้งกัน พอถึงเวลาก็เอาน้องเข้า รวมถึงเซฟดิฉันด้วย ดิฉันจะเหนื่อยกว่าคนอื่น (หัวเราะ) ก็ถ่ายวันรุ่งขึ้นหลังคลอดค่ะ ก็ได้พักอยู่”
กังวลแผลผ่าตัด รับของานละเอียดจากคุณหมอ บอกขำๆ หมอไม่ต้องรีบ
ชมพู่ : “(หัวเราะ) จริงๆ ก็วางใจคุณหมอแหละค่ะ เราก็ได้คุณหมอที่เก่งมากๆ แต่ก็มีนิดหนึ่ง”
น็อต : “คือเขาบล็อกหลังอยู่ก็จะเบลอหน่อยๆ พอลูกคนแรกออกมาก็ร้อง พอคนที่สองออกมาก็ร้อง ชมก็ถามว่าออกมาครบแล้วใช่มั้ย ผมก็บอกว่าครบแล้วๆ เขาก็ถามว่าแผลใหญ่มั้ย ผมก็บอกกำลังเย็บแผลแล้ว เขาก็ถามว่าเย็บสวยหรือเปล่า (ยิ้ม)”
ชมพู่ : “ถามหมอว่าแผลใหญ่หรือเปล่า หมอก็บอกว่าก็เท่าหัวเด็ก เพราะชมคุยกับคุณหมอตั้งแต่แรกว่าช่วงเย็บชมขอหลับไป แต่ชมก็จะรู้ว่าช่วงนี้กำลังเย็บและใกล้จะหลับ ชมก็เลยพูดกับหมอว่าหมอไม่ต้องรีบนะ เย็บดีๆ นะ เป็นประโยคสุดท้าย (หัวเราะ) งานละเอียด แต่ตอนนี้ยังปิดแผลอยู่เลย ชมยังไม่ได้เปิดดูเลยค่ะ แต่คุณหมอก็ขึ้นมาเช็กทุกวัน บอกว่าแผลสวยๆ มันก็ยังเจ็บๆ แต่ชมคิดว่ามันคงเจ็บปกติแหละ เชื่อว่าทุกคนที่ผ่านตรงนี้ก็ต้องเจ็บ”
พักเบรกลูกคนที่ 2 น็อตบอกอยากได้ลูกสาวเพิ่ม
ชมพู่ : “โอ้โห พักก่อน (หัวเราะ) เพราะท้องแฝดมันก็หนักเหมือนกันนะ ก็อาจจะต้องขอปล้ำกับสองคนนี้ก่อน”
น็อต : “ก็คิดว่าควรจะมีลูกสาวด้วยนะครับ ก็คุยกันอยู่ ก็ยังตั้งใจอยากได้เป็นทีมฟุตบอลอยู่นะครับ (ยิ้ม) ค่อยๆ ปลอบทีละคน”
ชมพู่ : “ต้องเป็นลูกบุญธรรมแล้วล่ะค่ะ (หัวเราะ)”
น็อต : “ตอนนี้ยังไม่พูดถึงครับ เห็นใจเลยว่าคนเป็นแม่เป็นยังไง ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอด แล้วต้องอยู่อย่างนี้ ช่วงนี้ก็พักก่อนแล้วกัน เรื่องของรับขวัญก็มีเพื่อนๆ ทยอยเข้ามาเยี่ยม มารับขวัญกันเรื่อยๆ ครับ ของขวัญยังไม่ได้ดูอะไรมากครับ ก็มาเรื่อยๆ ช่วงนี้ก็รับไว้อย่างเดียว”
ไม่ธรรมดา จองโรงเรียนให้ลูกล่วงหน้า ตั้งแต่เนอสเซอรี่ยัน ม. 6
น็อต : “ก็มีบ้าง ให้ชมพูดแล้วกัน”
ชมพู่ : “ของพี่น็อตเขาจะมองเรื่องไกลๆ แต่ชมจะคิดเรื่อง 1 - 2 ปีข้างหน้าแล้ว เพราะว่าเดี๋ยวนี้พวกเนอสเซอรี่หรือโรงเรียนอนุบาลจองยากมาก (ลากเสียงยาว) ก็ต้องจองไว้แล้ว แต่ก็เกือบไม่ทันนะ คิวเกือบๆ 100 นะ ประมาณ 80 ตอนนี้จองเนอสเซอร์รี่ค่ะ”
น็อต : “ตอนนี้ที่วางไว้ก็คือถึงจบ ม.6 ครับ แต่ไม่ใช่โรงเรียนเดียวนะครับ เราก็วางเอาไว้ว่าอยากได้ที่นี่ๆ”
ชมพู่ : “ถ้าไม่ได้ที่นี่แผนสองคือที่ไหนอะไรประมาณนี้ค่ะ”
น็อต : “แต่ก็ยังไม่แน่นอนครับ จริงๆ ก็มีคุยไว้ที่ต่างประเทศด้วยครับ”
ปล่อยมิวสิกวิดีโอในไอจี หวังว่าตอนโตลูกจะได้เห็น
น็อต : “ก็อยากจะทำเก็บไว้ให้ลูกครับ จะได้ให้ลูกเขาเก็บเอาไว้ดูตอนเขาโต ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็อยากชม เราก็ทำออกมานิดๆ หน่อยๆ”
ชมพู่ : “เรื่องที่บอกว่าเราคลอดลูกเป็นวาระแห่งชาติ จริงๆ ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น แต่ก็ดีใจ เพราะถ้าทุกคนรักเขา เราก็ดีใจ”
น็อต : “เรื่องเลี้ยงลูกแบบไหน อันนี้ผมว่าธรรมดานะ เราก็ต้องมีการวางแผน พยายามศึกษาว่าเราควรจะเลี้ยงลูกยังไง ก็คุยกันตลอดเวลา เป็นเรื่องที่คุยกันทุกวัน ผมว่าคงเลี้ยงแบบโลกยุคใหม่มากกว่า ก็คือเอาสิ่งดีๆ ทุกอย่างมา สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับเขา”
น็อต : “ถามว่าจะถ่ายภาพครอบครัวอีกมั้ย จริงๆ ผมว่ามีคนช่วยถ่ายเยอะ”
ชมพู่ : “เชื่อมั้ยชมยังไม่เคยถ่ายรูปลูกเลย เพราะว่ามันง่วนเชียงมาก เดี๋ยวปั้มนม เดี๋ยวคนนั้นคนนี้มา ในโทรศัพท์ก็คือมีแต่รูป”
น็อต : “โดยมากก็จะเป็นคนที่มาเยี่ยม พี่ๆ ผม ป้าๆ น้าๆ”
ไม่อยากให้ลูกเข้าวงการ อยากให้เป็นนักบอลมากกว่า
ชมพู่ : “เรื่องแบรนด์ต่างๆ จองตัวน้องต้องถามทางหวานเจี๊ยบค่ะ (หัวเราะ) แต่คงอีกสักพักกว่าจะทำงานได้ นี่หวานเจี๊ยบก็จองเป็นมินเนี่ยน ออฟ สตาร์แล้ว (หัวเราะ)”
น็อต : “(ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากให้ลูกเข้าวงการมั้ย น็อตส่ายหัว)”
ชมพู่ : “(หัวเราะ)”
น็อต : “ผมอยากให้เขาเป็นนักบอล”
พักละคร 1 ปี ทุ่มเทเวลาให้ลูก เผยวิถีมนุษย์แม่ เป็นอะไรที่แปลกใหม่และท้าทาย
ชมพู่ : “ภายใน 1 ปีนี้ก็คงเป็นงานที่ทำวันเดียวจบ แต่ถ้างานที่ใช้เวลาอย่างละครอาจจะต้องพักสักปีหนึ่งก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกที แต่ออกไปแว้บๆ ถ่ายรายการ ถ่ายโฆษณาได้ ถามว่ามุมมองความเป็นแม่เปลี่ยนไปมั้ย เราก็รู้สึกว่ายังเป็นเรานี่แหละค่ะ เพียงแต่มันเป็นการเรียนรู้ ก็เหมือนมาทำความรู้จักกันใหม่ ก็มันส์ดีสำหรับชม เป็นอะไรที่ท้าทาย เป็นสิ่งใหม่ที่เราตั้งตารอและอยากจะทำให้ดี”
“เรื่องน้ำหนักเดี๋ยวถ้ากลับไปออกกำลังกายได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่จริงๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะน้ำหนักไม่ได้ขึ้นมามาก เชื่อว่ากลับไปได้”
บอกลูกแฝดแตกต่างแค่ไหนยังดูยาก แต่รับทั้งสองคนชอบนอนท่าเดียวกับคุณแม่ ชมพู่แอบแซวงานมโนก็มา
น็อต : “ก็ยังดูยากนะครับ แต่สายฟ้าจะลืมตาบ่อยกว่า พายุจะสไตล์เงียบๆ นอน แต่ถ้าไปกวนแล้วลืมตาขึ้นมาจะร้อง แต่สายฟ้าจะลืมตาบ่อยและร้องบ่อยกว่า”
ชมพู่ : “ชมว่าพายุร้องบ่อยกว่าค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าแต่ละคนที่มาก็จะมโนไปต่างๆ นานาว่าคนนี้คาแรคเตอร์เป็นแบบนี้ๆ งานมโนล้วนๆ เลยตอนนี้ ก็ต้องดูไปเรื่อยๆ ถามว่าแยกลูกออกมั้ย พายุเขาจะหน้ายุ่งๆ ตลอด”
น็อต : “สายฟ้าคิ้วจะขมวดตลอดเวลา เครียดมาก แต่ว่าพายุเขาจะหลับตานอนนิ่งๆ แต่สองคนจะชอบนอนท่าเดียวกับคุณแม่ ชอบนอนยกมือ”
ชมพู่ : “บอกแล้วว่าตอนนี้งานมโน (ใส่กางเกงยีนส์ ไม่ทิ้งลายแฟชั่นนิสต้าร์?) จริงๆ มันใส่ง่าย เป็นกางเกงยีนส์คนท้องค่ะ ใส่สบายดี (ยิ้ม) สำหรับลูกเหรอ คิดว่าถ้าพอมีแรงก็คงสนุกกับเขา”
