“หนุ่ม สันติสุข” ทำใจ “แม่” ไม่ฟื้นคืนชีพเป็นครั้งที่ 2 เผยไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะฟื้นคืนชีพได้ เพราะภาวะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน สูญเสียแม่ในวันแม่จะเป็นวันที่จะระลึกถึงแม่ให้มากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา “คุณแม่สุวรรณา” แม่ของ “หนุ่ม สันติสุข พรหมสิริ” ที่รับการรักษาตัวอย่างกะทันหันด้วยอาการด้วยภาวะหายใจติดขัด พบว่า มีความดันต่ำ, ไตวาย, เส้นเลือดในสมองตีบและติดเชื้อในกระแสเลือด ที่โรงพยาบาลวิภาราม และหัวใจหยุดเต้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่แล้วหัวใจก็กลับมาเต้นอีกครั้งและหายใจได้อีกครั้ง จนกลายเป็นกระแสข่าวฮือฮาว่าคุณแม่สันติสุขฟื้นคืนชีพ แต่เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ก็ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด และภาวะหัวใจล้มเหลว ในวัย 84 ปี โดยได้จัดพิธีรดน้ำศพที่ ศาลา 9 วัดบางเพ็งใต้
บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า รวมไปถึงเหล่าคนบันเทิงได้ส่งพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัย อาทิ วิชญ - ตะวัน จารุจินดา บริษัท มงคล การละคร จำกัด, พลากร - ดวงดาว สมสุวรรณ, สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7, อั้ม อธิชาติ - นัท มีเรีย, บริษัท ไฟวสตาร์ โปรดักชั่น จำกัด, ณรงค์ - กอบสุข จารุจินดาและครอบครัว, JSL Global Media, ต่อบุญ สุพรรณเภสัช และครอบครัว, TV scene, สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี, สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, ฝ่ายผลิตรายการช่อง 3, อรอุมา - ปิ่นกมล มาลีนนท์, รอน AF5, โฉมฉาย - พนิตนาฏ ฉัตรวิไล ซึ่งหนุ่มก็ได้เปิดเผยถึงการจากไปของแม่ ว่า แม่เสียชีวิตในวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันแม่ และจะเป็นวันที่จะระลึกถึงแม่ในทุกๆ ปีได้ชัดเจน
“คุณแม่เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา จากอาการเนื่องจากหลายๆ โรค ทั้งหายใจติดขัดหายใจถี่และแรง น้องชายของผมจึงพาส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันนั้น โดยแม่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู จนกระทั่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังจากถอดอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว คุณแม่กลับมาหายใจได้อีกครั้ง อย่างที่เป็นข่าว จึงอยู่โรงพยาบาลต่อ โดยคุณแม่อาการดีขึ้นนิดหน่อย จากที่เคยตัวเย็นก็ตัวอุ่นลงขยับตัวได้ แต่เริ่มมีอาการหอบ จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง อัตราการเต้นของหัวใจขึ้นๆ ลงๆ”
“จนวันที่ 12 สิงหาคม เวลา 03.55 น. ซึ่งผมไม่ได้อยู่กับคุณแม่ พี่สาวโทร.มาตอน 04.00 น. ว่าคุณแม่สิ้นลมแล้ว ครั้งนี้คุณแม่คงไม่ได้กลับมาหายใจเหมือนครั้งก่อน เพราะเป็นการรักษาของคุณหมอและชีพจรก็นิ่งสนิท รวมทั้งคุณหมอได้เฝ้าสังเกตอาการอยู่หลายชั่วโมง ตอนเช้าจึงพาไปห้องเย็นและฉีดฟอร์มาลิน คุณหมอบอกว่า การที่คุณแม่ได้กลับมาหายใจอีกครั้งนั้น เคยมีแบบนี้มาแล้วหลายเคส แต่ยังเป็นเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ เพราะร่างกายมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนหัวใจหยุดไปนานกว่านี้ก็กลับมาได้ บางคนถึงขั้นเข้าห้องดับจิตแล้วกลับมาได้ก็มี”
“ตัวผมเองก็ทำใจไว้แล้วระดับหนึ่ง เพราะการที่คุณแม่กลับมาหายใจนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม ร่างกายเหมือนเสียชีวิต เพราะสมองไม่รับรู้ มีเพียงแค่หัวใจที่ยังเต้นอยู่ ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าเป็นบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ จนคุณแม่กลับมามีอาการอีกครั้ง คือ ตัวเย็น มือซีดและสิ้นลมในที่สุด ผมก็อยากให้คุณแม่เขาไปสบายไม่อยากให้ทรมาน ทุกอย่างเป็นวัฏจักรอยู่แล้วเราก็ทำใจ”
แม่เสียวันที่ 12 สิงหาคม จะเป็นวันที่จะระลึกถึงคุณแม่ได้ชัดเจน
“ครั้งสุดท้ายที่คุยกับคุณแม่ท่านก็มีหลงๆ บ้าง เพราะอายุ 84 แล้ว ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลก็พูดคุยกันปกติ ท่านไม่ได้สั่งเสียอะไร คุณแม่ยังใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะจากไปยังทำงานทำกับข้าว”
“ก็ถือว่าเสียคุณแม่ไปในวันแม่ ก็จะได้ระลึกถึงคุณแม่ได้ชัดเจนขึ้นเลยว่า 12 สิงหาคม เป็นวันที่คุณแม่จากไป ขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ผมเกิดมา ผมก็พยายามดูแลท่านให้ดีที่สุด เราค่อนข้างสนิทกับคุณแม่ อยู่กันจนจากกันไปก็หวิวๆ อยู่เหมือนกัน แม่จะทำกับข้าว เย็บเสื้อผ้าให้ สมัยเราเข้าวงการใหม่ๆ ก็ผูกพันกับคุณแม่มาก คุณแม่สอนเรื่องให้รักครอบครัวและพี่น้อง พอตอนเราตกทุกข์ได้ยากก็จะมีพี่น้องช่วยเหลือกัน”
พ่อสั่งไว้ อย่าเก็บกระดูกแม่ไว้
“วันนี้เป็นการสวดวันแรก และสวดไปถึงวันศุกร์ ซึ่งคืนวันศุกร์จะสวดสองรอบ เพราะงานศพให้สวดเป็นเลขคี่ วันเสาร์จะเป็นพิธีฌาปนกิจตอน 16.00 น. หลังจากนั้น ก็จะไปลอยอังคารที่สัตหีบที่เดียวกับคุณพ่อ เพราะคุณพ่อสั่งว่าอย่าเก็บไว้ครับ”