ฮึดสู้ 14 ปี “แห้ว รีเจนซี่” รอดตายจากโรคมะเร็งตับ เผยยังห่วงเส้นเลือดในสมองตีบ ชี้เป็นโรคเวรกรรม ชีวิตอยู่ได้อีกนานถ้าไม่ประมาท เผยกลับจากอเมริกาหันปลูกผักผลไม้ออแกนิก อยากทดแทนคุณแผ่นดิน
หายหน้าวงวงการไปร่วม 15 ปี สำหรับ “ปณิธาน สังข์ประเสริฐ” หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม “แห้ว รีเจนซี่” ที่วันนี้เจ้าตัวมาเปิดใจในรายการจุดเดือด ทางช่อง 2 บันเทิงมาเต็ม (หมายเลข 38) โดยพีธีกรคู่เดือด อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ, โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา ร่วมด้วยฝันครุสุดา วันมา ซึ่งเจ้าตัวมาเผยถึงการใช้ชีวิตที่อเมริกากว่า 14 ปี และต่อสู้โรคมะเร็งตับจนวันนี้เกือบจะหายเป็นปกติแล้ว
“ในโรคเดิมคือมะเร็งดีขึ้นครับเกือบจะสมบูรณ์ เกือบจะเป็นปกติแล้ว เส้นเลือดในสมองตีบก็ปกติ เพราะคุมเรื่องอาหาร แล้วก็ออกกำลังกาย ไม่ได้ให้ยาอะไรแล้วครับ ตั้งแต่เริ่มต้นมาก็ไม่ได้ให้ยา ไม่ได้คีโม สิ่งที่ทำก็เลยดูแลร่างกาย อาหาร ควบคุมโดยตลอด”
“ตอนนี้ที่เป็นอยู่ที่ห่วงก็คือเส้นเลือดในสองตีบ เพราะว่าต้องคุมเรื่องคอลเลสเตอรอลสูงมาก มันจะมีอยู่ 2 ตัว บางทีตัวดีลด ตัวไม่ดีมันเพิ่ม เผลอนิดเดียวก็เอาแล้วทันที แต่ผมเชื่อนะโรคนี้เหมือนโรคเวรโรคกรรมครับ วิถีทางแห่งชีวิตก็เลยไม่ค่อยอยากจะประมาทตรงนี้”
เผยรู้ตัวเป็นมะเร็งระยะที่ 3 ไม่ทำคีโม เน้นบำบัดด้วยยา ส่วนค่าใช้จ่ายบุญหนุนนำอยู่อเมริกาเป็นผู้มีรายได้ต่ำ
“ตอนที่ไปอยู่อเมริกาค่อนข้างจะปรับตัวยากหน่อย ในส่วนของงาน เราเคยทำงานที่เบา ๆ ด้านการแสดงมาตลอด 20 กว่าปี แต่ไปสัมผัสงานที่อเมริกาซึ่งเป็นงานซูเปอร์มาร์เก็ต ก็พยายามปรับตัว ตอนอยู่ที่โน่นอย่างเร็วพอสมควร แล้วก็ได้มีตำแหน่งเพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายยังพอไหว พอรับไหว งานที่โน่นถึงจะไม่หนัก แต่การปรับสภาพที่ไม่เคยรับงานที่ต้องยก ต้องจัด ต้องทำอะไรทุกอย่างตลอดเวลา ก็เลยรู้สึกว่า มันเป็นการปรับตัวที่ค่อนข้างยากลำบาก”
“ก็เป็นมา 10 กว่าปีครับ รักษาที่อเมริกา หมอที่โน่นก็บำบัดด้วยยา แต่ไม่ได้ให้คีโม ตั้งแต่ ปี 2002 ตอนที่ทราบว่าเป็นก็ระยะที่ 3 ตอนนี้กลับมาเกือบปกติ โรคนี้อาจจะกลับคืนมาอีกก็ได้”
“เรื่องค่าใช้จ่ายก็บุญยังส่งครับ ที่โน่นไม่เสียอะไร ไปอยู่ส่วนของผู้ที่มีรายได้ต่ำ ในชีวิตนี้ค่อนข้างจะโชคดีอย่างหนึ่งที่บุญกุศลที่ทำส่งผลให้ไปเจอผู้ที่ให้ความอนุเคราะห์ นำพาไปในส่วนที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย แม้แต่ตอนที่บวชอยู่ตอนนั้นก็ได้รับความอนุเคราะห์จากคนไทยที่อยู่ที่นั่น พาไปในส่วนที่ไม่มีรายได้ เป็นพระนะครับที่โน่นพระก็ถือว่าเป็นอาชีพหนึ่ง เขาจัดการให้ ไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดตาซ้ายที่ตอนนั้นเป็นต้อก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูแลค่ายา เสียนิดเดียว เช่นค่ายายกตัวอย่างว่า 130 เหรียญ เราก็จะเสียประมาณ 1 - 2 เหรียญครับผม”
จิตใจสำคัญที่สุด แนะคนใกล้ตัวอย่าจี้จุดถามถึงโรคมะเร็ง ชี้ชีวิตอยู่ได้อีกนานถ้าไม่ประมาท
“พูดถึงเรื่องการต่อสู้ ผู้ใดที่มีโรคประจำตัว หรือว่ากำลังป่วยหนักถ้าคิดจะสู้ สิ่งหนึ่งนอกจากความรู้เกี่ยวกับโรคที่เราเป็นแล้ว สำคัญที่สุดคือดูแลตัวเองด้วยครับ ดูสาเหตุโรคนี้ ศึกษาด้านอาหารการกิน มีโอกาสออกกำลังกายได้ก็ยิ่งดีเลย ถ้าให้ยามากก็จะไปลงถึงไตกับตับ ทำงานมากก็จะมีผลต่อเนื่องอีก หายจากโรคนี้ก็จะเป็นโรคนี้ ถ้าวิถีทางแห่งชีวิตอดทนได้บางท่านนะครับ ผู้มีรายได้ต่ำผมจะได้ยินเสมอต้องรอนนาน”
“บางทีจิตใจสำคัญครับ ขอพูดว่ายาที่สำคัญที่สุดคือใจ ถ้าใจเราคิดว่าเราจะสู้ เราต้องบอกใจเราด้วยว่าเราต้องดูแลอะไรบ้าง ผมจะบอกคนใกล้ตัวเสมอว่าถามครั้งเดียว ตอบครั้งเดียว เวลาไปเยี่ยมคนป่วยสิ่งแรกก็ต้องถามว่าเป็นไงบ้าง อย่าถามเขาเลยครับคำถามนี้ คนไข้เขาอยากตอบอย่างอื่นมากกว่าสิ่งที่จะบอกว่าไม่ไหวแล้ว หรือดีขึ้น ถามเรื่องอื่นเลยครับ เมื่อคืนดูทีวีอะไรบ้าง เขาจะคุยได้มากกว่า อันนี้คือข้อคิดของผมนะครับที่ผมได้กับตัวเอง”
“ตอนนี้แข็งแรงครับแข็งแรงเกือบจะปกติ เป็นชีวิตที่ถึงมันจะไม่... มันอาจจะกลับมาอีกก็ได้ สิ่งเหล่านี้ผมไม่ประมาท สิ่งที่เราไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ทำให้เรายังอยู่ได้อีกนาน”
กลับเมืองไทยอยากทดแทนคุณแผ่นดิน หันปลูกผักผลไม้ออแกนิก
“เดินทางกลับมาตอนช่วงประมาณสิงหาคมปีที่แล้ว คิดว่ายังมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ยังไม่ได้ทำ อยากทำทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ไม่เคยลืมคำว่าแผ่นดินเกิด ยังนึกถึงตรงนั้นอยู่ตลอดเวลาแต่โอกาสและจังหวะที่นำทางไปเนี่ยทำให้รู้สึกว่าตัวเองต้องจากถิ่นที่เกิด ก็เลยรู้สึกว่าตัวยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ทดแทน อย่างน้อยไปอยู่เมืองนอกก็ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า ถ้าลืมถิ่นเกิดแล้ว เราก็คงไม่เจริญหรอก”
“ตอนกลับมาเมืองไทยก็ยังไม่ได้คิดทำอะไร แต่พอมาเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในเมืองไทย แล้วก็ได้ข้อคิดตอนบวชเรียน ก็เลยคิดว่าอยากจะทำเกี่ยวกับด้านออแกนิค ผัก ผลไม้ มองเห็นว่าวันหนึ่งข้างหน้าคงจะมีประโยชน์ อีกอย่างหนึ่งไม่บาป ไม่ใช้สารเคมี คิดว่าทำเป็นทานได้ด้วย หมายถึงว่าให้กับผู้ที่ปฏิบัติธรรม เขาจะได้กุศลในการบริโภคได้ด้วย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ”
“ผมคิดว่าจะดูที่ต้นทุนต่ำๆ อะไรที่หาได้ หาได้ง่าย ดูจากสารคดีเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ผมรู้สึกว่าผมชอบ ชอบที่จะทำ แต่ให้ลงแรงลงกายอย่างนั้นอาจจะทำไม่ได้ อาจจะเป็นตัวกลางแต่ก็คิดว่าจะทำตรงนี้”
งานในวงการยังมีบุญวาสนา “กอบสุข จารุจินดา” ป้อนละครให้เล่นหนึ่งเรื่อง
“งานในวงการถ้าวาสนายังมี ก็รักครับ รักงานในวงการบันเทิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่วิถีทางแห่งชีวิตมันไม่สดใสเหมือนคนอื่นเขา คิดว่าเมื่อไหร่ได้มีโอกาสได้สัมผัสตรงนี้อีกก็ต้องขอบคุณบุญกุศลที่ยังเกื้อหนุนตัวเองอยู่”
“ละครก็มีครับ สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจคือ มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ กลับมาก็ไปกราบและทักทายผู้ที่ให้ความเคารพหลาย ๆ ท่าน ก็มีพี่กอบสุขนะครับ ท่านอนุเคราะห์ให้ละครเล่น 1 เรื่อง เรื่องบุญหล่นทับ ก็เป็นจังหวะที่แปลกดีนะครับ สิ่งเหล่านี้มันเหมือนบุญเรานะที่นำเรามาอยู่ตรงนี้ เราได้ตรงนี้ ก็ขอบพระคุณท่านอย่างสูงเลย”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม